แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ปราการหลังทีมชาติอังกฤษกำลังจะเป็นนักเตะของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และกำลังจะได้ควบตำแหน่งกองหลังที่แพงที่สุดในโลกด้วย แต่อาจจะพูดได้ว่า แม็กไกวร์ ไม่ใช่กองหลังที่ครบเครื่อง และเก่งกาจรอบด้าน เขาไม่ใช่กองหลังที่มีความเร็ว
นั่นเป็นสาเหตุที่เขาเคยถูกบางสโมสรปฏิเสธ ครั้งหนึ่ง ฮัดเดิลส์ฟิลด์ เคยพลาดโอกาสที่จะได้ตัวแข้งชาวอังกฤษรายนี้ไปร่วมทีมด้วยค่าตัวแค่ 1 ล้านปอนด์เนื่องจากมองว่าเขาช้าเกินไป อย่างไรก็ตาม ความเป็นผู้นำ และการอ่านเกมที่ยอดเยี่ยมเข้ามาทดแทนจุดด้อยด้านนี้ของเขา
แม็กไกวร์ ในวัย 18 ปีประเดิมสนามอย่างเป็นทางการครั้งแรกในชีวิตให้ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ในลีก แชมเปียนส์ชิพ โดย มิคกี้ อดัมส์ อดีตกุนซือทีมดาบคู่ผู้ที่ส่งกองหลังรายนี้ประเดิมสนามนัดแรกในปี 2011 บอกว่า “เขาเป็นนักฟุตบอลที่ฉลาด เขายอดเยี่ยม ขยันตั้งใจ และอยากเรียนรู้ เขาเป็นเหมือนนักเรียนและก็เรียนรู้ได้เร็วมากโดยเฉพาะในสนามซ้อม” ขณะที่ ทราวิส บินเนียน อดีตผู้อำนวยการอคาเดมี่ของ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ที่ร่วมงานกับ แม็คไกวร์ ตั้งแต่อายุ 16 ก็บอกว่านักเตะคนนี้มีความมั่นใจและโตเกินวัย “ผมไม่แปลกใจที่เห็นเขาไปได้ไกลถึงระดับสุดยอด”
แม็กไกวร์ ยังโดดเด่นในเรื่องการป้องกันลูกกลางอากาศ เขามีสถิติการชนะลูกกลางอากาศมากกว่ากองหลังของทีมปีศาจแดงทุกคนทั้ง วิคตอร์ ลินเดลอฟ, อีริก ไบยี่, ฟิล โจนส์, คริส สมอลลิ่ง วัดจากสถิติการลงเล่นในซีซั่นก่อนกับ เลสเตอร์ ส่วนในเรื่องเกมรุกเขาก็มีส่วนร่วมถึง 13 ประตูกับทีมจิ้งจอกในฤดูกาลก่อน ยิงไป 7 ประตู 6 แอสซิสต์ มากกว่า เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค ที่ทำไป 5 ประตู 2 แอสซิสต์ และเป็นรองแค่กองหลังคนเดียวในห้าลีกดังยุโรปคือ เซร์คิโอ รามอส ที่ถล่มไปถึง 17 ประตู 2 แอสซิสต์ให้ เรอัล มาดริด
ไมเคิล ดอว์สัน อดีตกองหลังทีมชาติอังกฤษที่เคยเล่นร่วมกับเขาในทีม ฮัลล์ ซิตี้ ให้เหตุผลว่า ส่วนหนึ่งที่ทำให้แข้งทีมชาติอังกฤษรายนี้ไปเตะตาทีมปีศาจแดงเป็นเพราะเขาพัฒนาการเล่นได้อย่างยอดเยี่ยม “สิ่งที่ทำให้เขาอัพค่าตัวถึง 80 ล้านปอนด์อยู่ที่การจ่ายบอลสร้างเกม เขามีความสามารถในการพาบอลออกมาจากแดนหลัง แม้จะถูกบีบให้เล่นในพื้นที่จำกัดเขาก็ยังสามารถเอาตัวรอดได้แบบสบายๆ นี่คือสิ่งที่ทำให้เขาเป็นนักเตะชั้นยอด” “ให้เวลาเขาปรับตัวสักระยะ ผมมั่นใจว่าในวันหนึ่งข้างหน้าเขาจะกลายมาเป็นกัปตันทีมของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด”