ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ กองกลางคนสำคัญทีมชาติไทย กล่าวถึงความพร้อมล่าสุด ก่อนประเดิมพบกับ ทีมชาติเวียดนาม ในฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน คิงส์คัพ ครั้งที่ 47 ยืนยันไม่ประมาท หลัง คู่แข่งรายนี้ มีพัฒนาการที่ดีขึ้น
ขุนพล ดาวทอง ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ในช่วงรอบปีที่ผ่านมา ทั้งการคว้าแชมป์อาเซียน เป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปี ต่อด้วย ผ่านเข้าถึงรอบ 8 ทีมเอเชียนคัพ เป็นครั้งที่ 2 ในประวัติศาสตร์ ขณะที่ กองกลางจากโออิตะ ทรินิตะ กล่าวว่า
“ดีใจเหมือนเดิมครับ ที่มีชื่อติด และ ก็ดีใจที่ได้กลับมาเจอพี่ๆน้องๆ อีกครั้ง เพราะตอนอยู่ที่ญี่ปุ่น ผมก็ไม่ได้ค่อยคุยกับใคร (ยิ้ม) พอกลับมาที่นี่ ก็รู้สึกสนุกสนานครับ บรรยากาศยอดเยี่ยมมากๆ ทั้งตอนฝึกซ้อม หรือแม้กระทั่ง ตอนกินข้าว”
“ส่วนตัว แม้ว่าเพิ่งเข้ามาซ้อมกับทีม แต่ก็ค่อนข้างพร้อมครับ เพราะทีมชุดนี้ได้ซ้อม และ ได้เล่นด้วยกันมานาน ดังนั้น ผมคิดว่า เราค่อนข้างลงตัวกับการแข่งขันครั้งนี้ และ ตอนนี้ ในแง่สภาพจิตใจ ผมก็ค่อนข้างมั่นใจด้วยครับ
“ผมรู้สึกว่าตัวเองเปลี่ยนไปเยอะมากครับ กว่าตอนอยู่ไทย โดยเฉพาะ เรื่องความเป็นมืออาชีพ ทั้งใน และ นอกสนาม อย่างเรื่องดูแลตัวเอง อาหารการกิน ก็เน้นเป็นพิเศษมากขึ้น เพราะ มันต้องเอาไปใช้ในการฝึกซ้อม ก็อย่างที่บอกครับ ส่วนตัวตอนนี้ผมพร้อมเต็มที่ครับ”
กองกลางวัย 25 ปี ยังกล่าวต่อว่า “การเจอ เวียดนาม เป็นเกมที่สำคัญครับ มันเป็นเกมที่ทั้งนักฟุตบอล และ แฟนบอลทุกคน คาดหวัง เราก็จะพยายามทำให้เต็มที่ครับ ทุกคนอยากเอาชนะ และ ศึกษารูปแบบการเล่นของพวกเขา มาเป็นอย่างดี แต่เหนือสิ่งอื่นใด เราก็จะไม่ประมาทครับ เพราะ ต้องยอมรับว่า ช่วงหลัง เวียดนาม พัฒนาขึ้นมามาก ก็เชื่อว่าน่าจะเป็นเกมที่สนุกครับ”
“จุดแข็งของ เวียดนาม น่าจะเป็นเรื่องความสัมพันธ์ในการเล่นครับ เพราะผู้เล่นชุดนี้ เล่นด้วยกันมานาน ตั้งแต่เยาวชน จนขึ้นมาชุดใหญ่ ได้แชมป์อาเซียน และ ผ่านเข้าถึงรอบ 8 ทีมเอเชียนคัพ ก็ถือว่า เป็นทีมที่น่ากลัวครับ แต่เราก็พร้อมเต็มที่ และ เราก็เล่นด้วยกันมานานเหมือนกัน”
“คิงส์คัพ เป็นรายการที่สำคัญเสมอครับ ยิ่งครั้งนี้ เป็นครั้งแรกในรัชกาลที่ 10 ด้วย เราเองก็มีความกระหายกันมากๆ ที่อยากยจะคว้าแชมป์เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการเฉลิมฉลอง และ ที่น่าสนใจไปกว่านั้น ทุกทีมที่เราเชิญมา ต่างมีแรงกิ้งที่ดีกว่า แน่นอนว่า มันจะเป็นประโยชน์กับเรามากๆครับ เพราะหลังจากนี้ เราก็มีโปรแกรมสำคัญอย่ง ฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก รออยู่”
“สุดท้ายนี้ เราอาจขาดผู้เล่นตัวหลัก และ เจ (ชนาธิป สรงกระสินธ์) ไปก็จริงครับ แต่ผมเชื่อว่า ผู้เล่นที่มีอยู่ สามารถทดแทนกันได้ เพราะ เราเล่นฟุตบอลกันเป็นระบบ และ ทุกคนก็อยากโชว์ศักยภาพของตัวเองออกมา เราจะพยายามทำหน้าที่ให้ดีที่สุดครับ และ หวังว่าแฟนบอลจะเข้ามาส่งเสียงเชียร์เรากันที่สนามกันๆเยอะครับ”
“เราเต็มที่แน่นอน และ หวังว่าจะผ่านไปได้ครับ” ฐิติพันธ์ ปิดท้าย
สำหรับ ทีมชาติไทย จะประเดิมพบกับ ทีมชาติเวียดนาม ในศึกชิงถ้วยพระราชทาน คิงส์คัพ ครั้งที่ 47 วันที่ 5 มิถุนายน 2562 ที่สนามช้างอารีนา เวลา 19.45 น. โดยทุกนัดจะมีการถ่ายทอดสดผ่านทางไทยรัฐทีวี ช่อง 32
โปรแกรมการแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน คิงส์ คัพ ครั้งที่ 47 มีดังนี้
วันที่ 5 มิถุนายน 2562
ทีมชาติกือราเซา พบกับ ทีมชาติอินเดีย ที่สนาม ช้าง อารีนา เวลา 15.30 น.
ทีมชาติไทย พบกับ ทีมชาติเวียดนาม ที่สนาม ช้าง อารีนา เวลา 19.45 น.
วันที่ 8 มิถุนายน 2562
คู่ชิงอันดับ 3 ที่สนาม ช้าง อารีนา เวลา 15.30 น.
คู่ชิงชนะเลิศที่สนาม ช้าง อารีนา เวลา 19.45 น.
