ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ส พรีเมียร์ลีก ลิเวอร์พูล อาร์เซน่อล เชลซี แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

สถาปนาทีมท็อปซิกส์ กับโอกาสยืนระยะต่อในฤดูกาลหน้า ศึก พรีเมียร์ลีก 2019 – 2020

ทีมท็อปซิกส์ใน พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลที่ผ่านมายังคงเกาะกลุ่มกันเหนียวแน่น นับเป็นซีซั่นที่สามติดต่อกันที่อันดับหัวตารางลีกไม่มีทีมอื่นแทรกชื่อเข้ามา (ครั้งล่าสุดคือฤดูกาล 2015/16 ที่ เลสเตอร์ ซิตี้ คว้าแชมป์ได้อย่างเซอร์ไพรซ์ และ เซาธ์แฮมป์ตัน เบียดขึ้นมาอยู่ในอันดับหก ขณะที่ ลิเวอร์พูล…

Home / SPORT / สถาปนาทีมท็อปซิกส์ กับโอกาสยืนระยะต่อในฤดูกาลหน้า ศึก พรีเมียร์ลีก 2019 – 2020

ทีมท็อปซิกส์ใน พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลที่ผ่านมายังคงเกาะกลุ่มกันเหนียวแน่น นับเป็นซีซั่นที่สามติดต่อกันที่อันดับหัวตารางลีกไม่มีทีมอื่นแทรกชื่อเข้ามา (ครั้งล่าสุดคือฤดูกาล 2015/16 ที่ เลสเตอร์ ซิตี้ คว้าแชมป์ได้อย่างเซอร์ไพรซ์ และ เซาธ์แฮมป์ตัน เบียดขึ้นมาอยู่ในอันดับหก ขณะที่ ลิเวอร์พูล และ เชลซี หลุดไปอันดับแปด และสิบ)

 


รวมแล้วตลอดระยะเวลาสิบฤดูกาลหลังสุด จากทั้งหมด 60 ตำแหน่งท็อปโฟร์มีเพียง 6 ตำแหน่งที่ถูกทีมอื่นแย่งไป นอกจากนั้นตกเป็นของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, ลิเวอร์พูล, เชลซี, อาร์เซนอล และ ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ส ทั้งหมด

จากฟอร์มการเล่นในฤดูกาลล่าสุด แทบจะนึกภาพไม่ออกเลยว่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กับ ลิเวอร์พูล จะหลุดออกจากพื้นที่ท็อปโฟร์ได้อย่างไร และคงไม่ต้องพูดถึงการหลุดจากพื้นที่ท็อปซิกส์ ส่วนอีกสี่ทีมยังคงมีงานหนักรออยู่ในซีซั่นหน้า

 

เชลซี

เชลซี ที่จะได้ แฟรงค์ แลมพาร์ด เข้ามาคุมทีม ถือเป็นความเสี่ยงอยู่บ้างเพราะอดีตศิษย์เก่ารายนี้ยังใหม่ และไร้ประสบการณ์ในการคุมทีมใหญ่ ส่วนการเสีย เอเด็น อาซาร์ คงจะมีผลกับทีมไม่น้อย เพราะเกือบครึ่งของประตูที่ทีมยิงได้ในลีกเมื่อซีซั่นก่อน มาจากเขา(49.2%) ในเกมรุกทีมสิงห์บลูต้องพึ่งพาดาวเตะชาวเบลเยี่ยมเป็นอย่างมาก และนักเตะใหม่ที่เพิ่งเข้ามาอย่าง คริสเตียน พูลิซิช จะต้องแบกรับภาระนี้

 

 

 

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

ภายใต้การคุมทีมของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ ที่ถูกมองว่ายังอ่อนประสบการณ์ไม่ต่างกับ แลมพาร์ด และยังต้องรอพิสูจน์ตัวเองอีกมาก เช่นเดียวกับทัพนักเตะในทีมที่ถูกตั้งคำถามมาตลอดว่ามีดีแค่ไหน นักเตะที่โชว์ฟอร์มไม่ออกกลับได้รับการต่อสัญญา ส่วนนักเตะที่สโมสรอยากได้มาร่วมทีมก็คงคิดหนักที่จะเสี่ยงมาร่วมหัวจมท้ายด้วย

 

 

อาร์เซนอล

มีปัญหามากที่แนวรับ โดยเฉพาะในยามเล่นนอกบ้าน มีแค่สี่ทีมในลีกเท่านั้นที่เสียประตูในเกมเยือนมากกว่าทีมปืนใหญ่ ที่สำคัญคือพวกเขาจะเสีย อารอน แรมซี่ย์ กำลังสำคัญในแดนกลางไป แนวรุกต้องฝากความหวังไว้ที่ ปิแอร์-เอเมริค โอบาเมยอง กับ อเลซองเดร์ ลากาแซตต์ สองกองหน้าที่ยิงรวมกัน 35 ประตูในซีซั่นที่แล้ว ส่วนแนวรุกอีกคนคือ เมซุต โอซิล อาจจะได้อยู่กับทีมต่อไปซีซั่นหน้า แม้ว่าทีมปืนโตจะพยายามโละเขาออกไป แต่ดูเหมือนว่าจะไม่มีสโมสรไหนสนใจแข้งชาวเยอรมันในตอนนี้

 

 

 

 

ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ส

 

ทีมรองแชมป์ ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก อย่าง ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ส ปัญหาของพวกเขาเป็นเรื่องของการเสริมทัพ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ไม่ได้จับจ่ายซื้อนักเตะใหม่มาร่วมทีมเลยในฤดูกาลก่อน และในตอนนี้กุนซือชาวอาร์เจนติน่าก็อยากได้นักเตะชุดใหญ่เข้ามาเสริมทีมทั้งในตำแหน่งฟูลแบ็ค กองหน้าตัวสำรอง ปีก และมิดฟิลด์ แต่เรื่องการเงินยังเป็นปัญหาใหญ่เพราะสโมสรยังมีหนี้สินจากการสร้างสนามใหม่อยู่

 

 

ส่วนทีมที่พอจะท้าทายตำแหน่งท็อปซิกส์ได้มีอยู่หลายทีม อันดับเจ็ดอย่าง วูล์ฟแฮมป์ตัน น่าจะเป็นหนึ่งในทีมที่มีโอกาสนั้นภายใต้การคุมทัพของ นูโน เอสปิริโต ซานโต กุนซือชาวโปรตุเกส พวกเขาพิชิตทีมท็อปซิกส์ได้เกือบทุกทีมในซีซั่นก่อน (ยกเว้นลิเวอร์พูล) และได้โอกาสไปโลดแล่นในถ้วย ยูโรปาลีก ฤดูกาลหน้า ส่วน เลสเตอร์ ซิตี้, เอฟเวอร์ตัน และ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ก็มีศักยภาพอยู่ในระดับหนึ่ง พวกเขาหวังจะขึ้นมามีโอกาสสอดแทรกเข้าสู่พื้นที่โควต้าฟุตบอลยุโรปบ้างเช่นกัน