นครปฐม คว้ารางวัลจัดการสโมสรยอดเยี่ยม – กาฬสินธุ์ – ม.กรุงเทพธนบุรี ถูกปรับตกชั้น ตะกร้อ ไทยแลนด์ลีก

นครปฐม คว้ารางวัลจัดการสโมสรยอดเยี่ยม – กาฬสินธุ์ – ม.กรุงเทพธนบุรี ถูกปรับตกชั้น ตะกร้อ ไทยแลนด์ลีก ฝ่ายจัดแย้มมีสามทีมสนใจร่วมชิงชัยฤดูกาลหน้า

ความเคลื่อนไหวหลังจบการแข่งขัน ตะกร้อ ไทยแลนด์ ลีก ฤดูกาล 2019 โดยล่าสุด คณะกรรมการจัดการแข่งขันตะกร้ออาชีพ “ตะกร้อไทยแลนด์ ลีก ฤดูกาล 2019” ได้ประกาศผลการประเมินการบริหารจัดการสโมสรตะกร้อในไทยลีก และทีมที่ตกชั้นในศึกตะกร้ออาชีพไทยแลนด์ ลีก ประจำปี 2562

ซึ่งผลอันดับคะแนน ปรากฏว่า สโมสร ตะกร้อ นครปฐม คว้าอันดับ 1 ไปครอง หลังได้คะแนนประเมิน 1,590 คะแนน ส่วนอันดับ 2 เป็น สโมสร ตะกร้อ ปทุมธานี และอันดับ 3 สโมสร ตะกร้อ ราชบุรี ที่เป็นเจ้าของแชมป์ฤดูกาลล่าสุด ขณะที่ทีมที่ตกชั้น จากฤดูกาล 2019 คือ สโมสร ตะกร้อ กาฬสินธุ์ และ สโมสร ตะกร้อ ม.กรุงเทพธนบุรี

จากเรื่องดังกล่าว พ.อ.อภิศักดิ์ หมั้นทรัพย์ ที่ปรึกษาสมาคมกีฬาตะกร้อแห่งประเทศไทย ได้เปิดเผยว่า “จากการแข่งขันฤดูกาลล่าสุด ถือว่ามีกระแสตอบรับค่อนข้างดี และคึกคัก ทั้งในสนามแข่งขัน และการยกระดับทีมที่พยายามทำให้สโมสรก้าวไปเป็นสโมสรอาชีพมากขึ้น ส่วนผลการประกาศการบริหารจัดการสโมสร ที่อันดับ 1 เป็นของนครปฐม เนื่องจากเป็นทีมที่ได้คะแนนผ่านเกณฑ์ตามที่ได้มีการแจ้งไปก่อนเปิดฤดูกาล อาทิ การมีเครื่องปรับอากาศในสนาม จำนวนคนดู”

“ส่วนทีมที่ตกชั้น ทั้ง กาฬสินธุ์ และ ม.กรุงเทพธนบุรี ทั้งสองทีมยังสามารถยื่นความจำนงค์ในการส่งทีมเข้าร่วมในฤดูกาลหน้า แต่ทั้งนี้ก็ต้องมีการนำเสนอแผนการทำทีมสู้กับทีมน้องใหม่ ที่ทางฝ่ายจัดกำลังเปิดรับสมัครในตอนนี้ ซึ่งเบื้องต้น มี 3 ทีมที่มีแนวโน้มว่าจะลงสมัคร ประกอบด้วย สมาคมกีฬาจังหวัดกาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นคนละทีมงานกับ สโมสรตะกร้อพัฒนากาฬสินธุ์ ส่วนอีกสองทีมคือทีมที่เคยเข้าร่วมการแข่งขันมาแล้ว คือ ชัยภูมิ และ เลย ซึ่งอย่างไรก็ตาม ยังไม่มีทีมใดยื่นสมัครมาเป็นทางการ ซึ่งก็ยังต้องรอดูต่อว่าท้ายที่สุดจะมีทีมใดบ้างที่จะส่งเข้าแข่งขันในฤดูกาล 2020 ซึ่งจะหมดเขตในวันที่ 30 พฤศจิกายน 62 นี้”

“ส่วนแนวโน้มในฤดูกาลหน้า ถือว่าน่าจับตามอง หลังกำหนดเปิดฤดูกาลคาดว่าจะมีขึ้นในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ และมีนักตะกร้อทีมชาติไทยที่ไม่มีภารกิจในการเก็บตัวร่วมแข่งขันด้วย นอกจากนี้ในส่วนของการถ่ายทอดสด ทางช่อง MONO ก็มีแนวโน้มที่จะเข้ามาถ่ายทอดสดการแข่งขันต่อ ซึ่งในตรงนี้คงต้องอาศัยแต่ละสโมสรในการทำทีมให้มีศักยภาพที่ดีในการแข่งขัน เพราะหากการถ่ายทอดสดแล้วมีการแข่งขันที่เข้มข้น ก็จะเกิดประโยชน์ในทุกภาคส่วน ทาง MONO ก็จะได้เรตติ้งที่ดีจากการถ่ายทอดสด ซึ่งสิ่งที่จะตามมา คือ เรื่องของเม็ดเงินที่จะเข้ามาในรูปแบบต่างๆ ซึ่งในส่วนนี้ก็จะสามารถกลายมาเป็นส่วนแบ่งจากค่าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสด และสามารถนำไปเป็นส่วนแบ่งให้กับแต่ละสโมสรได้ในอนาคต”

สรุปผลอันดับคะแนน และ เงินรางวัล การประเมินสโมสร