น้าฉ่วย สมชาย ชวยบุญชุม กุนซือ กูปรีอันตราย ศรีสะเกษ เอฟซี บอกสถานการณ์ทีมตอนนี้กลับมามีลุ้นเลื่อนชั้นอีกครั้ง แม้จะถูกตัด 12 แต้ม แต่นับจากนี้ห้ามพลาดเป็นอันขาด
จากสถานการณ์ของทีม “กูปรีอันตราย”ศรีสะเกษ เอฟซี ที่เกือบจะหมดลุ้นขึ้นชั้นสู่โตโยต้า ไทยลีก2020 หลังโดน ส.บอลฯ สั่งตัดแต้ม 2 ครั้ง ครั้งละ 6 คะแนนจากกรณีข้อพิพาทที่นักเตะต่างชาติไปฟ้องร้องเรื่องค่าเหนื่อยกับฟีฟ่า จนกระทั่งฟีฟ่าส่งสัญญาณให้ ส.บอลฯ ตัด 12 คะแนนทันที ซึ่งก่อนหน้านี้ก็ทำให้ ศรีสะเกษ เอฟซี เกือบจะหมดลุ้นเลื่อนชั้นไปในตัวแล้ว
แต่ล่าสุด “กูปรีอันตราย”ศรีสะเกษ เอฟซี กลับมามีลุ้นเลื่อนชั้นเป็นรอบที่สามหลังทำผลงานได้อย่างเข้าเป้าต่อเนื่องภายใต้การคุมทัพของ”น้าฉ่วย”สมชาย ชวยบุญชุม อีกทั้งคู่แข่งในทางตรงที่ลุ้นอยู่เหมือนกันต่างพากันสะดุดหมด ทั้ง ระยอง เอฟซี และ อาร์มี่ ยูไนเต็ด ซึ่งเป็นโอกาสดีที่ ศรีสะเกษ เอฟซี จะมีลุ้นทำอันดับติดท็อปทรีเพื่อเลื่อนชั้นสู่โตโยต้า ไทยลีก2020ให้ได้
สมชาย ชวยบุญชุม หรือ “น้าฉ่วย” เปิดเผยว่า “ทีมศรีสะเกษ เอฟซี ยังอยู่ในสถานการณ์ที่จะพลาดไม่ได้ในทุกเกมที่เหลือต่อจากนี้ หลังจากที่เราชนะทีมคู่แข่งใกล้เคียงอย่าง ลำปาง เอฟซี กับ อุดรธานี เอฟซี จึงทำให้มีลุ้นอีกครั้ง แม้จะโดนตัดไป 12 คะแนนก็ตาม”
“จากการชนะมาสองเกมสำคัญที่แล้วทั้งการบุกชนะลำปาง เอฟซีและการเปิดบ้านชนะอุดรธานี เอฟซี แต่ยังมีเกมที่หนักของศรีสะเกษอีก5เกมที่เหลือ ดูแล้วไม่ใช่งานง่ายเลยเพราะพลาดไม่ได้แม้เกมเดียว โดยเฉพาะเกมวันนี้(อาทิตย์ 22 ก.ย.62) ที่ศรีสะเกษ เอฟซีจะบุกเยือน โปลิศ เทโร ทีมรองจ่าฝูง ซึ่งถือเป็นเกมสำคัญมากที่สุดก็ว่าได้ คือต้องมีแต้มกลับมาไม่หนึ่งก็สามแต้มให้ได้”
“แม้ในเลกสองเริ่มมาเราจะยังไม่แพ้ใครเลยก็ตาม ก็จะต้องเป็นเกมที่นักเตะทุกคนต้องเล่นแบบถวายหัวต้องทุ่มเทเกินร้อย และต้องมีสมาธิตลอดทั้งเกม”
โปลิศ เทโร เอฟซี เตรียมเปิดบ้านรับมือ ศรีสะเกษ เอฟซี ที่สนามบุญยะจินดา สโมสรตำรวจ วิภาวดี วันอาทิตย์ที่ 22 ก.ย.62 เวลา 18.00 น. โดยสถานการณ์ในตอนนี้ของศึกไทยลีก2M-150 แชมเปี้ยนชิพ 2019 โปลิศ เทโร รองจ่าฝูง มี 53 แต้ม จาก 29 นัด , อาร์มี่ ยูไนเต็ด ที่ 4 มี 52 แต้ม จาก 30 นัด , ระยอง เอฟซี ที่ 5 มี 52 แต้ม จาก 30 นัด ซึ่ง อาร์มี่ และ ระยอง แข่งมากกว่า 1 นัด ส่วน ศรีสะเกษ เอฟซี ที่ 5 มี 49 แต้มจาก 29 นัด