ลีกในยุโรปเข้าสู่ช่วงเบรกเกมทีมชาติอีกครั้ง จนถึงตอนนี้ก็แทบจะไม่มีสโมสรใดที่ยังคงความบริสุทธิ์ไม่พบเจอกับความพ่ายแพ้ในเกมลีกของตัวเอง มีเพียงแค่สี่ทีมจากห้าลีกชั้นนำของยุโรปเท่านั้นที่ยังคงรักษาสถิติไร้พ่ายนี้ต่อไป
ลิเวอร์พูล
เสียแชมป์ พรีเมียร์ลีก ให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ อย่างเจ็บปวดในฤดูกาลก่อน แต่ทีมหงส์แดง ลิเวอร์พูล ชุดนี้ก็ยังไม่มีทีท่าจะท้อแท้ใจ พวกเขายังคงเล่นได้อย่างดุดันและยังคงเร่งเครื่องเดินหน้าล่าแชมป์ในฤดูกาลนี้อย่างไม่ลดละ ขุนพลหงส์แดงกวาดชัยแปดนัดรวดมี 24 คะแนน เป็นทีมเดียวในท็อปไฟว์ลีกที่เก็บแต้มได้ 100% เต็ม และยังทิ้งห่างคู่แข่งสำคัญทีมเรือใบสีฟ้าไกลถึงแปดคะแนน
ยูเวนตุส
การปลด มัสซิมิเลียโน อัลเลกรี สะท้อนความทะเยอทะยานในการคว้าถ้วย ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ของสโมสรแห่งนี้ แม้ว่า อัลเลกรี จะพาทีมซิวแชมป์ กัลโช่ เซเรีย อา ถึงห้าสมัยรวดแต่เขาก็ถูกแทนที่ด้วย เมาริซิโอ ซาร์รี่ อดีตกุนซือ เชลซี ที่เข้ามาสานต่องานที่ทำไว้ร่วมกับสตาร์ดังแข้งทองอย่าง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ตอนนี้ทีมม้าลายแห่งตูรินมี 19 คะแนน ชนะหก เสมอหนึ่ง นำเป็นจ่าฝูงลีกอิตาลีอยู่ในขณะนี้
เรอัล มาดริด
ซีซั่นก่อนทีมราชันชุดขาวใช้กุนซือไปถึงสามคน ฆูเลน โลเปเตกี, ซานติอาโก้ โซลารี่ จนมาถึง ซีเนดีน ซีดาน แต่ผลงานก็ไม่ได้กระเตื้องขึ้นแต่อย่างใด หลังจากปิดฤดูกาล สโมสรและ ซีดาน ตัดสินใจทุ่มเงินเสริมทัพอย่างหนักและจ่ายไปกว่า 300 ล้านยูโร ได้ตัวนักเตะชั้นดีเข้าทีมมาหลายคน เอเด็น อาซาร์, เอแดร์ มิลิเตา, โรดริโก้, แฟร์กล็องด์ เมนดี้, ลูก้า โยวิช, ทาเคฟุสะ คุโบะ ตอนนี้มาดริดมี 18 แต้มจากการชนะห้า เสมอสาม นำเป็นจ่าฝูง ลาลีกา อยู่ในขณะนี้
โวล์ฟสบวร์ก
โชว์ฟอร์มได้ค่อนข้างดีในซีซั่นก่อนจนสามารถยืนหยัดอยู่ในอันดับหกของตารางคะแนน บุนเดสลีกา มาปีนี้พวกเขาก็ยังคงฟอร์มเด่นเช่นเคยภายใต้การคุมทีมของกุนซือ โอลิเวอร์ กลาสเนอร์ รั้งตำแหน่งรองจ่าฝูง ชนะสี่ แพ้สาม มี 15 คะแนน ตามหลังจ่าฝูง กลัดบัค แค่หนึ่งคะแนน นี่คือหนึ่งในทีมที่ถูกคาดหมายว่าจะกลายเป็นม้ามืดเข้าป้ายคว้าแชมป์ลีกเยอรมันปีนี้