โฆษกสมาคมฯ ชี้แจงกรณีการทำหน้าที่ของผู้ตัดสิน ในเกมไทยลีก คู่ระหว่าง การท่าเรือ เอฟซี กับ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด โดยลงโทษผู้ตัดสินที่ 1 จนจบฤดูกาล 2019
พล.ต.ท. อำนวย นิ่มมะโน โฆษกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวถึงเรื่องการทำหน้าที่ของผู้ตัดสิน ในเกมฟุตบอลโตโยต้า ไทยลีก ฤดูกาล 2019 นัดที่ 11 คู่ระหว่าง การท่าเรือ เอฟซี กับ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2562 ที่ผ่านมา หลังได้ดูการทำหน้าที่ตลอดการแข่งขันเต็มเวลาทั้งจากการถ่ายทอดสดและดูภาพเหตุการณ์ย้อนหลัง
ซึ่งเกมดังกล่าว คณะผู้บริหารสมาคมฯ พบว่าการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ตัดสินไม่เป็นไปตามมาตรฐานของกติกาฟุตบอลที่ควรจะเป็น โดยเฉพาะเหตุการณ์ทำฟาวล์ในเขตโทษ ซึ่งผู้ตัดสินอยู่ในตำแหน่งที่เห็นเหตุการณ์ได้อย่างชัดเจนแต่ไม่มีการคาดโทษและให้เป็นลูกจุดโทษ ซึ่งมีผลต่อการได้ประตู และส่งผลต่อการแพ้ชนะในเกมส์การแข่งขันที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ในภายหลัง ทำให้เกิดความเสียหายต่อสโมสรสมาชิกและสมาคมฯ
คณะผู้บริหารสมาคมฯ มิได้นิ่งนอนใจต่อปัญหาดังกล่าวจึงได้นำปัญหานี้หารือร่วมกับกรรมการประเมินผลการปฎิบัติหน้าที่ของผู้ตัดสิน กรรมการพิจารณาวินัย มารยาท ฯ รวมถึงผู้เกี่ยวข้องอื่นๆ พิจารณาเหตุการณ์ต่างๆ และการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ตัดสินในเกมดังกล่าวเห็นว่าเป็นกรณีที่ผู้ตัดสินปฎิบัติหน้าที่ผิดพลาดอย่างรุนแรงโดยไม่มีเหตุอันจะอ้างได้จึงให้งดการทำหน้าที่ นายอาคม เจริญสุข ผู้ตัดสินที่ 1 ไปตลอดจนสิ้นฤดูการแข่งขัน เว้นแต่จะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง ส่วนผช.ผู้ตัดสินที่ 1 ราวุฒิ นาคฤทธิ์, ผช.ผู้ตัดสินที่ 2 ภูเบศ เหล็กผา, ผู้ตัดสินที่ 4 ต่อพงษ์ สมสิงห์ รอพิจารณาอีกครั้ง
สำหรับ สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ต้องการที่จะพัฒนากีฬาฟุตบอลไทยในทุกระดับ ซึ่งในการที่จะพัฒนากีฬาฟุตบอลนั้นผู้ตัดสินถือเป็นปัจจัยหนึ่งที่สำคัญ ทางสมาคมฯ จึงได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาบุคลากรในด้านนี้ทั้งการให้ความรู้ทางวิชาการ พลานามัย คุณธรรม ตลอดจนจัดให้มีการนำเทคโนโลยีมาช่วยในการตัดสินของผู้ตัดสิน จะเห็นได้จากการจัดให้มีโครงการอบรม สัมมนาต่างๆ นอกจากนี้ เรายังมีความพยายามในการนำเทคโนโลยี VAR เข้ามาช่วยในการตัดสิน เพื่อให้เกมฟุตบอลมีความบริสุทธิ์ยุติธรรมมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ซึ่งอยู่ระหว่างขั้นตอนการขออนุญาตจากทาง FIFA, IFAB รวมถึง AFC
ทั้งนี้ สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ยุคนี้ยืนยันว่าเรามีความมุ่งมั่นและเอาจริงเอาจังในการปราบปรามขบวนการล้มบอล มีการจับกุมผู้ที่อยู่ในขบวนการอย่างต่อเนื่อง ควบคู่ไปกับการพัฒนาผู้ตัดสินรุ่นใหม่ๆ ให้ก้าวขึ้นมาทำหน้าที่เพื่อให้ทัดเทียมกับประเทศชั้นนำ และจะยังคงเดินหน้าพัฒนาวงการผู้ตัดสินต่อไป