บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เอเอฟซี แชมป์เปี้ยนส์ลีก

บุรีรัมย์ เฉือน โฮจิมินห์ 2-1 ลิ่วชน เซี่ยงไฮ้ เอสไอพีจี ACL ด่านสุดท้าย

ปราสาทสายฟ้า บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เฉือน โฮจิมินห์ ซิตี้ 2-1 ได้ประตูจาก 2 แข้งใหม่ แบร์นาร์โด คูเอสตา และ ริคาร์โด บูเอโน…

Home / SPORT / บุรีรัมย์ เฉือน โฮจิมินห์ 2-1 ลิ่วชน เซี่ยงไฮ้ เอสไอพีจี ACL ด่านสุดท้าย

ปราสาทสายฟ้า บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เฉือน โฮจิมินห์ ซิตี้ 2-1 ได้ประตูจาก 2 แข้งใหม่ แบร์นาร์โด คูเอสตา และ ริคาร์โด บูเอโน ผ่านเข้าสู่รอบเพลย์ออฟ ด่านสุดท้าย ฟุตบอลเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก 2020 ที่จะต้องไปเยือน เซี่ยงไฮ้ เอสไอพีจี

การแข่งขันฟุตบอลเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก 2020 รอบเพลย์ออฟ รอบที่ 2 เมื่อวันอังคารที่ 21 มกราคม 2563 ที่ สนามบุรีรัมย์ สเตเดียม “ปราสาทสายฟ้า” รองแชมป์โตโยต้า ไทยลีก 2019 เปิดบ้านพบ โฮจิมินห์ ซิตี้ เอฟซี ทีมรองแชมป์วีลีก ประเทศเวียดนาม

เกมผ่าน 10 นาทีแรก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เป็นฝ่ายโหมบุกใส่อย่างหนัก แต่ยังไม่อาจจะเจาะแนวรับของทีมเยือนเข้าไปยิงประตูได้

นาทีที่ 28 โฮจิมินห์ ซิตี้ เอฟซี ได้ฟรีคิกระยะน่าลุ้น โหง ฮวง ทิน วิ่งเข้าไปยิงด้วยเท้าขวา บอลพุ่งไปชนคาน ก่อนที่ผู้เล่นปราสาทสายฟ้า จะสกัดบอลพ้นอันตรายออกมาได้

นาทีที่ 38 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด มาได้ฟรีคิกระยะอันตราย ศศลักษณ์ ไหประโคน วิ่งเข้าไปเปิดด้วยเท้าซ้ายข้างถนัด แบร์นาร์โด คูเอสตา พยายามวิ่งทะลุกำแพงเข้าหาบอลแต่ก็เข้าไม่ถึง เหงียน ทัน ตัง นายด่านทีมเยือนออกมารับบอลไว้ได้ทัน

นาทีที่ 41 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ได้ลุ้นต่อเนื่อง สุภโชค สารชาติ ได้บอลหน้าเขตโทษก่อนจะยกบอลให้ จอง แจ ยอง พักอกหนึ่งจังหวะ ก่อนยิงบอลเฉี่ยวเสา ออกหลังไปนิดเดียว

ช่วงทดเวลานาทีที่ 45+1 ปราสาทสายฟ้า ได้ฟรีคิกระยะน่าลุ้นทางริมเส้นฝั่งขวา ศศลักษณ์ ไหประโคน เปิดบอลโค้งอันตรายเข้าไปในเขตโทษ โชคดีของทีมเยือนที่สกัดบอลออกหลังไปได้ ก่อนที่นักเตะบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จะเข้าถึง ซึ่งก็เป็นจังหวะสุดท้ายของครึ่งแรก ทำให้ยังคงเสมอกัน 0-0

กลับมาสู้กันต่อในครึ่งเวลาหลัง ปราสาทสายฟ้า ยังคงเป็นฝ่ายเปิดเกมรุกเข้าใส่ผู้มาเยือนแบบได้น้ำได้เนื้อกว่า

นาทีที่ 52 นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม ขึ้นเกมทางขวา ก่อนจะจ่ายบอลเข้าเขตโทษให้ แบร์นาร์โด คูเอสตา ตั้งเท้าแปบอลผ่าน เหงียน ทัน ตัง หายเข้าประตูไป บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ทะยานออกนำ โฮจิมินห์ ซิตี้ เอฟซี 1-0

