บิล แชงค์ลีย์ ลิเวอร์พูล เคิร์กบี้ เมลวู้ด

ปิดตำนาน! จากที่รกร้างสู่ห้องเรียนศาสตร์ลูกหนังอันลือลั่นนาม ‘เมลวู้ด’

“ที่นี่มันรกร้าง แถมสนามหญ้ายังเต็มไปด้วยหลุมบ่อราวกับถูกทหารเยอรมันบอมบ์ใส่” นี่คือสิ่งแรกที่ บิล แชงค์ลีย์ กุนซือคนใหม่ที่เพิ่งย้ายมาจาก ฮัดเดอร์สฟิลด์ ทาวน์ ได้เห็นสภาพสนามซ้อม “เมลวู้ด” ของสโมสร ลิเวอร์พูล ในปี 1959 ซึ่งเล่าผ่านหนังสืออัตชีวประวัติของเจ้าตัว…

Home / SPORT / ปิดตำนาน! จากที่รกร้างสู่ห้องเรียนศาสตร์ลูกหนังอันลือลั่นนาม ‘เมลวู้ด’

“ที่นี่มันรกร้าง แถมสนามหญ้ายังเต็มไปด้วยหลุมบ่อราวกับถูกทหารเยอรมันบอมบ์ใส่” นี่คือสิ่งแรกที่ บิล แชงค์ลีย์ กุนซือคนใหม่ที่เพิ่งย้ายมาจาก ฮัดเดอร์สฟิลด์ ทาวน์ ได้เห็นสภาพสนามซ้อม “เมลวู้ด” ของสโมสร ลิเวอร์พูล ในปี 1959 ซึ่งเล่าผ่านหนังสืออัตชีวประวัติของเจ้าตัว

“มีพวกเยอรมันอยู่ที่นี่ใช่ไหม?” แชงค์ส หันไปหยอกล้อกับ ทอม บุช อดีตผู้เล่น ลิเวอร์พูล ที่ผันตัวมาเป็นเจ้าหน้าที่ในสโมสร ขณะพากุนซือคนใหม่พร้อมกับภรรยาของเขาทัศนารอบสนามซ้อมเมลวู้ดแห่งนี้ “เอาล่ะ! แม้จะรกร้าง แต่มันก็กว้างและมีพื้นที่ว่างพอที่จะพัฒนาต่อไปได้” และคำพูดนั้นเป็นเหมือนจุดเริ่มต้น “ตำนานเมลวู้ด” หนึ่งในสนามซ้อมที่บ่มเพาะแข้งดังขึ้นมาในอนาคต

 

 

เมลวู้ดสมัยเริ่มต้น

เริ่มแรกเดิมที ลิเวอร์พูล ใช้สนาม แอนฟิลด์ ซึ่งเป็นรังเหย้าของพวกเขาในการฝึกซ้อม และพื้นที่รกร้างดังกล่าวเป็นลานเด็กเล่นของ โรงเรียนเซนต์ ฟรานซิส ซาเวียร์ ซึ่งเรียกกันว่า “เมลวู้ด” ตามชื่อชื่อสองบาทหลวงอย่าง คุณพ่อเมลลิง และ คุณพ่อวู้ดล็อก ก่อนที่พื้นที่ดังกล่าวจะขายให้กับ ลิเวอร์พูล เพื่อใช้เป็นสนามซ้อมในช่วงต้นยุค 1950

ซึ่งสถานที่แห่งนี้ในตอนแรกมีเพียงอาคารไม้เก่าๆ ตั้งอยู่เพื่อใช้หลบฝนและหิมะ ข้างในนั้นไม่มีแม้แต่สิ่งอำนวยความสะดวก ไม่มีฮีตเตอร์ สีทาผนังก็หลุดลอกเต็มไปหมด แถมภายนอกก็เต็มไปด้วยหญ้าสูง ชนิดที่ลูกทีมของ แชงค์ลีย์ อย่าง จิมมี่ เมเลีย แอบไปอู้ตามกอหญ้าได้เลย

 

 

แต่การเข้ามาของ แชงค์ลีย์ ทำให้พื้นที่รกร้างของเมลวู้ด ค่อยๆ ปรับเปลี่ยนสภาพให้ดีขึ้น อาคารไม้ถูกปรับปรุงภายในให้พร้อมใช้งาน เช่นเดียวกับสนามหญ้าภายนอกที่เหมาะกับการฝึกซ้อมของนักฟุตบอล และหลังจากนั้นไม่นานเขาก็จัดการรื้อแล้วสร้างอาคารแห่งใหม่ด้วยอิฐแดง โดยคราวนี้เขาเพิ่มห้องยิมและห้องซาวน่าเข้าไปเพื่อเพิ่มศักยภาพผู้เล่นภายในทีม

