“บังยี” อัด “สมยศ”! ถ้าตนคุณสมบัติไม่ผ่าน “สมยศ” ก็ต้องไม่ผ่านด้วย

“บังยี”วรวีร์ มะกูดี อดีตนายกลูกหนังไทยตั้งโต๊ะแถลง จัดหนัก นายกสมยศ ต่อหน้าสื่อ ทั้งนายกฯตั้งเงินเดือนตัวเอง 1 ล้านบาท แต่ไม่จ่ายเงินสโมสร และข่วยเหลือพวกพ้อง แถมมีจ่ายเงินปิดปากสโมสรสมาชิก

“บังยี”วรวีร์ มะกูดี อดีตนายกสมาคมฟุตบอลฯ ได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าวชี้แจงทุกกรณีของปัญหาการลงรับสมัครเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลฯล่าสุด ทั้งการโดนตัดสิทธิ์และการเตรียมฟ้องกลับ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง นายกสมาคมฟุตบอลฯคนปัจจุบันด้วย

โดย นายวรวีร์ ได้เปิดใจสาเหตุในการกลับมาลงเลือกตั้งอีกครั้งว่า เพราะทนเห็นความตกต่ำความซบเซาวงการฟุตบอลไทยไม่ได้ ทนเห็นคนดูน้อยลง สโมสรยุบทีมไม่ได้ เพราะการบริหารของคนไม่รู้เรื่องฟุตบอล

จากนั้น นาย วรวีร์ ได้ชี้แจงเกี่ยวกับเรื่องภาษี ที่สมาคมฟุตบอลฯเตรียมฟ้องร้องหนี้สิน กว่า 27 ล้านบาท ว่า ในอดีตการได้รับเงินจากสปอนเซอร์ เราก็บริหารการจัดการทันที แต่เรามีทั้งรายรับและรายจ่าย ซึ่งเมื่อมีภาษีมา เราก็มีรายได้ที่สามารถนำมาจ่ายได้ หากสรรพากรมาเก็บเราก็พร้อมจ่าย เรื่องนี้ความจริงไม่น่ามาเป็นเรื่องราวได้ เพราะเรื่องนี้หากตนผิดจริง เชื่อสมาคมฯก็คงฟ้องร้องไปตนนานแล้ว ไม่ไช่ตอนนี้ ในช่วงการเลือกตั้ง

จากนั้น บังยี ได้โชว์หนังสือของสมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชียหรือเอเอฟซี ในการเตรียมฟ้องร้องสมาคมฟุตบอลฯ เนื่องจาก การดำเนินการรับสมัครไม่ถูกต้อง สำนักเลขาธิการที่รับสมัครนั้นก็มาจากคำสั่งของนายกฯ และภายหลังก็แจ้งตัดสิทธิ์ตนมา โดยระเบียบข้อบังคับการรับสมัครก็ไม่ถูกต้องที่จะมาตัดสินคนจากการฟ้องร้องแต่ไม่ดูผลของการตัดสิน ซึ่งภายหลังตนก็ไม่มีความผิดทั้ง คดีฟ้องร้องสมาคมฯ และคดีฟ้องร้องของฟีฟ่า

และเช้าวันนี้ก็ได้มอบหนังสือเรื่องการถูกกลั่นแกล้งในการตัดสิทธิ์ให้กับ นาย ก้องศักด ผู้ว่ากกท.ฯ ที่รับปากว่าจะเร่งดำเนินการให้ จากนั้น ทนาย ที่มากับนาย วรวีร์ ได้เปิดเผยเรื่องความผิดของสมาคมฟุตบอลฯปัจจุบันว่า ในอดีตตนทำคดีให้กับ อดีตเลขาฯ พล.ต.ท.พิสัณฑ์ จุลดิลก เรื่อง การเลี่ยงภาษีของสมาคมฯโดยใช้ ลูกชายของ โจ พาทิศ รองเลขาฯ และภรรยา เบนจามิน ตัน ประธานไทยลีก ซึ่งไม่ได้ทำงานจริง และไม่ถูกต้อง อดีตเลขาฯก็ปรึกษาทางไลน์กับ นายกฯสมยศ ก่อนนายกฯสมยศจะพิมพ์ไลน์ว่า “เรื่องนี้กูรับรู้หมด มึงจะไปยุ่งอะไรกับพวกนี้นักหนา” โดยหลักฐานนี้ ทางตนมีหลักฐานแล้ว

