อาจจะไม่ใช่นักเตะที่เด่นที่สุดในสนามเหมือนเพื่อนร่วมทีมอย่าง ซาลาห์, ฟาน ไดจ์ค ฯ แต่เขาก็เป็นกำลังสำคัญของทีมหงส์แดงมาตลอดหลายปีสำหรับ กัปตันเฮนโด้ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ที่ล่าสุดเพิ่งได้ชูถ้วย แชมป์สโมสรโลก อย่างยิ่งใหญ่ นับเป็นความสำเร็จอย่างต่อเนื่องต่อจากการซิวแชมป์ ยูโรเปียน ซูเปอร์คัพ และ ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก และถ้าไม่มีอะไรผิดคาดพลิกโผขนานใหญ่ เขายังมีถ้วย พรีเมียร์ลีก รอให้จับชูอยู่ในปีหน้า
ตอนนี้ เฮนเดอร์สัน ได้ชูถ้วยแชมป์ครบแล้วทั้งสามใบในปีเดียว เทียบชั้นยอดนักเตะและตำนานกัปตันทีมอย่าง ฟิลิปป์ ลาห์ม(บาเยิร์น มิวนิค), อันเดรส อิเนียสต้า(บา์เซโลน่า), อิเคร์ กาซึยาส และ เซร์คิโอ รามอส(เรอัล มาดริด) และเขาเป็นกัปตันทีมชาวอังกฤษเพียงหนึ่งเดียวที่ทำได้สำเร็จ
เขาสวมปลอกแขนกัปตันทีม ลิเวอร์พูล มาตั้งแต่ปี 2015 ต่อจากนักเตะระดับตำนานอย่าง สตีเว่น เจอร์ราร์ด ซึ่งนับว่าเป็นภาระที่ไม่เบาเลยเพราะตำแหน่งกัปตันเปรียบดั่งผู้นำในสนามของนักเตะทุกคนในทีม ฤดูกาลนั้นทีมจบด้วยอันดับแปดใน พรีเมียร์ลีก แต่หลังจากนั้นทีมหงส์แดงก็แกร่งขึ้นเรื่อยๆ พวกเขาจบอันดับสี่ในสองฤดูกาลถัดมา และไปถึงตำแหน่งรองแชมป์เมื่อซีซั่นก่อนจนมาถึงตอนนี้พวกเขาประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามในเวทียุโรปและในเวทีโลก
เฮนเดอร์สัน ไม่ได้เป็นแค่ผู้นำทีมที่ยอดเยี่ยมแต่ยังเป็นแรงบันดาลใจที่ดีด้วย ตลอดหลายปีที่เขาต่อสู้กับเสียงวิจารณ์ของหลายคนที่มองว่าเขายังไม่ดีพอ ซึ่งเขาก็ลบเสียงวิจารณ์นั้นได้อย่างราบคาบ ขณะที่เพื่อนร่วมทีมก็ยกย่องในคุณงามความดีของเขา อย่างที่ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน แบ็คซ้ายของทีมบอกว่า “เรามีนักเตะชื่อดังในทีมหลายคนแต่เฮนโด้คือตัวแทนที่แสดงให้เห็นว่าลิเวอร์พูลเป็นอย่างไร” ส่วน เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค ปราการหลังคนสำคัญบอกว่า “เขาคือกัปตันของพวกเรา เราทุกคนเคารพเขา” “เขามีฤดูกาลที่ยอดเยี่ยม แม้ว่าคนอื่นจะพูดในแง่ลบเกี่ยวกับเขา มันก็ไม่มีผลอะไรหรอก เราภูมิใจในตัวเขา”