วิเคราะห์ 5 จุดแข็ง ที่ อากิระ นิชิโนะ กุนซือไทย พาช้างศึกบุกเก็บ 3 แต้มแรกคัดบอลโลก2022 ขึ้นจ่าฝูงกลุ่มจี
1.คนที่ต้องชมมากเป็นพิเศษ คือ สุภโชค สารชาติ
เก็บความผิดหวังจากเกมแรกทิ้งไป เรียกความมั่นใจกลับคืนมา มีส่วนทั้ง 3 ประตูที่เกิดขึ้น ยิง 2 ลูกและเรียกจุดโทษได้อีกด้วย ถ้าไม่มีเขา ทีมชาติไทยก็อาจจะไม่เปรี้ยงปร้างถึงขนาดนี้ก็เป็นได้
2.เกมรับพื้นที่สุดท้ายอย่าง ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน
แม้จะมีจังหวะเซฟน้อยครั้ง แต่ก็เห็นได้ชัดว่าเขาเซฟในจังหวะสำคัญๆ ไม่ทำให้ไทยเสียประตูไปก่อน โดยเฉพาะจังหวะเซฟในช่วงครึ่งแรกที่ อิรฟาน บัชดิม ได้ซัดตามน้ำ บอลยังไปติดเซฟศิวรักษ์ คิดกลับกัน ถ้าไทยโดนไปก่อน ก็ไม่รู้ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร
3.กองเชียร์อินโดน้อยจัดที่เสนายัน
น่าแปลกใจเหมือนกันว่าเกมแรกที่ อินโดนีเซีย แพ้ มาเลเซีย 2-3 มีแฟนบอลกว่า 54,659 คน ส่วนเกมที่ อินโดนีเซีย แพ้ ทีมชาติไทย 0-3 มีแฟนบอลเพียงแค่ 11,600 คนเท่านั้น ทำให้ไม่สามารถส่งเสียงกดดันแข้งช้างศึกได้มากเท่าที่ควร เป็นเรื่องที่แปลกมากที่อินโดนีเซียที่มีแฟนเข้าชมเพียงไม่ถึง 25 เปอร์เซนต์ของความจุสนามเสนายันแห่งนี้
4.แดนกลางจับได้ถูกจุด
อากิระ นิชิโนะ จับคู่กลางช่วยเกมรับพร้อมประสานเกมรุกได้ตรงเป้า ทั้ง สารัช อยู่เย็น กองกลางจาก เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ที่กลับมาท็อปฟอร์ม เล่นได้ตรงตามแท็คติกโค้ช ปัดกวาดเกมรับก่อนจะเข้าพื้นที่สุดท้าย ดึงเกม ช้า-เร็ว ดีเลย์จังหวะได้เยี่ยม รวมถึง พิธิวัต สุขจิตธรรมกุล ดาวรุ่งจาก สิงห์ เชียงราย ที่ทำได้เยี่ยมเป็นนัดที่สองแล้ว ว่ากันว่าชั่วโมงนี้เขาคือผู้เล่นที่เล่นสไตล์ Box to Box ที่ดีที่สุดของเมืองไทยในขณะนี้
5.อากิระ นิชิโนะ กลายเป็นโค้ช ผู้จุดประกายฝันของแฟนบอลไทย
กับการลุ้นไป ฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย สักครั้งในประวัติศาสตร์ชาติไทย โค้ชนิชิโนะ ได้ปรับตัวเข้ากับระบบฟุตบอลไทย วางแท็คติกได้โอเคสุดๆ หมุนผู้เล่นจนหาจุดลงตัวได้แล้ว มิดฟิลด์-ริมเส้น-หน้าเป้า มีโชว์ครบสูตร รออีกนิด โดยเฉพาะ ธีรศิลป์ แดงดา หรือแม้กระทั่งกองหน้าคนอื่นๆหากเข้าฟอร์มเมื่อไหร่ ได้เห็นทีมไทยชุดเต็มที่ได้ลุ้นแน่
