ทีมชาติไทยคัดบอลโลก2022 เอกนิษฐ์ ปัญญา

ฟีฟ่ายังเอ่ยปากชม! ซูฮก เอกนิษฐ์ ปัญญา มี อิเนียสต้า เป็นไอดอล

บทสัมภาษณ์ เอกนิษฐ์ ปัญญา ในเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของฟีฟ่า ระบุชื่นชมความสามารถของดาวเด่นรายนี้่ เป็นดาวรุ่งหน้าใหม่ทัพช้างศึก ผู้มี อิเนียสต้า เป็นแรงบันดาลใจ เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) ได้ทำการสัมภาษณ์ เอกนิษฐ์ ปัญญา กองกลางดาวรุ่งทีมชาติไทย…

Home / SPORT / ฟีฟ่ายังเอ่ยปากชม! ซูฮก เอกนิษฐ์ ปัญญา มี อิเนียสต้า เป็นไอดอล

บทสัมภาษณ์ เอกนิษฐ์ ปัญญา ในเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของฟีฟ่า ระบุชื่นชมความสามารถของดาวเด่นรายนี้่ เป็นดาวรุ่งหน้าใหม่ทัพช้างศึก ผู้มี อิเนียสต้า เป็นแรงบันดาลใจ

เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) ได้ทำการสัมภาษณ์ เอกนิษฐ์ ปัญญา กองกลางดาวรุ่งทีมชาติไทย ที่ทำผลงานได้อย่างโดดเด่นในเกมฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก รอบสอง กับ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เมื่อวันที่ 15 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยเนื้อหาบนเว็บไซต์ระบุว่า

เมื่อทีมชาติไทย เฝ้ารังพบกับ ทีมชาติสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ในนัดที่ 3 ของการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก รอบสอง โซนเอเชีย เมื่อวันที่ 15 ตุลาคมที่ผ่านมา แม้หลายฝ่ายจะคิดว่า โค้ชชาวญี่ปุ่น อากิระ นิชิโนะ จะไม่สามารถพาทัพช้างศึกคว้าชัยชนะได้ จากสถิติการพบกัน 6 ครั้งในฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก ที่ไทยพ่าย 4 และเสมอไป 1

อย่างไรก็ตาม เกมดังกล่าวก็จบลงด้วยชัยชนะ 2-1 ของทีมชาติไทย และเป็นนัดแจ้งเกิดของ เอกนิษฐ์ ปัญญา แข้งวัย 20 ปี ที่ลงเล่นเพียงแค่นัดที่ 3 ในทีมชาติชุดใหญ่ โดยตัวรุกดาวรุ่งเป็นคนเปิดให้ ธีรศิลป์ แดงดา โหม่งเบิกร่อง ก่อนจะยิงประตูชัย จากลูกจ่ายของ นิติพงษ์ เสลานนท์ ในนัดที่ ช้างศึก เอาชนะ ยูเออี ที่เคยเข้ารอบรองชนะเลิศเอเอฟซี เอเชียน คัพ 2019 ไปได้อย่างน่าตกตะลึง

“ผมดีใจมากที่เป็นส่วนสำคัญในชัยชนะของเรา” กองกลางจากสิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด ได้กล่าวกับ FIFA.com “โดยเฉพาะเมื่อผมทำประตูแรกในระดับนานาชาติ ซึ่งมีส่วนในการคว้า 3 แต้มสำคัญ เพราะตอนที่ผมเห็นลูกจ่ายจาก นิติพงษ์ ความคิดแรกในหัวของผม คือคงไม่สามารถยิงได้แน่ๆ แต่ผมก็ทำประตูได้เหมือนตอนที่เราซ้อมกัน”

“ในห้วงเวลาที่ผมเห็นฟุตบอลกองอยู่ก้นตาข่าย มันคือโลกทั้งใบของผมจริงๆ” เขากล่าวต่อ “ก่อนเกม เราไม่เคยเอาชนะยูเออีมา 15 ปี เพราะฉะนั้นเรามีแรงบันดาลใจที่จะทำให้การรอคอยที่ยาวนานมันจบตรงนั้น ผมมีความสุขมาก”

อิทธิพลจากอิเนียสต้า

เอกนิษฐ์เกิดเมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 1999 ที่จังหวัดเชียงราย และเริ่มเล่นฟุตบอลตั้งแต่ยังเล็ก โดยที่มีคุณพ่อให้การสนับสนุน และเมื่ออายุ 14 ปี ก็ได้เข้าร่วมฝึกซ้อมกับอะคาเดมี่ฟุตบอลของสโมสรสิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด เป็นที่แรก ด้วยพัฒนาการอันน่าทึ่ง เขาก็ใช้เวลาเพียงปีเดียวในการก้าวขึ้นมาสู่ชุดใหญ่ และได้เล่นในไทยลีก

