#ฟุตซอล #อดิศักดิ์เบ็ญจศิริวรรณ

ฟุตซอลสโมสรโลก2020จัดที่ไทยหน3! บิ๊กป๋อมเผยเพิ่มทีมบู๊ ยิ่งใหญ่กว่าเดิมแน่

“บิ๊กป๋อม”อดิศักดิ์ เบ็ญจศิริวรรณ ประธานพัฒนาฟุตซอลแห่งชาติ แจงชัด ไทยยังได้สิทธิ์เป็นเจ้าภาพฟุตซอลสโมสรโลกเป็นครั้งที่ 3 ยืนยันอาจเพิ่มทีม และการแข่งขันต้องยิ่งใหญ่อลังการณ์กว่าทุกๆครั้งที่ผ่านมา ปิดฉากไปแล้วสำหรับศึกฟุตซอลสโมสรชิงแชมป์โลก “เวิลด์ อินเตอร์คอนติเนนตัล ฟุตซอล คัพ ไทยแลนด์ 2019”…

Home / SPORT / ฟุตซอลสโมสรโลก2020จัดที่ไทยหน3! บิ๊กป๋อมเผยเพิ่มทีมบู๊ ยิ่งใหญ่กว่าเดิมแน่

“บิ๊กป๋อม”อดิศักดิ์ เบ็ญจศิริวรรณ ประธานพัฒนาฟุตซอลแห่งชาติ แจงชัด ไทยยังได้สิทธิ์เป็นเจ้าภาพฟุตซอลสโมสรโลกเป็นครั้งที่ 3 ยืนยันอาจเพิ่มทีม และการแข่งขันต้องยิ่งใหญ่อลังการณ์กว่าทุกๆครั้งที่ผ่านมา

ปิดฉากไปแล้วสำหรับศึกฟุตซอลสโมสรชิงแชมป์โลก “เวิลด์ อินเตอร์คอนติเนนตัล ฟุตซอล คัพ ไทยแลนด์ 2019” ที่สนาม บางกอก อารีน่า โดยแชมป์โลกปีนี้ ตกเป็นของ แม็กนัส ยอดทีมจากบราซิล ที่ผงาดขึ้นเป็นแชมป์โลก สมัยที่ 3 ติดต่อกัน หลังเอาชนะ จุดโทษ โบคา จูเนียร์ แชมป์ลีกอาร์เจนติน่า 5-3 (ในเวลาเสมอ 2-2)

ส่วนพีทีที บลูเวฟ ชลบุรี แม้จะจบอันดับ 6 ของการแข่งขัน แต่โดยรวมแล้วก็ยอดเยี่ยมเช่นกัน เพราะเก็บชัยชนะได้ถึง 2 นัดในการชนะ ฟัตห์ สปอร์ตทิฟ 4-2 ในรอบแบ่งกลุ่ม และถล่ม เซินเจิ้น หนานหลิง 7-0

“กระแสการตอบรับครั้งนี้ดีมาก มีผู้ชมเดินทางมาชมในสนามมากกว่าครั้งก่อน โดยเฉพาะในวันที่ พีทีที บลูเวฟ ชลบุรี ลงแข่งขัน ขณะที่การถ่ายทอดสดไปยังประเทศบราซิล และสเปน ก็มียอดวิวถล่มทลาย ส่วนการจัดการแข่งขัน รวมถึงเรื่องการดูแลนักเตะ และทีมงานจากสโมสรต่างๆทั่วโลกที่มาเยือนเมืองไทยเราก็ได้รับความชื่นชม ถือว่าเรายังคงรักษามาตรฐานที่เราเคยทำไว้ดีอยู่แล้วได้เป็นอย่างดี” อดิศักดิ์ เบ็ญจศิริวรรณ ประธานพัฒนาฟุตซอลแห่งชาติกล่าว

ศึกฟุตซอลสโมสรชิงแชมป์โลก ในครั้งหน้าประเทศไทยยังคงได้รับความไว้วางใจให้เป็นเจ้าภาพต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน ซึ่ง หัวเรือใหญ่ฟุตซอลไทย ยืนยันว่ารูปแบบการแข่งขัน และรายละเอียดต่างๆจะยิ่งใหญ่มากกว่าเดิม

“สำหรับรายการนี้ เราได้ลิขสิทธิ์จัดการแข่งขัน 3 ปี ซึ่งหมายความว่าปีหน้า รายการนี้จะยังคงอยู่ในไทยอย่างน้อยอีก 1 ครั้ง ซึ่งเราเตรียมความพิเศษเอาไว้คือ จะเพิ่มทีมเข้าร่วมการแข่งขันเป็น 12 ทีม จากเดิม 9 ทีม ซึ่งครั้งนี้จะเพิ่มตัวแทนจากโซนคอนคาเคฟ เข้ามาด้วย เพื่อเติมเต็มการแข่งขันให้เป็นมหกรรมกีฬา มีความสมบูรณ์สมกับเป็นชิงแชมป์สโมสรโลก ส่วนรูปแบบการแข่งขัน รอบแรกยังจะเป็นรอบแบ่งกลุ่มเหมือนเดิม แต่รอบสองอาจจะเป็นรอบ 8 ทีม ก่อนจะเข้าไปสู่รอบรองชนะเลิศ และชิงชนะเลิศ ต่อไป”

ขณะที่เรื่องการถ่ายทอดสด ซึ่งแฟนฟุตซอลไทยวิพากวิจารณ์กันอย่างมาก ที่มีเพียงแค่คู่ที่ พีทีที บลูเวฟ ลงทำการแข่งขัน ส่วนคู่อื่นมีถ่ายทอดสดก็จริง แต่ดูได้เฉพาะประเทศบราซิล และสเปน เท่านั้น

“ต้องยอมรับว่าครั้งนี้เรามี ข้อจำกัดหลายด้าน ตั้งแต่กรณีที่ พีทีที บลูเวฟ ต้องลงแข่งขันเฉพาะเวลา 16.00 น. ทำให้หลายคนที่ต้องทำงาน พลาดชมเกมการแข่งขันแบบติดขอบสนาม ซึ่งสาเหตุมาจากเวลาถ่ายทอดสดของทางสถานี มีเพียงแค่ช่วงเวลานี้เท่านั้น ขณะที่การถ่ายทอดสดคู่อื่นๆ ก็มีปัญหาหลายด้าน แต่ครั้งหน้ารับรองว่า เราจะมีการปรับให้เวลาอยู่ในช่วงที่เหมาะสมคือ 18.00-20.00 น. และจะให้คนไทยสามารถดูการแข่งขันระดับโลกได้ทุกคู่อย่างที่ต้องการ” ประธานพัฒนาฟุตซอลแห่งชาติกล่าวปิดท้าย

จัดครั้งนี้ก็ว่ายิ่งใหญ่แล้ว เพราะมีการเพิ่มทีมเป็น 9 ทีม มากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา ทั้งยังมีเงินรางวัลสูงถึง 3.1 ล้านบาท แต่ครั้งหน้า “บิ๊กป๋อม”ยังการันตีอีกว่าจะยิ่งใหญ่ และอลังการมากกว่าเดิมแน่นอน