ดร.ภิญโญ นิโรจน ดร.ภิญโญ นิโรจน์

แบโผ ดร.ภิญโญ นิโรจน์ หวังชิงเก้าอี้นายกสมาคมกีฬาฟุตบอล

ดร.ภิญโญ นิโรจน์ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ เปิดตัวทีมงานอุปนายก และกรรมการกลาง ลงชิงตำแหน่งนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ วางเป้าเพิ่มทีมไทยลีก เพิ่มรางวัล พาไทยไปบอลโลก 2034 เมื่อวันที่ 24 มกราคม 2563 ณ…

Home / SPORT / แบโผ ดร.ภิญโญ นิโรจน์ หวังชิงเก้าอี้นายกสมาคมกีฬาฟุตบอล

ดร.ภิญโญ นิโรจน์ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ เปิดตัวทีมงานอุปนายก และกรรมการกลาง ลงชิงตำแหน่งนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ วางเป้าเพิ่มทีมไทยลีก เพิ่มรางวัล พาไทยไปบอลโลก 2034

เมื่อวันที่ 24 มกราคม 2563 ณ ห้องประชุม โรงแรมโกลเดน ทิวลิป กรุงเทพฯ ดร.ภิญโญ นิโรจน์ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ หนึ่งในผู้สมัครชิงตำแหน่งนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ตั้งโต๊ะเปิดตัวทีมงาน และแถลงนโยบายต่อสื่อมวลชนอย่างเป็นทางการ

โดยเปิดเผยนโยบายว่า “การบริหารจัดการโครงสร้าง สิ่งใดที่ดีอยู่แล้วก็จะไม่ปรับเปลี่ยน แต่สิ่งใดที่เห็นว่าควรมีการปรับปรุงให้ดีขึ้น ก็จะดำเนินการปรับเปลี่ยน โดยให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมในการบริหารตามหลักธรรมาภิบาล”

“ในส่วนของการพัฒนาระบบลีกในการแข่งขันฟุตบอลไทยลีก 1 ที่เดิมทีมีอยู่ 16 ทีม ผมจะเพิ่มเป็น 18 ทีม เพราะเมื่อพิจารณาดูแล้วการที่ลีกมี 18 ทีม จะส่งผลดีมากกว่า ไม่ว่าจะเป็นเงินลิขสิทธิ์จากการถ่ายทอดสด หรือเงินจากสปอนเซอร์ทั้งหลาย ก็จะเข้าสู่ลีกและทีมมากยิ่งขึ้น และที่สำคัญต้องมีการเพิ่มเงินรางวัลในทุกลีก ตอนนี้ไทยลีก 1 แชมป์ ได้แค่ 10 ล้าน มันน้อยเกินไป เขาลงทุนกันปีละไม่ต่ำกว่า 100 ล้าน แต่เงินสำหรับแชมป์ได้แค่นี้ มันไม่เหมาะสม”

“ขณะที่ทีมชาติไทย ต้องมีการพัฒนาทั้งชายและหญิงควบคู่ไปด้วยกัน ตั้งแต่เยาวชนจนถึงชุดใหญ่ จัดโปรแกรมฟุตบอลลีกอาชีพให้มีความเป็นสากลที่สุด และมีเวลาให้ทีมชาติไทยเก็บตัวฝึกซ้อมด้วยกันจะได้มีประสิทธิภาพที่เพียงพอในการแข่งขันระดับต่างๆ นอกจากนี้ปีที่แล้วเราตกรอบแรกซีเกมส์ กับแค่ซีเกมส์เรายังตกรอบแรก หรือฟุตบอลเยาวชนระดับอื่นๆ เราก็แพ้ทีมในระดับอาเซียนด้วยกัน มันสมควรไหม ในยุคผม ผมต้องการที่จะทำให้ทีมชาติไทยกลับไปทวงแชมป์ซีเกมส์กลับมาอีกครั้งให้ได้ นี่คือเป้าหมายสำคัญ”

“และอีกสิ่งหนึ่งที่ผมอยากจะทำให้มันเกิดให้ได้ คือการร่วมมือกับภาครัฐและเอกชนทำการบูรณาการจัดตั้งศูนย์ฟุตบอลทุกภูมิภาค เพื่อเตรียมความพร้อมในการเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก 2034 ซึ่งเราจะต้องยื่นขอเป็นเจ้าภาพให้ได้”

โดยผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ก่อนหน้านี้ พล.ต.อ.ดร.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ออกมาประกาศว่าได้เสียงในมือมากกว่า 50 เสียง จากทั้งหมด 69 เสียง ซึ่งถือว่าเกินครึ่งไปแล้ว ทาง ดร.ภิญโญ นิโรจน์ กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า “ตราบใดที่ยังไม่ถึงวันที่ 12 กุมภาพันธ์ อะไรก็เกิดขึ้นได้ ก็หวังว่าการที่ผมออกมาแถลงนโยบายในวันนี้ จะทำให้พวกเขาเปลี่ยนใจมาสนับสนุนผม ซึ่งในวันที่ 12 ที่จะถึงนี้เดี๋ยวก็คงได้รู้กัน” ดร.ภิญโญ นิโรจน์ กล่าวทิ้งท้าย

รายชื่ออุปนายก และคณะกรรมการกลาง ชุด ดร.ภิญโญ นิโรจน์ มีดังนี้
ดร.ภิญโญ นิโรจน์ นายกสมาคมฯ
ดร.ปัญญา หาญลำยวง อุปนายก
พล.อ.อ.อานนท์ จารยะพันธุ์ อุปนายก
พล.อ.ราชรักษ์ เรียนพืชน์ อุปนายก
นายสามารถ มะลูลีม อุปนายก
ดร.วิชัย ล้ำสุทธิ อุปนายก
นายฐิติพงศ์ เขียวไพศาล กรรมการกลาง
ดร.จุฑา ติงศภัทย์ กรรมการกลาง
นายสุนทร มีสุวรรณ กรรมการกลาง
นายชัยโชค พุ่มพวง กรรมการกลาง
นายธีรพงษ์ วัฒนวงษ์ภิญโญ กรรมการกลาง
นายสมศักดิ์ อรุณสุรัตน์ กรรมการกลาง
นายอติพล สุวรรณดี กรรมการกลาง
นายคณบดี แย้มชุติ กรรมการกลาง
นายภีมเดช อมรสุคนธ์ กรรมการกลาง
นายอนุชา ไชยเทศ กรรมการกลาง
นายสุพจน์ งดงาม กรรมการกลาง