บาร์เซโลนา ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

5 สิ่งที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต้องทำหากอยากจะพลิกนรกโค่น บาร์เซโลน่า

แม้เกมนัดแรกทีมปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะพ่ายแพ้คาบ้านให้กับ บาร์เซโลน่า 1-0 แต่เส้นทางในศึก ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ของพวกเขายังไม่ได้จบลงอย่างสมบูรณ์ ยังมีเกมเลกสองให้พลิกชะตาอีกหนึ่งนัดถึงแม้หลายคนจะมองว่าบาร์ซ่ากำลังเป็นต่ออยู่บานตะไทก็ตาม     ย้อนกลับไปรอบก่อนหน้านี้ทัพนักเตะ…

Home / SPORT / 5 สิ่งที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต้องทำหากอยากจะพลิกนรกโค่น บาร์เซโลน่า

แม้เกมนัดแรกทีมปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะพ่ายแพ้คาบ้านให้กับ บาร์เซโลน่า 1-0 แต่เส้นทางในศึก ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ของพวกเขายังไม่ได้จบลงอย่างสมบูรณ์ ยังมีเกมเลกสองให้พลิกชะตาอีกหนึ่งนัดถึงแม้หลายคนจะมองว่าบาร์ซ่ากำลังเป็นต่ออยู่บานตะไทก็ตาม

 

 

ย้อนกลับไปรอบก่อนหน้านี้ทัพนักเตะ แมนฯ ยูฯ เคยรวมพลังกันน็อคทีมสุดแกร่งอย่าง ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ร่วงตกรอบคาบ้านมาแล้ว โดยสื่อดังในสเปน มาร์ก้า วิเคราะห์ว่ามีความเป็นไปได้ที่ทีมเยือนจากอังกฤษจะสร้างปาฏิหาริย์อีกรอบที่ คัมป์นู แต่มีปัจจัยอยู่ห้าอย่างที่ แมนฯ ยูฯ ต้องทำให้เกิดขึ้นเพื่อชัยชนะในครั้งนี้

 

 

กดดันคู่เซ็นเตอร์
ในเกมนัดแรก เคราร์ด ปิเก้ กับ เคลมองต์ ลองเกลต์ คู่เซ็นเตอร์ของบาร์ซ่าแทบไม่ต้องเจอกับงานยาก การใช้ โรเมลู ลูกากู เป็นตัวพักบอลไม่ได้ผลเพราะสู้ชั้นเชิงความแข็งแกร่งของทั้งสองคนไม่ได้ แนวรุกของทีมปีศาจแดงต้องพยายามให้มากกว่านี้ในการกดดันทั้งสองคนในเกมเลกสอง อาวุธสำคัญคือ มาร์คัส แรซฟอร์ด ที่มีความเร็วสูง แมนฯ ยูฯ ต้องใช้ความเร็วของเขาให้เป็นประโยชน์ในการปั่นป่วน ปิเก้ กับ ลองเกลน์ ถ้ามีโอกาสแบบนี้หลายครั้งก็มีความเป็นไปได้ที่ทีมเยือนจะมีประตู

 

 

แดนกลางที่กัดไม่ปล่อย
สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ และ เฟร็ด จับคู่กันได้ดีในเกมนัดแรก โฆเซ่ มูรินโญ่ ที่นั่งวิเคราะห์เกมถึงกับบอกว่าทั้งสองคนทำหน้าที่เหมือนหมาบ้า พวกเขาไล่ตอด อิวาน ราคิติช กับ อาร์ตูร์ เมโล คู่มิดฟิลด์ของบาร์ซ่าจนต่อเกมไปถึง ลิโอเนล เมสซี่ ไม่ได้ ในเกมเลกสองพวกเขาต้องพยายามทำให้ได้เหมือนเกมแรก ต้องกดดัน ราคิติช กับ เมโล หรือ อาร์ตูโร่ วิดัล ทุกครั้งที่ครองบอลจนไม่สามารถสร้างสรรค์เกมรุกไปข้างหน้าได้

 

 

สถิติครองบอลไม่ได้สำคัญ
บาร์เซโลน่า เป็นเพียงไม่กี่ทีมในโลกที่สามารถครองบอลได้แบบผูกขาดและสร้างสรรค์เกมรุกได้อย่างสวยงาม แต่ แมนฯ ยูฯ ไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้น พวกเขาต้องไม่เสี่ยงครองบอลในพื้นที่อันตราย เปอร์เซ็นต์ครองบอลไม่ได้บ่งบอกอะไร ถึงแม้จะครองบอลแค่ 20% แต่ถ้าหากทีมปีศาจแดงชนะ 1-0 และยื้อไปถึงช่วงยิงจุดโทษตัดสินได้ก็ไม่จำเป็นต้องแคร์อะไร

 

 

อย่าเปลืองพลังงานกับผู้รักษาประตู
เลกแรก แมนฯ ยูฯ เสียพลังงานไปเยอะกับการไล่กดดัน มาร์ค-อันเดร แทร์ สเตเก้น นายด่านชาวเยอรมันรายนี้ควบคุมสถานการณ์ได้ดีเป็นเรื่องยากมากที่จะฉกฉวยโอกาสจากความผิดพลาดของเขา นักเตะปีศาจแดงควรรักษาตำแหน่งของตัวเองมากกว่าและปล่อยให้ แทร์ สเตเก้น, ปิเก้, ฆอร์ดี้ อัลบา ต่อบอลครองบอลได้ตามใจ การที่แนวรุกทีมปีศาจแดงออมพลังงานไว้ใช้ในการยิงประตูน่าจะสำคัญกับทีมมากกว่า

 

 

ต้องคมกว่านี้
ฟอร์มการเล่นช่วงหลัง ทีมปีศาจแดงใช้โอกาสยิงประตูสิ้นเปลืองมาก การจบสกอร์เริ่มกลายเป็นปัญหาใหญ่ของทีมในตอนนี้ พวกเขาน่าจะยิงได้สี่หรือห้าประตูในเกมที่เจอกับ อาร์เซนอล รวมไปถึงเกมกับ วูล์ฟแฮมป์ตัน ซึ่งผลจบลงด้วยความพ่ายแพ้ของพวกเขาทั้งสองเกม นี่เป็นจุดที่ แมนฯ ยูฯ ต้องปรับปรุง การเจอกับยอดทีมอย่างบาร์ซ่าไม่มีโอกาสให้ทิ้งมากนัก เหมือนอย่างที่เห็นมาแล้วในเกมแรกซึ่งนักเตะทีมปีศาจแดงยิงประตูไม่ตรงกรอบแม้แต่ครั้งเดียว