และที่นั่น แชงค์ลีย์ ใช้สนามซ้อมแห่งนี้เป็นห้องเรียนในการอัดวิชาลูกหนังให้กับเหล่าลูกทีมหงส์แดงจนแกร่งกล้าและเริ่มเป็นที่ถูกพูดถึงไปทั่วยุโรปผ่านการเล่นที่บ้าบิ่นและเร้าใจตามปรัชญาของกุนซือรายนี้ ก่อนจะส่งไม้ต่อไปยัง บ็อบ เพสลีย์ ชายผู้ถูกยกย่องว่าเป็นคนพาหงส์แดงเกรียงไกรที่สุดในประวัติศาสตร์ของสโมสร

 

 

ปรับโฉมครั้งใหญ่

เมลวู้ด เป็นสถานที่บ่มเพาะฝีเท้าผู้เล่นให้กับผู้เล่นรุ่นแล้วรุ่นเล่า ก่อนที่จะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ หลังจากการเข้ามาของ เชราร์ อุลลิเยร์ กุนซือชางฝรั่งเศส โดยในปี 2001 “เฮียโปน” ตัดสินใจเริ่มภารกิจ “มิลเลนเนียม พาวิเลียน” ปรับปรุงสนามซ้อมเมลวู้ดให้ดูทันสมัยขึ้น ซึ่งมีทั้งห้องทำงานผู้จัดการทีม, ระเบียงชมการฝึกซ้อม, ห้องรับรองที่เอาไว้ใช้ในการแถลงข่าวและเซ็นสัญญา รวมถึงห้องปฏิบัติการณ์ทางการแพทย์, ห้องยิมขนาดใหญ่ และสนามซ้อมหญ้าจริง 3 สนาม ขนาดไม่เท่ากัน ตามขนาดของสนามที่กำลังจะลงดวลแข้งกับคู่แข่ง นอกจากนี้ยังมีสนามในร่มอีก 1 สนาม ซึ่งเป็นหญ้าเทียมเพื่อใช้ซ้อมในช่วงที่อากาศไม่เอื้ออำนวย

 

 

ถึงคราวปิดตำนาน

ซึ่ง เมลวู้ด ในยุคหลังถูกใช้งานต่อเนื่องมาจนถึงปี 2019 หรือ 18 ปีให้หลังจากมีการปรับโฉมสนามซ้อมครั้งใหญ่ในครั้งนั้น FSG ตัดสินใจย้ายสนามซ้อมทีมชุดใหญ่จาก เมลวู้ด ไปยังย่านเคิร์กบี้ ซึ่งเป็นที่ตั้งของศูนย์เยาวชนของสโมสร โดยทุ่มงบกว่า 50 ล้านปอนด์เพื่อเนรมิตศูนย์ฝึกซ้อมแบบครบครันให้เสร็จสิ้นในปี 2020 ตามนโยบายในการพาหงส์แดงทะยานคว้าความสำเร็จต่อไปในอนาคตนั่นเอง เป็นอันปิดตำนาน เมลวู้ด สนามซ้อมที่บ่มเพาะเหล่าแข้งดังจากอดีตจนถึงปัจจุบันเป็นที่เรียบร้อย

 

 

สนามซ้อมใหม่ย่านเคิร์กบี้

โดย ลิเวอร์พูล มีแผนสร้าง “เทรนนิ่งคอมเพล็กซ์” ในย่านเคิร์กบี้ เพื่อให้ทีมชุดใหญ่และทีมเยาวชนได้มีความใกล้ชิดกัน ซึ่งพื้นที่ทั้งหมดตามที่วางไว้จะมีด้วยกัน 60 เอเคอร์ และได้รับการออกแบบโดย เคเอสเอส บริษัทสถาปานิกชื่อดังจากลอนดอน ซึ่งเคยออกแบบสนามโอลิมปิก สเตเดี้ยม , ต่อเติมสนาม สแตมฟอร์ด บริดจ์ และเทรนนิ่งคอมเพล็กซ์ให้กับ ทอตแน่ม ฮอทสเปอร์ มาแล้ว

ซึ่ง เทรนนิ่งคอมเพล็กซ์ จะมีทั้งสนามซ้อมภายนอกและในร่ม รวมถึงสนามแข่งจริงให้กับทีมเยาวชนและติดตั้งที่นั่งความจุ 499 คน ให้กับญาติของผู้เล่นและแขกรับเชิญเข้ามาชมเกม ด้านอุปกรณ์การฝึกซ้อมหงส์แดงจัดเต็มเพื่อยกระดับให้สถานที่แห่งนี้เป็นหนึ่งในศูนย์ฝึกชั้นแนวหน้าของโลกเลยทีเดียว