บังยี ขอถาม สมยศ อีกรอบ ทำไมจึงไม่เปิดเผยเอกสาร แบงก์การันตี ของ แพลน บี ที่เข้าเป็นผู้บริหารสิทธิประโยชน์ของสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ถ้ามีจริงก็เอาออกมาแสดงให้สาธารณชนได้รับทราบเละ รวมทั้งกรณีที่ สมยศ ตั้งเงินเดือนให้ตัวเองเดือนละ 1,000,000 บาท ชี้สิ่งไหนเป็นสีดำจะปกปิดแล้วย้อมให้เป็นสีขาวคงเป็นไปไม่ได้ ด้าน “ผู้ว่าการ กกท.” โยนเรื่องที่ “บังยี” ร้องอุทธรณ์การถูกตัดสิทธิ์ลงรับสมัครเลือกตั้งนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ และขอให้มีคำสั่งตัดสิทธ์ สมยศ เนื่องจากขาดคุณสมบัติ ให้คณะกรรมการรับเรื่องราวร้องทุกข์และติดตามแก้ไขปัญหาข้อพิพาททางการกีฬา ที่มี บิ๊กแป๊ะ เป็นประธานรับไปพิจารณา
“บังยี” นายวรวีร์ มะกูดี อดีตนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย และผู้สมัครรับเลือกตั้งนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ซึ่งจะมีการเลือกในวาระใหม่ในวันที่ 12 ก.พ. เปิดเผยว่า หลังจากที่ตนเองได้ให้ข้อมูลกับสื่อมวลชนไปถึงการที่ สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ชุดปัจจุบัน ภายใต้การบริหารงานของ พล.อ.ต.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ทำผิดร้ายแรงในกรณี ได้เปิดประมูลหา ตัวแทนบริหารสิทธิประโยชน์ เมื่อปี พ.ศ.2559 โดย บริษัท แพลน บี มีเดีย จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ชนะการประมูลด้วยมูลค่ารวม 3,240 ล้านบาท ได้เป็นผู้บริหารสิทธิประโยชน์ของสมาคมฯและ บริษัท ไทยลีก จำกัด เป็นระยะเวลา 4 ปี จนถึงปี พ.ศ.2563 แต่การทำสัญญากับ บริษัท แพลน บี ครั้งนี้ เป็นการทำผิดกฏหมาย เพราะแพลน บี ไม่ได้ยื่น “แบงก์การันตี” หรือหนังสือสัญญาค้ำประกันจากธนาคาร
นายวรวีร์ กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมา พล.ต.อ.สมยศ ได้ให้สัมภาษณ์ตอบโต้ผ่านสื่อมวลชนมาว่า สมาคมฯ ได้มีการยื่น “แบงก์การันตี” อย่างถูกต้องทุกอย่าง ซึ่งตนก็ถามกลับไปว่า ถ้าทำถูกต้องตามกฏหมายทุกอย่างก็ขอให้เอาเอกสารมาเปิดเผยต่อสาธารณชน เพราะการกระทำแบบนี้มันเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับ “แพลน บี” ซึ่งเป็นบริษัทมหาชน อย่างชัดเจน ทำให้รัฐมีความเสียหายหลายร้อยล้านบาท นอกจากนี้ บรรดาสโมสรสมาชิกหลายแห่ง ได้ให้ตนเองมาเป็นตัวแทนถามไปยัง พล.ต.อ.สมยศ ว่าได้ตั้งเงินเดือนตัวเองเดือนละ 1,000,000 บาท จริงหรือไม่ ถ้าจริงก็ถือว่าผิดจริยธรรมร้ายแรง และผิดพระราชบัญญัติการกีฬาแห่งประเทศไทย ที่ ห้ามมิให้สมาคมกีฬาหาผลกำไรหรือรายได้เพื่อมาแบ่งปันกัน
บังยี กล่าวต่อไปว่า ทั้ง 2 กรณีดังกล่าว เป็นความผิดที่ชัดเจน ที่ทำให้สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ เกิดความเสียหาย เป็นความผิดในการทุจริตต่อสมาคม ยังไม่รวมถึงความผิดที่สำเร็จไปแล้วในกรณีที่ยกเลิกสัญญาการเป็นผู้บริหารสิทธิประโยชน์กับ บริษัท สยามสปอร์ต ซินดิเคต จำกัด (มหาชน) ซึ่งศาลได้ตัดสินให้จ่ายค่าเสียหายให้ บมจ.สยามสปอร์ตฯ จำนวน 50 ล้านบาท ไม่รวมดอกเบี้ย ตนเองรู้สึกแปลกใจที่ พล.ต.อ.สมยศ ตอบโต้เก่งทุกเรื่อง แต่ในเรื่องเอกสารที่บริษัท แพลน บี มีเดีย จำกัด (มหาชน) ยื่นแบงก์การันตี กับเรื่องจ่ายเงินเดือนให้ตัวเองเดือนละ 1,000,000 บาท ไม่เห็นกล้าออกมาตอบโต้ ถ้ามั่นใจว่าบริสุทธิ์ก็ขอให้เอาเอกสารมาแสดง แต่ในความเป็นจริงสิ่งไหนเป็นสีดำจะปกปิดแล้วย้อมให้เป็นสีขาวคงเป็นไปไม่ได้
อนึ่ง จาการที่ นายวรวีร์ มะกูดี ได้ทำหนังสือถึง นายก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เพื่อขออุทธรณ์คำสั่งตัดสิทธิ์ การรับสมัครรับเลือกตั้งของ นายวรวีร์ โดยสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ และขอให้มีคำสั่งตัดสิทธิ์ พล.อ.ต.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมและกรรมการสมาคม ผู้บริหารสมาคมชุดปัจจุบัน เนื่องจากขาดคุณสมบัติ ตามข้อบังคับสมาคม ข้อ 33.3.7 ที่กำหนดว่า “ต้องไม่เคยเป็นผู้กระทำการใดอันก่อให้อันก่อให้เกิดความเสียหายต่อสมาคม” เมื่อวันที่ 20 ม.ค. ที่ผ่านมา ล่าสุด เมื่อวันที่ 23 ม.ค. ผู้ว่าการ กกท. ได้ส่งเรื่องดังกล่าวไปยัง “บิ๊กแป๊ะ” นายถิรชัย วุฒิธรรม ประธานคณะกรรมการรับเรื่องราวร้องทุกข์และติดตามแก้ไขปัญหาข้อพิพาททางการกีฬา เพื่อให้พิจารณาข้อร้องเรียนดังกล่าวอย่างรอบคอบ และเป็นธรรมกับทุกฝ่าย