การคุมทีมนัดแรกของกุนซือทัพช้างศึกวัย 64 ปีเป็นสิ่งที่แฟนบอลชาวไทยทุกคนจับตามอง รวมไปถึงการเจอคู่ปรับอย่าง เวียดนาม ในศึก ฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก ทำให้เกมนี้มีความสำคัญกับแฟนบอลจริงๆ
เปิดตัวนิชิโนะพร้อมแผนพิสดาร
กุนซือเลือดซามูไรรายนี้เคยผ่านสังเวียน ฟุตบอลโลก 2018 มาแล้วกับ ทีมชาติญี่ปุ่น
และ อากิระ นิชิโนะ กุนซือของเราก็ทำอะไรเซอร์ไพรซ์ตั้งแต่นัดแรก เขาตัดสินใจไม่ส่งศูนย์หน้าแท้ๆ ที่มีอยู่เพียงหนึ่งเดียวในทีมชุดนี้คือ ศุภชัย ใจเด็ด ลงสนามเป็น 11 ตัวจริง ทำให้รูปแบบการเล่นของทีมชาติไทยในเกมนี้อาจจะเรียกว่าเป็นระบบ 4-3-3 ก็ได้ กองหน้าคู่ของไทยคือ ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ และ สุภโชค สารชาติ ถูกถ่างออกไปเล่นด้านข้างของสนามโดยมี เจ ชนาธิป สรงกระสินธ์ เดินสูงขึ้นไปทำเกมตรงกลาง
สำหรับเกมรุกโดยรวมของเราในเกมนี้ยังไม่ค่อยดีนัก เมสซี่เจ ถูกคู่แข่งตามจับจนมีโอกาสทำเกมน้อยมากแต่เราก็ยังพอมีโอกาสยิงประตูให้เห็นบ้าง ส่วนในเกมรับ เซนเตอร์สองคน พรรษา เหมวิบูลย์ กับ มานูเอล ทอม เบียร์ ไม่น่าจะเป็นการจับคู่ที่ลงตัว เราอาจจะได้เห็นความเปลี่ยนแปลงในตำแหน่งนี้ในเกมนัดต่อไป
เวียดนามเหนียวจริง
มาถึงจุดที่ต้องยอมรับว่า เวียดนาม เองก็ไม่ธรรมดา ภายใต้การคุมทีมของกุนซือชาวเกาหลีใต้ ปาร์ค ฮัง ซอ ดูเหมือนว่าพวกเขาจะเจอแนวทางการเล่นของตัวเองแล้ว จุดเด่นของพวกเขาคือเกมรับที่เหนียวแน่นมีระเบียบวินัย เกมเพรสซิ่งแบบเข้มข้น ความฟิตของนักเตะทุกคนอยู่ในระดับเต็มร้อย ผสมเข้ากับเกมโต้กลับที่มีประสิทธิภาพ มีจังหวะเข้าทำฉาบฉวยที่น่ากลัว เวียดนาม ในตอนนี้ไม่ใช่ทีมที่จะเอาชนะได้ง่ายๆ การมายันเสมอทัพช้างศึกไดัถึงไทยและเก็บหนึ่งแต้มกลับบ้านได้ไม่ถือว่าเป็นเรื่องเสียหายอะไรเลยสำหรับพวกเขา
นัดต่อไปวันอังคารหน้า ทีมชาติไทย จะไปเยือน อินโดนีเซีย ที่สนามเสนายัน โดยที่เจ้าถิ่นเพิ่งแพ้ให้กับคู่ปรับตลอดกาลอย่าง มาเลเซีย หวุดหวิด 3-2 ถือเป็นศึกใหญ่ของทัพช้างศึก และ นิชิโนะ แน่นอน และเกมนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงทั้งนักเตะและแผนการเล่นให้แฟนบอลไทยได้เห็นกัน