หลังรูดม่านปิดฉาก การแข่งขัน ตะกร้อไทยแลนด์ลีก 2019 ที่่ห้ำหั่นกันมาอย่างดุเดือด ก่อนจะจบลงด้วยแชมป์สมัยที่ 4 ของ สโมสร ตะกร้อ ราชบุรี แต่หลังจากจบศึก ตะกร้อไทยแลนด์ลีก เหล่าบรรดานักตะกร้อฝีมือดีของไทย ก็ได้เวทีวาดลวดลายกันต่อ นักตะกร้อไทย ที่กลายเป็นของต้องมี จากที่หลายๆสโมสรต่างคว้าตัวดาวดังจากไทยไปร่วมทีมเพื่อล่าความสำเร็จ และหนึ่งในนั้นมีชื่อของ เจ้าหนูดาวรุ่งวัย 19 ปี ที่เป็นขวัญใจและความหวังของแฟนตะกร้อไทย นั่นคือ “เจ้าภู” ภูตะวัน โสภา ที่จะมาเปิดใจหลังได้ลงแข่งขัน ตะกร้ออาชีพแบบเต็มตัว ทั้งการเล่นให้บ้านเกิด และต่อยอดไปถึงการเล่นต่างแดน ในศึกตะกร้อลีกมาเลเซีย
“ก้าวแรกสู่ตะกร้ออาชีพ”
” ดีใจและมีความสุขมากครับ ที่ได้เล่นตะกร้อไทยแลนด์ลีกให้กับสโมสรอำนาจเจริญที่เป็นบ้านเกิดผมเอง ตอนแรกผมก็ตั้งเป้าหมายว่าคงได้มีโอกาสเริ่มจากการเป็นตัวสำรองก่อน เพราะเป็นปีแรกที่เล่น แต่เล่นไปเล่นมา เริ่มทำผลงานได้ดี ก็เริ่มมั่นใจ เพราะตอนแรกก็คิดว่าจะเปิดลูกเสิร์ฟพวกพี่ๆเขายังไง แต่สุดท้ายผมทำได้มันก็เลยมีความกล้าที่จะเล่นและพัฒนาตัวเอง ”
” หลังจบตะกร้อไทยแลนด์ลีก ผมก็ได้รับการติดต่อ ให้ไปเล่นในศึกตะกร้อลีกมาเลเซีย (STL) กับ สโมสร ตรังกานู เทอเทิ่ลส์ (Terengganu Turtles) โดยไปกับรุ่นพี่ในทีมอีกคนคือ พี่บอย ณรงค์ศักดิ์ จิตติศักดิ์ โดยมีภารกิจคือการมาช่วยทีมหนีตกชั้นให้ได้”
“ตื่นตาตื่นใจ”
” ตะกร้อลีกมาเลเซียต่างจากที่ไทยเยอะมากครับ ที่นี่มีการถ่ายทอดสดทุกนัด ต่างจากไทย ที่มีถ่ายทอดสดเป็นบางนัด ที่นี่มีกล้องเยอะมากครับ (หัวเราะ) จะทำอะไร เดินไปไหนก็เจอกล้องหมดเลย ส่วนบรรยากาศที่สนามที่นี่กองเชียร์เยอะมาก คนที่นี่เวลาเชียร์ก็จะแตกต่างจากไทย ที่นี่จะเชียร์กันคล้ายๆฟุตบอล มันก็ทำให้เวลาเล่นตื่นเต้นขึ้นมากกว่าเดิมครับ ”
” ส่วนกระแสตอบรับจากแฟนๆตะกร้อมาเลเซีย ก็ถือว่าดีเลยครับ เวลาผมแข่ง กองเชียร์ก็จะตีกลองเชียร์แล้วเรียกชื่อผมไปด้วย มันก็ทำให้เราเล่นด้วยความสนุกมากขึ้น ส่วนเวลาแข่งเสร็จ แฟนๆก็จะมาขอถ่ายรูป ก็ถือว่าประทับใจมากครับที่ได้มาเป็นส่วนหนึ่งที่นี่ ”
“ซันแบ็คมาเลฯ”
” จากตะกร้อไทยแลนด์ลีกที่เจอการขึ้นฟาดแบบคนไทย มาเจอลูกซันแบ็ค ก็ถือเป็นอะไรที่แปลกใหม่ดีครับ แต่คู่แข่งบางคนที่ผมเจอ ก็บล็อคง่าย อาจจะเป็นเพราะเขาตัวเล็กกว่าผม ”
” ส่วนนักกีฬาบางคน ผมก็เคยเจอเขามาตั้งแต่เล่นเยาวชนทีมชาติ ก็เคยชนะตอนเด็ก พอมาเจอที่นี่ก็ยังชนะได้อีก ก็ถือว่ารอดตัวไปครับ (หัวเราะ) แต่นักกีฬามาเลเซีย จะต่างจากไทยตรงที่ความขยันในการฝึกซ้อม จำได้ว่า บางวันนักกีฬามาซ้อมกันน้อยมาก มันก็เลยอาจจะเป็นสาเหตุหนึ่งที่นักตะกร้อไทยอย่างเรายังมีฝีมือที่เหนือกว่า
“ทีมน้องใหม่”
” สโมสร ตรังกานู เทอเทิ่ลส์ (Terengganu Turtles) ใช้นักกีฬาที่พึ่งขึ้นมาจากชุดเยาวชนเป็นส่วนใหญ่ครับ อย่างตัวชงตอนนี้ก็อายุแค่ 19 ปี เท่ากับผม ตัวเสิร์ฟ อายุ 20 ปี มันเลยเป็นสาเหตุที่ทีมผลงานไม่ค่อยดีนัก”
” ตอนเล่นที่อำนาจเจริญ ผมมีรุ่นพี่ที่ฝีมือดี ที่เขาช่วยคุมเกมส์และทำให้ผมเล่นง่ายขึ้น แต่มาเล่นที่นี่ ผมกลายเป็นตัวความหวังของทีม เพราะตัวชงก็ประสบการณ์น้อย ทำให้บางทีผมก็ต้องพยายามให้มากขึ้น เพราะบางครั้งชงไม่เข้าจุด ก็สื่อสารลำบาก เพราะพูดกันคนละภาษากัน แต่ก็ยังมี พี่ตู่ วิทยา บุญตา โค้ชคนไทยที่อยู่กับที่นี่คอยช่วยสื่อสาร ”
“ทุกแต้มคือประสบการณ์”
” การมาได้มาเล่นที่นี่ ผมมีโจทย์ค่อนข้างยากครับ ด้วยความที่ทีมมีแต่ดาวรุ่งทั้งทีม ก็เลยต้องช่วยกันเล่น เพื่อพยายามเก็บชัยชนะให้ได้มากที่สุด กับเป้าหมายหนีตกชั้น แต่ตอนนี้สิ่งที่ผมโฟกัส คือการเล่นให้เต็มที่ทุกแต้ม ทุกโอกาสที่ผมได้รับ ซึ่งผลสุดท้ายมันจะออกมาเป็นยังไงผมก็ไม่สามารถคาดเดาได้ แต่ผมเชื่อว่าถ้าทำเต็มที่แล้ว ก็ไม่มีอะไรต้องเสียใจ และในตอนนี้ผมอยากเก็บเกี่ยวประสบการณ์ เพื่อก้าวข้ามการเป็นดาวรุ่งให้ได้ ”