บ่ายแก่ๆ 15.00 น. วันอาทิตย์นี้ ( 1 ธ.ค.62 ) ทีมลูกหนัง ช้างศึก ทีมชาติไทย เตรียมลงสนามนัด 3 ในศึกซีเกมส์2019ที่ฟิลิปปินส์ ด้วยการพบ สิงคโปร์ ที่ก็จะแพ้ไม่ได้อีกแล้ว แน่นอนว่าทั้งสองทีมต่างมีเป้าหมายเดียวกัน คือพลาดไม่ได้อีกแล้ว เราลองไปดูทัพลอดช่องทีมนี้กันว่ามี 5 ประเด็นอะไรที่ทีมชาติไทยต้องไม่ประมาท
1. ทีมชาติสิงคโปร์ ไม่ว่าจะชุดเล็ก , ชุดเยาวชน หรือ ชุดใหญ่ ต่างก็เกิดและโตมากับ”สนามหญ้าเทียม” เพราะสนามฟุตบอลประจำชาติ อย่างที่ จาลัน เบซาร์ ก็เป็นสนามหญ้าเทียม ความจุ 6,000 ที่นั่ง แน่นอนว่าการมาเล่นในซีเกมส์2019 สิงคโปร์น่าจะคุ้นชินมากกว่าทีมชาติไทย และ อากิระ นิชิโนะ อย่างแน่นอน
2. ผลงานล่าสุดที่ สิงคโปร์ ชุดซีเกมส์ พบกับทีมชาติไทยชุดซีเกมส์ คือนัดชิงศึกเมอร์ไลออนส์2019ที่สิงคโปร์ เมื่อช่วงกลางปีที่ผ่านมา เป็นการเจอกันในนัดชิงฯ โดยเจ้าภาพ สิงคโปร์ เฉือน ไทย 1-0 เตะกันที่ จาลัน เบซาร์ สนามที่ว่าของสิงคโปร์นี่แหละ
3. “ลอดช่อง”สิงคโปร์ ชุดซีเกมส์2019 มี ฟานดี้ อาหมัด อดีตศูนย์หน้าระดับตำนานของทีมชาติสิงคโปร์ ยุค 1979-1997 คุมทัพ ซึ่งก็ถือว่าค่อนข้างรู้มือทีมชาติไทยเป็นอย่างดีอยู่แล้ว
4. ฟานดี้ อาหมัด ยังหอบหิ้ว 2 ลูกชายติดทีมชุดนี้ด้วย ทั้ง อิรฟาน ฟานดี้ ปราการหลังกัปตันทีมที่ค้าแข้งอยู่ในลีกไทยกับทีม บีจี ปทุม ยูไนเต็ด รวมถึง อิคซาน ฟานดี้ กองหน้าวัย 20 ปีที่ไปเล่นอยู่ในลีกรองของนอร์เวย์ ซึ่ง อิคซาน นี่แหละที่เป็นผู้ทำประตูชัยให้สิงคโปร์ชนะไทย 1-0 ในนัดชิงฯเมอร์ไลออนส์2019
และ 5. อย่างที่บอกไว้ตอนต้น สิงคโปร์ เขาจะพลาดไม่ได้แล้ว เพราะเกิดสมมุตถ้าแพ้ไทย แล้วอีกคู่ เวียดนาม กับ อินโดนีเซีย ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร สิงคโปร์ จ่อร่วงทันที เพราะจะตามที่สองของกลุ่มอยู่ 5 แต้ม เหลือ 2 นัด โอกาสรอดยาก ส่วนทีมชาติไทยก็พลาดไม่ได้เช่นกัน ยังไงต้องมี 3 แต้มไว้ก่อน เพื่อลดช่องว่างกับเวียดนามหรืออินโดนีเซียให้เหลือน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้