เวอร์กิล ฟาน ไดจ์ค พูดถึงความกดดันในฐานะกองหลังค่าตัวแพงที่สุดในโลก หลังปราการหลังแดนกังหันถูกทำลายสถิติดังกล่าวโดย แฮร์รี่ แม็กไกวร์
แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ประสบความสำเร็จในการย้ายจาก เลสเตอร์ ซิตี้ ไปยัง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ด้วยค่าตัว 80 ล้านปอนด์ นั่นทำให้เขากลายเป็นกองหลังค่าตัวแพงที่สุดในโลก ทำลายสถิติเดิมของ เวอร์กิล ฟาน ไดจ์ค ที่ย้ายจาก เซาแธมป์ตัน มาเล่นให้กับ ลิเวอร์พูล ด้วยค่าตัว 75 ล้านปอนด์ เมื่อเดือนมกราคม 2018
โดยปราการหลังแดนกังหันพูดถึงความกดดันในฐานะนักเตะค่าตัวแพงที่สุดในโลกว่า “ของให้เขาโชคดี [แม็กไกวร์] ทุกอย่างล้วนเปลี่ยนไปตามกาลเวลา นี่คือตลาดนักเตะ เขาไม่สามารถกำหนดอะไรได้เลย แต่ก็ขอให้เขาไปได้ดีแล้วกัน”
“ค่าตัวมักมาพร้อมกับความกดดัน แต่ก็เปลี่ยนอะไรเราไม่ได้มากหรอก เพราะคุณย่อมเจอความกดดันอยู่แล่ว และยิ่งเล่นให้กับทีมใหญ่อย่าง แมนฯ ยูไนเต็ด”
“มันไม่ง่ายเลยที่จะรับแรงกดดันเหล่านั้นได้ทั้งหมด ส่วนตัวมันอยู่ที่มุมมอง ผมได้ทำสิ่งที่รักและเล่นให้กับ ลิเวอร์พูล นี่เป็นสโมสรที่ยิ่งใหญ่ คุณต้องสนุกไปกับมัน แต่ความกดดันก็ยังอยู่กับคุณเสมอ” ฟาน ไดจ์ค กล่าว
สำหรับ ฟาน ไดจ์ค ที่ได้รับรางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งปีของสมาคมนักฟุตบอลอาชีพอังกฤษเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา มีลุ้นคว้ารางวัล บัลลงดอร์ ที่จะประกาศผลในเดือนธันวาคมนี้อีกด้วย
………
เกร็ดน่ารู้
สุดท้ายสถิติดุจหินผาของ เวอร์กิล ฟาน ไดจ์ ต้องถูกพังลงไป สำหรับการไม่ปล่อยให้คู่แข่งเลี้ยงบอลผ่านสักรายเดียวในฤดูกาลที่ผ่านมา หลังโดน กาเบรียล เฆซุส เลี้ยงบอลผ่านตัวในช่วงท้ายเกม คอมมูนิตี้ ชิลด์ ที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นการปล่อยให้คู่แข่งเลี้ยงผ่านในรอบ 65 เกมหลังสุด นับตั้งแต่ มิเกล เมริโน่ ของ นิวคาเซิ่ล เลี้ยงผ่านเมื่อเดือนมีนาคม 2018