ในเวลานั้นเอง เอกนิษฐ์ก็ได้แจ้งเกิดอย่างเป็นทางการในลีกของไทย เมื่อกลายเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดที่ทำประตูได้ในไทยลีก ณ ตอนนั้น ด้วยวัยเพียง 15 ปี 11 เดือน และ 28 วัน ในเกมกับยักษ์ใหญ่แดนสยามอย่าง เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด เมื่อเดือนตุลาคม 2015 และนับตั้งแต่วันนั้น เอกนิษฐ์ก็ยังคงพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่องกับสโมสร จนในที่สุดก็สามารถคว้าแชมป์ลีกเป็นครั้งแรกของตัวเองกับ สิงห์ เชียงราย ได้สำเร็จในปีนี้

ด้วยฟอร์มอันร้อนแรง จึงทำให้ไปเข้าตา อากิระ นิชิโนะ หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย และถูกเรียกติดทีมชาติไทยเป็นครั้งแรกในเกมฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย กับทีมชาติเวียดนาม และเจ้าตัวก็ไม่ปล่อยให้โอกาสที่ได้รับหลุดลอย เขาพัฒนาตัวเองในทุกๆ เกม ก่อนจะตอบแทนความไว้วางใจของกุนซือชาวญี่ปุ่น ในเกมกับทีมชาติสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ “โค้ชนิชิโนะบอกให้ผมกล่าเล่น และเล่นให้ดุดัน ขณะเดียวกันก็ต้องเล่นให้ฉลาดด้วยครับ” เขากล่าว “เขามอบความมั่นใจให้กับผม อย่างไรก็ตาม ผมก็ยังมีอีกหลายจุดที่ต้องพัฒนาครับ”

เจ้าของความสูง 170 ซม. เท่ากับ อันเดรส อิเนียสต้า เอกนิษฐ์ยังเปิดเผยด้วยว่า ได้รับแรงบันดาลใจในการเล่นฟุตบอลมาจากตำนานชาวสแปนิชผู้นี้ “อิเนียสต้าคือไอดอลของผมครับ เพราะผมชอบในสไตล์การเล่นของเขา รวมถึงการที่เราเล่นในตำแหน่งเดียวกัน (กองกลางตัวรุก) ทุกวันนี้ผมฝึกซ้อมอย่างหนัก และหลังการซ้อม ผมก็จะดูคลิปการเล่นของอิเนียสต้า รวมถึงผู้เล่นคนอื่นๆ เพื่อเป็นการเรียนรู้ และนำมาปรับให้เข้ากับการเล่นของตัวเอง”

ตัวเอกนิษฐ์ยังกล่าวต่ออีกว่า การแข่งขันฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับเขา “ฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก สำคัญสำหรับผมมาก เพราะการแข่งขันรายการนี้ เป็นการแข่งขันรายการแรก ที่ผมถูกเรียกติดทีมชาติชุดใหญ่ ผมได้รับโอกาสโชว์ฝีเท้าให้ทุกคนเห็นในสนาม และช่วยเหลือบ้านเกิดของตัวเอง ถือเป็นประสบการณ์อันมีค่า และเป็นเกียรติอย่างมากสำหรับผม”

สำหรับนัดต่อไป พวกเขาจะได้เจอกับหนึ่งในคู่แข่งสุดหินอย่าง ทีมชาติมาเลเซีย ที่สนามกีฬาแห่งชาติบูกิต จาลิล ในกรุงกัวลาลัมเปอร์ ซึ่งมิดฟิลด์วัย 20 ปี ก็พูดถึงเกมนัดนี้ว่า “เรารู้ดีว่าเกมที่สนามบูกิต จาลิล จะเป็นเกมที่ยากมากๆ มาเลเซียมีแฟนบอลที่เหนียวแน่นมากยามเล่นในบ้าน และพวกเขาก็จะสร้างบรรยากาศในการเชียร์ให้เป็นประโยชน์กับตัวเองได้ ซึ่งเราต้องมีสมาธิกับเกม เล่นให้ได้ตามแผน พร้อมกับรับมือกับสิ่งที่เกิดขึ้นให้ได้ เราจะทำทุกอย่างเพื่อนำ 3 คะแนนกลับบ้านของเรา”

“ผมคิดว่าเรามีโอกาสที่ดีในการผ่านเข้ารอบต่อไป แต่แน่นอนว่าเราจะต้องเจอเกมที่ยากอีกหลายเกมต่อจากนี้ ซึ่งแน่นอนว่า การแข่งขันในระดับนี้ จะไม่มีที่ให้กับความผิดพลาด”