ส่วนเรื่องของแพลนบีที่เข้ามาทำสิทธิประโยชน์อย่างไม่ถูกต้องทางทนายก็มีหลักฐานว่าสมาคมฟุตบอลฯทำผิดกฎระเบียบ ซึ่งแพลนบีไม่ได้ยื่นแบงค์การันตี ในการเข้ามาดำเนินการ เรื่องนี้สามารถตรวจสอบได้เนื่องจากแพลนบีอยู่ในตลาดหลักทรัพย์สามารถตรวจสอบได้ทั้งหมด สัญญานี้ต้องเป็นโมฆะหลังจากนี้สโมสรสมาชิกจะยื่นเรื่องฟ้องร้อง เพื่อให้นยกเลิกสิทธิประโยชน์และเรียกคืนเงินกลับ

ส่วนเรื่องสภากรรมการ คุณสมบัติคือ ต้องไม่ทำการทุจริตต่อสมาคมฯ แต่สภาชุดนี้มีความผิดตามที่กล่าวไว้ ก็ควรต้องโดนตัดสิทธิ์เหมือนตนด้วย นอกจากนี้มีการสัญญาว่าจะให้เงิน โดย พล.ต.อ.สมยศ สัญญาว่าจะให้การตอบแทนสโมสรสมาชิกที่ช่วยเหลือในการสนับสนุนแต่พอได้รับตำแหน่งบอกว่าไม่มีเงินให้ แชต่กลับตั้งเงินเดือนของตัวเองทันทีที่รับตำแหน่งโดยตั้งไว้ที่ 5 แสนบาทจากบริษัทไทยลีก และจากสมาคมฟุตบอลฯ 5 แสนบาท ทั้งๆที่สมาคมฯถือหุ้นใน บริษัทไทยลีก 99.8%

บังยี กล่าวอีกว่า สมาคมฯได้จ้างให้ นาย กรวีร์ ปริศนานันทกุล เป็นเลขาฯ ทั้งๆที่เป็น สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งไม่ถูกต้อง เรื่องนี้ฟีฟ่าถือมากที่จะให้นักการเมืองเข้ามายุ่งเกี่ยวกับสมาคม บังยี ยังเผยอีกว่า ตนมีภาพที่มีการแจกจ่ายเงินที่สั่งจ่ายโดยสมาคมฯรายละ 1.5 แสนบาทให้ทีมไทยลีก 3 และไทยลีก 4 (โชว์ภาพ) เพื่อให้ปิดปากสโมสรสมาชิกเพื่อป้องกันการรวมตัวฟ้องร้องสมาคมฯ ตามระเบียบที่สมาชิกสามารถรวมตัวให้ได้ 1 ใน 5 สามารถเรียกประชุมได้ด้วย เรื่องนี้ตนจะฟ้อง ปปง.และปปช.ด้วย

หลังการแถลงของนายวรวีร์ แนวร่วมที่เดินทางมาให้กำลังใจ ผศ.ดร วิวัฒน์ชัย กุลมาตย์ อดีตรองอธิการม.รามคำแหง ได้ออกมากล่าวกับสื่อต่อว่า กรวีร์ ปริศนานันทกุล ทำงานนอกเหนือจาก สมาชิกสภาผู้เเทนฯ ถือว่ามีความผิดตามรัฐธรรมนูญแน่นอน ทีนี้อยู่แค่ว่า ใครเป็นผู้แต่งตั้ง หากสมาคมฯแต่งตั้งถือว่าเป็นแนวร่วมด้วยแน่นอน สรุป นาย วรีร์ ให้สัมภาษณ์ปิดท้ายว่า หากนายกฯสมยศ จะใช้ระเบียบตัดสิทธิ์ผู้ถูกฟ้องร้อง ดังนั้นตัวเองก็ต้องโดนด้วย แต่หากไม่ตัดสิทธิ์ เราก็สามารถต่อสู้บนเวทีเดียวกันได้