มีเดือด! ย้อนดูสามเกมหลังสุดไทยปะทะอินโดนีเซียก่อนศึกคัดบอลโลก

หลังจากเสมอ เวียดนาม มาแบบไร้สกอร์ ศึก ฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือกของ ไทย ยังเหลืออีกหนึ่งเกมก่อนจะเว้นวรรคไปจนถึงเดือนหน้า โดยทัพช้างศึกภายใต้การคุมทีมของ อากิระ นิชิโนะ จะต้องบุกไปเยือน อินโดนีเซีย ในวันอังคารนี้ซึ่งถือเป็นศึกหนักไม่น้อยเพราะเราเองก็เคยแพ้พวกเขาคาบ้านมาแล้ว

อินโดนีเซีย 2-1 ไทย 14 ธันวาคม เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2016

เป็นเกมนัดชิงชนะเลิศ เลกแรก ทั้งสองทีมโคจรมาเจอกันอีกครั้งหลังจากเคยดวลกันมาแล้วก่อนหน้านี้ในรอบแบ่งกลุ่มที่ฟิลิปปินส์เป็นเจ้าภาพ นัดนั้นเป็นฝั่งทัพช้างศึกไทยที่อัดทัพอิเหนาไปแบบสนุกเท้า 4-2 แต่ในนัดนี้เป็นเจ้าถิ่น อินโดนีเซีย ที่ทำได้ดีกว่าแม้จะถูกไทยขึ้นนำไปก่อนจาก ธีรศิลป์ แดงดา แต่ก็กลับมาทวงคืนถึงสองประตูในช่วงครึ่งหลัง กุมความได้เปรียบก่อนกลับมาเล่นเลกสองที่ไทย

ไทย 2-0 อินโดนีเซีย 17 ธันวาคม เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2016

เกมชี้ชะตาแชมป์สุดดุเดือดที่กองเชียร์ชาวไทยแห่เข้ามาชมกันแน่น สนามราชมังคลากีฬาสถาน และยังเป็นเกมแจ้งเกิดของ ปีโป้ ศิโรจน์ ฉัตรทอง กองหน้าร่างล่ำบึ้กจากสุรินทร์ที่กดคนเดียวสองประตู ช่วยให้ไทยเฉือน อินโดนีเซีย ไปด้วยสกอร์รวม 3-2 คว้าแชมป์เป็นสมัยที่ห้ามากที่สุดในชาติอาเซียน ช่วงทัายเกมยังเกือบมีการวางมวยเกิดขึ้นเมื่อ เลสตาฮูลู เกิดอาการหงุดหงิดไปเตะบอลใส่ซุ้มม้านั่งฝั่งไทยที่มีนักเตะและสตาฟฟ์โค้ชนั่งอยู่ ยังดีที่เรื่องไม่บานปลายเพราะช่วยกันห้ามไว้ได้ทัน ผลคือแข้งก่อเหตุโดนใบแดงไล่ออกจากสนาม เจ้าตัวยังกร่างเดินไปชูนิ้วกลางใส่กองเชียร์ไทยเป็นของแถมด้วย

ไทย 4-2 อินโดนีเซีย 17 พฤศจิกายน เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2018

เป็นการโคจรกลับมาเจอกันอีกครั้งในฐานะแชมป์เก่าและรองแชมป์เก่าที่บังเอิญถูกจับมาให้อยู่ในสายเดียวกันในรอบแบ่งกลุ่ม โดยใช้สังเวียนเดิมคือ สนามราชมังคลากีฬาสถาน และผลก็ออกมาเหมือนเดิมคือเป็นฝั่งไทยเจ้าบ้านภายใต้การคุมทีมของ มิโลวาน ราเยวัช ที่ไล่บี้เอาชนะทีมเยือนไปแบบไม่ยาก 4-2 แม้จะได้ผ่านเข้ารอบแต่ทัพช้างศึกก็ดันไปตกม้าตายในรอบตัดเชือกกับ เวียดนาม ซึ่งสุดท้ายก็เป็นพวกเขาที่คว้าแชมป์ไปครองได้สำเร็จ