เตะให้เหนื่อยทำไม!? ศึกชิงแชมป์สโมสรโลกมีความสำคัญกับ ลิเวอร์พูล อย่างไร?

น่าเห็นใจขุนพลหงส์แดง ลิเวอร์พูล นอกจากโปรแกรมเตะสุดโหดในเดือนธันวาคมแล้วพวกเขายังต้องลงเล่นในศึก ชิงแชมป์สโมสรโลก ที่ กาตาร์ ด้วย เรียกว่าเดือนนี้พวกเขามีคิวเตะถี่ยิบจนแทบไม่มีเวลาพัก

แต่ก็ใช่ว่าการเดินทางข้ามทวีปไปลงสนามที่กาตาร์จะเป็นงานเปลืองแรงเหนื่อยเปล่า เพราะการคว้าแชมป์รายการนี้(ถ้าทำสำเร็จ)ก็ถือเป็นเกียรติยศหลายอย่าง

สร้างประวัติศาสตร์

ไม่มีทีมจากอังกฤษทีมไหนเคยได้แชมป์เกินกว่าสี่รายการในฤดูกาลเดียว แต่ซีซั่นนี้ ลิเวอร์พูล มีโอกาสลุ้นถึงห้าถ้วย

โดยปีนี้ ลิเวอร์พูล ลงสนามไปแล้วเจ็ดรายการ รายการแรกคือ คอมมิวนิตี้ ชิลด์ พวกเขาแพ้ให้กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในการดวลจุดโทษ ส่วนใน ลีกคัพ พวกเขาส่งทีมชุดที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ลงไปแพ้ แอสตัน วิลล่า 5-0

ตอนนี้พวกเขาได้แชมป์มาหนึ่งรายการคือ ยูฟ่า ซูเปอร์คัพ ที่เอาชนะ เชลซี ได้จากการดวลจุดโทษ ขณะที่ยังมีถ้วย พรีเมียร์ลีก, ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก, เอฟเอคัพ ให้ได้ลุ้นยาวๆ

คล็อปป์หวังปั้นสถิติ

เจอร์เก้น คล็อปป์ คือกุนซือพระรองที่มักผิดหวังเป็นประจำ ดูได้จากประวัติของเขาในการการพาทีมเป็นรองแชมป์ หลังจากคว้าแชมป์กับ ดอร์ทมุนด์ ในถ้วย เยอรมันคัพ ปี 2012 ต่อจากนั้นเขาก็สร้างสถิติให้ตัวเองด้วยการเป็น “กุนซือรองแชมป์” อีกหกรายการ จนมาหยุดสถิติโดยการได้แชมป์กับ ลิเวอร์พูล ในถ้วย ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก

คล็อปป์ แสดงความมุ่งมั่นเต็มที่ในถ้วยใบนี้อย่างที่กุนซือชาวเยอรมันเคยประกาศเอาไว้ก่อนเริ่มทัวร์นาเมนต์ว่า “เหตุผลเดียวทีเราไปที่นั่น(กาตาร์)คือโอกาสที่เราจะได้เป็นแชมป์และนั่นแหละคือสิ่งที่เราต้องการ”

แชมป์ครั้งแรก

นี่คือถ้วยที่ ลิเวอร์พูล ไม่เคยได้สัมผัสมาก่อน ทัพหงส์แดงเคยเข้าชิงรายการนี้ในปี 2005 แต่ก็พ่ายแพ้ให้กับ เซาเปาโล ทีมดังจากแดนแซมบ้า บราซิล 1-0

เกมนี้ยังเป็นการโคจรกลับมาเจอกันอีกครั้งของทีมหงส์แดงกับคู่แข่งในนัดชิงของพวกเขา ฟลาเมงโก้ โดยครั้งล่าสุดที่ทั้งสองทีมนี้เจอกันคือในปี 1981 ในเกมนัดชิงถ้วย อินเตอร์คอนติเนนตัลคัพ(ต้นตำรับศึกชิงแชมป์สโมสรโลก)ซึ่งทีมหงส์แดงพ่ายยับ 3-0 ถือเป็นโอกาสล้างตาไปในตัว