“โค้ชหนุ่ย” เฉลิมวุฒิ สง่าพล กุนซือ “สวาทแคท” นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ชี้การเสียประตูเร็วเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในความพ่ายแพ้ การท่าเรือ เอฟซี ระบุทุกคนต้องลืมความผิดหวัง ลุกขึ้นสู้เกมต่อไปที่จะเปิดบ้านรับมือ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
สวาทแคทเล่นเกมตกค้างที่เลื่อนจากการถูกพายุฝนเล่นงานบุกเยือนรัง การท่าเรือ โดยเริ่มเล่นในนาทีที่ 3 ก่อนพ่ายไป 0-3 และต้องเหลือ 10 คน เมื่อ กฤษดา เหมวิพัฒน์ ถูกสองใบเหลืองไล่ออกจากสนาม ศึกไทยลีก 1 ฤดูกาล 2019 เมื่อ 27 ก.ย.62 ที่ผ่านมา
โค้ชหนุ่ย เผยหลังเกมว่า “ต้องยอมรับ ท่าเรือมีเกมรุกดุดัน แต่เราก็เตรียมความพร้อมมา เพียงแต่แมตช์ที่แล้ว เราเล่นกับสมุทรปราการใช้พลังการเล่นเยอะ ซึ่งแมตช์นี้เราต้องใช้ผู้เล่นชุดเดิมจากเกมที่เลื่อนมาจากวันฝนตก มันทำให้สภาพของนักเตะ ซึ่งพัก 2-3 วัน มีผลบ้าง”
“เราเสียประตูเร็ว และ ต้องมาเร่งเพื่อเอาประตูคืน มันเป็นการเสี่ยงที่จะเสียสกอร์เพิ่ม ซึ่งมันก็เป็นไปตามจังหวะของเกม ครึ่งหลังก็ถือว่าเกมเราดีขึ้น ในเกมรุก ความดุดัน การเพรสซิ่ง ก็ดีขึ้น เพียงแต่ว่าเราไม่สามารถเปลี่ยนสกอร์ได้”
“ถ้าเราเปลี่ยนสอร์ได้บางลูก โอกาสจะตีเสมอมันจะเปิดกว้างขึ้น และพอช่วงท้าย เรามีผู้เล่นโดนสองเหลือง ก็เกิดความเสียหาย เราเสียเปรียบ มันทำให้โอกาสเรายากขึ้นไปอีก และก็มาเสียประตูที่ 3”
กุนซือสวาทแคทกล่าวต่อ “เราต้องลืมให้ได้ ในสิ่งที่เราผิดพลาด แมตช์หน้ารับมือบุรีรัมย์ เป็นการหนัก แต่เราไม่มีทางเลือก ต้องรวบรวมพลัง รวบรวมใจ และสมาธิ เพื่อที่จะกลับมาในแมตช์หน้าให้ได้ เล่นในบ้าน เราใส่เต็มร้อยแน่นอน”
เมื่อถูกถามถึงมองสามแต้มกับบุรีรัมย์หรือไม่ โค้ชหนุ่ย เผยว่า “ผมไม่สามารถตอบได้ว่าบุรีรัมย์อ่อนกว่าปีที่แล้วไหม แต่ทีมที่อยู่อันดับหนึ่ง ก็คงต้องมีทีเด็ด เราต้องโฟกัสในเรื่องของคุณภาพที่บุรีรัมย์มี เราต้องตัดจุดสำคัญเขาให้ได้”
“สิ่งสำคัญคืออย่าเสียง่าย เพราะการเสียง่ายทำให้เราต้องเหนื่อยในการต้องโหม ก็ไม่มีอะไรที่เป็นทางเลือกที่เราต้องยอม เพราะถ้าเราชนะ ถือว่าเป้าหมายที่เราต้องการมันก็ยังกำไรอยู่ ฉะนั้นเราต้องเต็มที่กับบุรีรัมย์ครับ”
สำหรับ สวาทแคท รั้งอยู่อันดับ 12 หลังผ่าน 27 นัด มี 31 คะแนน ส่วนโปรแกรมต่อไป จะเปิดบ้านรับหารมาเยือน บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด วันที่ 2 ตุลาคม 2562 เวลา 19.00 น. สนามเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา