5 สิ่งที่เกิดขึ้นในเกมที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ดับโทษ ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์ คอมมูนิตี้ ชิลด์ ไปครอง
นับเป็นเกมที่สนุกตั้งแต่เกมการกุศลเปิดหัว พรีเมียร์ ลีก ฤดูกาลนี้เลยทีเดียว เมื่อ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ต้องอาศัยความเด็ดขาดในการดวลจุดโทษ เฉือนเอาชนะ ลิเวอร์พูล ประเดิมแชมป์ คอมมูนิตี้ ชิลด์ ในปีนี้ไปครอง ก่อนจะเริ่มเปิดฉากในฤดูกาลจริงสัปดาห์หน้า และนี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นกับสองทีมในเกมนัดนี้
โอกาสทิ้งขว้างของ ซาลาห์
ในสนามเกมนี้ไม่มีใครมีโอกาสยิงเท่ากับ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ อีกแล้ว ซึ่งเกมนี้ปีกแดนมัมมี่กดคนเดียว 10 ครั้ง แต่ไม่สามารถเปลี่ยนเป็นประตูได้สักลูก โดยชนเสา 2 ครั้ง และถูกสกัดออกจากเส้นอีก 1 ครั้ง ซึ่งอาการไม่คมของ ซาลาห์ ยังคงเป็นปัญหาสำหรับเจ้าตัว ซึ่ง ลิเวอร์พูล จำเป็นต้องพึ่งความเด็ดขาดของเจ้าตัวท่ามกลางโอกาสอันน้อยนิดในบางหรืออีกหลายเกมต่อจากนี้ไป
โอกาสยิงของ ซาลาห์ ในเกมนี้
ยิง : 10
เข้ากรอบ : 4
ชนเสา : 2
เคลียร์จากเส้น : 1
………
เฆซุส ผู้พิชิต ฟาน ไดจ์ค
สุดท้ายสถิติดุจหินผาของ เวอร์กิล ฟาน ไดจ์ ต้องถูกพังลงไป สำหรับการไม่ปล่อยให้คู่แข่งเลี้ยงบอลผ่านสักรายเดียวในฤดูกาลที่ผ่านมา แต่ในฤดูกาลนี้ ปราการหลังดัตช์กลับโดน กาเบรียล เฆซุส เลี้ยงบอลผ่านตัวในช่วงท้ายเกม ถือเป็นการปล่อยให้คู่แข่งเลี้ยงผ่านในรอบ 65 เกมหลังสุด นับตั้งแต่ มิเกล เมริโน่ ของ นิวคาเซิ่ล เลี้ยงผ่านเมื่อเดือนมีนาคม 2018
………
กุนซือเหลืองแรก
เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เป็นผู้จัดการทีม พรีเมียร์ ลีก คนแรกที่ล่อใบเหลืองเป็นแรกตั้งแต่เกมการกุศลแบบนี้ หลังออกแอ็คชั่นข้างสนามอย่างเผ็ดร้อนในจังหวะที่ ดาบิด ซิลบา ปะทะกับ โจ โกเมซ จนล้มไปนอนกับพื้น จน มาร์ติน แอตกินสัน ต้องควักใบเหลืองให้เพื่อสงบสติอารมณ์ นอกจากนี้ กวาร์ดิโอกล่า ยังเป็นผู้จัดการทีมคนแรกที่ได้รับใบเหลือง นับตั้งแต่ สมาคมฟุตบอลอังกฤษ (เอฟเอ) นำกฎดังกล่าวมาใช้ในการแข่งขันฟุตบอลในประเทศเมื่อปี 2018
………
สเตอร์ลิง ปลดล็อก
และแล้ว ราฮีม สเตอร์ลิง ก็สามารถยิงประตูใส่ทีมเก่าอย่าง ลิเวอร์พูล ได้สักที นับตั้งแต่ย้ายมาเล่นให้กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในปี 2015 โดยอาศัยความผิดพลาดฝในเกมรับของหงส์แดงยิงผ่านตัว อลิสซอน เบ็คเกอร์ ไปแบบทุลักทุเล ซึ่งเจ้าตัวลงสนามช่วย แมนฯ ซิตี้ เจอกับ ลิเวอร์พูล ใน 11 จากทั้งหมด 12 เกม
………
ศัตรูที่น่ากลัวของเรือใบ
แม้ แมนฯ ซิตี้ จะเริ่มเกมได้อย่างคึกคักและได้ประตูนำอย่างรวดเร็วจากความผิดพลาด แต่ครึ่งหลัง ลิเวอร์พูล เป็นฝ่ายตบหน้าเรือใบอยู่ฝ่ายเดียว แต่ได้มาเพียงประตูเดียวเท่านั้น ก่อนจะตัดสินกันในช่วงดวลจุดโทษ แสดงให้เห็นว่าเสียงเชียร์ของเหล่าเดอะค็อปยังเพิ่มพลังให้กับผู้เล่นหงส์แดงทุกคน และพร้อมสร้างผลงานที่ยอดเยี่ยม ซึ่งเรื่องนี้ กวาร์ดิโอล่า ตระหนักเป็นอย่างดี และแน่นอนเขายังคงมองว่าทีมที่บดลุ้นแชมป์ พรีเมียร์ ลีก เมื่อฤดูกาลก่อน จะยังคงเป็นศัตรูเบอร์ต้นๆ ในการลุ้นแชมป์ฤดูกาลนี้เช่นกัน
เชื่อเหลือเกินว่าฤดูกาลนี้นอกจากเกมในสนามของทั้งสองทีมนี้แล้ว นอกสนามกุนซือและผู้เล่นทั้งสองทีมน่าจะสาดน้ำลายใส่กันอย่างดุเดือดอย่างแน่นอน!
สำหรับโปรแกรมเปิดฤดูกาล พรีเมียร์ ลีก 2019/20 ลิเวอร์พูล จะประเดิมสนามพบกับ “น้องใหม่” นอริช ซิตี้ คืนวันศุกร์ที่ 9 สิงหาคมนี้ เวลา 02.00 น. (เช้าวันเสาร์) ขณะที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จะไปเยือน เวสต์แฮม ยูไนเต็ด วันเสาร์ที่ 10 สิงหาคมนี้ เวลา 18.30 น.
