“ช้างศึก” ทีมชาติไทย น้ำตาตกช่วงทดเวลาบาดเจ็บ หลังพลาดถูก “ทัพดาวทอง” ทีมชาติเวียดนาม บุกมาเอาชนะ 1-0 ในศึกชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ 2019
ศึกฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน คิงส์ คัพ ครั้งที่ 47 วันที่ 5 มิถุนายน 2562 เวลา 19.45 น. ที่สนาม ช้าง อารีนา จ.บุรีรัมย์ เป็นการแข่งขันคู่ที่สอง ระหว่าง ไทย ทีมอันดับ 114 ของโลก พบกับ เวียดนาม ทีมอันดับ 98 ของโลก
โดย “ช้างศึก” เจ้าของแชมป์คิงส์ คัพ 15 สมัย เกมนี้ “โค้ชโต่ย” ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย เฮดโค้ชให้ ธีรศิลป์ แดงดา หัวหอกกัปตันทีมที่ลุ้นลงสนามให้ทีมชาติไทยเป็นเกมที่ 100 เป็นตัวสำรอง พร้อมจัดระบบการเล่น 3-5-2 ลงบู๊ ผู้รักษาประตู กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ ลงเฝ้าเสา
แนวรับ สุพรรณ ทองสงค์, อดิศร พรหมรักษ์ และ พรรษา เหมวิบูลย์ ประสานงานร่วมกับ ด้านข้าง ทริสตอง โด อยู่ฝั่งขวา ส่วนฝั่งซ้ายเป็น ธีราทร บุญมาทัน ที่สวมปลอกแขนกัปตันทีม
แดนกลาง ธนบูรณ์ เกษารัตน์, สารัช อยู่เย็น และ ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ คอยคุมเกมรุกและรับ ส่วนคู่กองหน้าเป็น สุภโชค สารชาติ กับ ศุภชัย ใจเด็ด
ด้านทัพ “ดาวทอง” ปาร์ค ซัง โฮ เฮดโค้ช เวียดนาม ให้ เหงียน คอง เฟือง หัวหอกตัวเก่ง เป็นตัวสำรอง ใช้ เหงียน อันห์ ดุ๊ค และ เหงียน ควง ไฮ โจมตีแนวรับไทย
เริ่มเกมครึ่งแรก นาทีที่ 17 ไทย เกือบได้ประตูนำ ธีราทร บุญมาทัน เปิดบอลยาวไปหน้าประตูให้ ศุภชัย ใจเด็ด เบียดกองหลัง เวียดนาม เข้าไปยิงด้วยขวา แต่บอลไปชนเสาอย่างจัง
นาทีที่ 30 เวียดนาม ได้ฟรีคิก ระยะ 30 หลา เหงียน ควง ไฮ ปั่นด้วยซ้าย แต่บอลตรงตัว กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ จากนั้นหมดครึ่งแรก ไทย เสมอ เวียดนาม อยู่ 0-0
ครึ่งหลัง นาทีที่ 59 ไทย บุกมา สุมัญญา ปุริสาย ไหลบอลให้ ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ ยิงไปตรงตัว ดัง วาน ลัม รับไว้ได้
นาทีที่ 70 ธีราทร บุญมาทัน เปิดฟรีคิกโค้งเข้าประตู แต่ผู้ตัดสินไม่ให้ประตู เนื่องจากมีการฟาวล์ก่อน จากนาทีที่ 80 เวียดนาม ได้ลุ้นประตู เหงียน ควง ไฮ ซัดด้วยซ้ายหน้าเขตโทษ แต่บอลหลุดกรอบ
ช่วงทดเจ็บ เหงียน อันห์ ดุ๊ค โหม่งบอลจากจังหวะเตะมุม แต่ กวินทร์ รับกระฉอกเข้าประตูไปให้ เวียดนาม นำ ไทย 1-0 จบเกม เวียดนาม เอาชนะ ไทย ไป 1-0 ผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศ กับ กือราเซา
สำหรับการแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน คิงส์ คัพ ครั้งที่ 47 จะแข่งขันอีกครั้ง ในวันที่ 8 มิถุนายน 2562 รอบชิงอันดับ 3 แข่งขันเวลา 15.30 น. ไทย พบ อินเดีย ส่วนรอบชิงชนะเลิศ แข่งขันเวลา 19.45 น. เวียดนาม พบ กือราเซา ที่สนามช้าง อารีนา ถ่ายทอดสดทางไทยรัฐทีวี ช่อง 32
รายชื่อ 11 ตัวแรกทั้งสองทีม
ไทย: กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ (GK), สุพรรณ ทองสงค์, อดิศร พรหมรักษ์, พรรษา เหมวิบูลย์, ทริสตอง โด, ธีราทร บุญมาทัน (C), ธนบูรณ์ เกษารัตน์, สารัช อยู่เย็น, ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์, สุภโชค สารชาติ, ศุภชัย ใจเด็ด
เวียดนาม: ดัง วาน ลัม (GK), โด ฮุย มันห์, เก งอค ไฮ, บุย เทียน ดุง, ดวน วาน เฮา, เหงียน เชือง ฮวง, เหงียน วาน ต๊วน, เหงียน อันห์ ดุ๊ค, เหงียน ตวน อันห์,โด ฮุง ดุง, เหงียน ควง ไฮ
…………………………………….
ข้อมูลที่น่าสนใจ
– ทีมชาติไทย รวมเปิดบ้านพบกับ ทีมชาติเวียดนาม 11 นัด ปรากฎว่าชนะ 8 เสมอ 1 และแพ้ 2 นัด และการพ่ายแพ้นี้ถือเป็นรอบ 11 ปี
– ล่าสุดที่พบกัน ทีมชาติไทย บุกชนะ ทีมชาติเวียดนาม 3-0 ในฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก รอบ 2 เมื่อปี 2015
– นัดแรกที่ ทีมชาติไทย เปิดบ้านแพ้ ทีมชาติเวียดนาม เกิดขึ้นในศึกเอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ 2008 รอบชิงชนะเลิศ นัดที่ 2 ที่เปิดบ้านพ่าย 1-2
– ทีมชาติไทย เคยพบกับ ทีมชาติเวียดนาม ในคิงส์คัพ 2 นัด เมื่อปี 2006 ปรากฎว่าเอาชนะได้ทั้ง 2 นัด เริ่มจากรอบแบ่งกลุ่มชนะ 2-1 และ รอบชิงชนะเลิศ ชนะ 3-0
– ทีมชาติเวียดนาม เคยมาแข่งขันคิงส์คัพ 1 ครั้งเท่านั้น โดยคว้ารองแชมป์เมื่อปี 2006
– ปาร์ค ฮัง ซอ มีสถิติที่ดี ยามคุมทีมชาติเวียดนาม พบกับ ทีมชาติไทย เมื่อชนะได้ทั้ง 2 นัด ในรุ่น U23 เริ่มจากบุกมาชนะที่บุรีรัมย์ 2-1 ในรอบชิงชนะเลิศ อันดับที่ 3 ศึก M-150 Cup และ ล่าสุดเปิดบ้านชนะ 4-0 ในชิงแชมป์เอเชีย 2020 รอบคัดเลือก