นาทีที่ 56 ปราสาทสายฟ้า มาได้ฟรีคิกทางฝั่งซ้าย ริคาร์โด บูเอโน เดินเข้าไปกดด้วยเท้าขวาบอลพุ่งแรงตรงกรอบประตู แต่ทว่า เหงียน ทัน ตัง ยืนอยู่ถูกที่รับบอลไว้ได้

นาทีที่ 63 ยังคงเป็นโอกาสลุ้นประตูของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด สุภโชค สารชาติ ได้บอลในเขตโทษก่อนจะโยกหลอกกองหลังแล้วตัดสินใจซัดบอลเต็มข้อ ทว่าผู้เล่นของโฮจิมินห์ แหย่เท้ามาบล็อกบอลได้พอดีทำให้บอลลอยโด่งออกหลังไป ปราสาทสายฟ้า ได้เพียงลูกเตะมุมเท่านั้น

นาทีที่ 72 ปราสาทสายฟ้า ได้เตะมุมทางขวา ศศลักษณ์ ไหประโคน เปิดบอลโค้งเข้ามาหน้าปากประตู ปาเป้ อับดุลลาเย ไดกิเต โขกบอลทิ้งมาเข้าทาง ริคาร์โด บูเอโน ยิงสวนตูมเดียวหายเข้าประตูไป บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด หนีห่างเป็น 2-0

นาทีที่ 77 ทีมเยือนเริ่มตั้งเกมบุกได้บ้างและเป็น ปาเป้ อับดุลลาเย ไดกิเต ที่มาโขกประตูตีไข่แตกให้ผู้มาเยือนไล่มา 2-1

จากนั้นทั้ง 2 ทีมเปิดเกมแลกกันอย่างสนุก แต่ก็ไม่มีฝ่ายใดทำประตูเพิ่มได้ จบเกม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เอาชนะ โฮจิมินห์ ซิตี้ เอฟซี ไปได้ 2-1 ได้ผ่านเข้าสู่รอบเพลย์ออฟ รอบที่ 3 ต่อไป

สำหรับฟุตบอลเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก 2020 รอบเพลย์ออฟ รอบที่ 3 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จะบุกไปเยือน เซี่ยงไฮ้ เอสไอพีจี ทีมจากประเทศจีน ในวันที่ 28 มกราคม 2563

รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด : ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน (GK) (C), พรรษา เหมวิบูลย์, อันเดรส ตูเญซ, รัตนากร ใหม่คามิ, ศศลักษณ์ ไหประโคน (จักรพันธ์ แก้วพรม น.90+3), นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม, จอง แจ ยอง, สุภโชค สารชาติ (อภิวัฒน์ งั่วลำหิน น.90+4), ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา (กรกช วิริยอุดมศิริ น.73), ริคาร์โด บูเอโน, แบร์นาร์โด คูเอสตา

โฮจิมินห์ ซิตี้ เอฟซี : เหงียน ทัน ตัง (GK), ซัม หง็อก ดุก, ปาเป้ อับดุลลาเย ไดกิเต, วู หง็อก ทิน, วู อัน ตวน (อามิโด บัลเด น.73), โหง ฮวง ทิน, ทรัน พิ ซัน (C) (โหง ตุง ก็อก น.82), ลี ดุก เลือง, เหงียน คอง เฟือง (ฟาม วาน ทัน น.85), วิกเตอร์ จูฮานี โพรเดล, มาทิอัส ฮาดวา

สำหรับเอเอฟซี แชมป์เปี้ยนส์ลีก2020 รอบเพลย์ออฟ ด่านสุดท้าย จะแข่งขันในวันอังคารที่ 28 มกราคม 2563 โซนตะวันออกทั้ง 4 คู่ มีดังนี้ เอฟซี โซล(ที่3เคลีก) พบ เคด้าห์(แชมป์เอฟเอคัพมาเลเซีย) , เซี่ยงไฮ้ เอสไอพีจี(ที่3ไชนีส ซูปเปอร์ลีก) พบ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด(รองแชมป์ไทยลีก) , เอฟซี โตเกียว(รองแชมป์เจลีก) พบ เซเรส เนกรอส(ดับเบิ้ลแชมป์ฟิลิปปินส์) และ คาชิม่า แอนท์เลอร์ส(ที่3เจลีก) พบ เมลเบิร์น วิคตอรี่(ที่3เอลีก)