จเด็จ มีลาภ กุนซือการท่าเรือ เอฟซี เผยปรับเปลี่ยนแผนการเล่นในครึ่งหลัง จนสุดท้ายเปิดบ้านแซงชนะ สุพรรณบุรี เอฟซี 3-2 ในศึกโตโยต้า ไทยลีก เมื่อวันที่ 27 เมษายนที่ผ่านมา
‘สิงห์เจ้าท่า’ ถูกออกนำไปก่อนถึง 2 ครั้ง แต่ท้ายที่สุด ก็ยังเอาตัวรอดพลิกแซงชนะ ช้างศึกยุทธหัตถี 3-2 คว้าชัยชนะเป็นนัดที่ 4 ติดต่อกัน พร้อมรักษาจ่าฝูงเหนียวแน่น
“เราขาดผู้เล่นสำคัญไปหลายคนครับ อย่าง โก ซุล กิ และ นิติพงษ์ ก็ติดโทษแบน แถม ปกรณ์ ก็มาเจ็บ ทำให้เราต้องเข็นผู้เล่นที่ไม่สมบูรณ์ลงไป” กุนซือวัย 47 ปี กล่าวเริ่ม
“ช่วงครึ่งแรก เราเล่นอีกระบบ ใช้กองหน้าตัวเดียว 4-3-3 แต่เราไม่ถนัด ประกอบกับ สุพรรณบุรี มาแพ็คแน่น ทำให้เราไม่มีพื้นที่เจาะ ครึ่งหลัง เราจึงเปลี่ยนระบบเป็น 4-4-2 โดยใช้หน้าคู่ แล้ว พยายามเล่นให้กว้างขึ้น จากที่ สุพรรณบุรี แพ็คแน่นๆ ก็ทำให้แตกได้ จากนั้น เราก็โจมตีทั้งแบบลูกครอส และ ลูกเรียดใส่ กระทั่งเราทำกันได้สำเร็จครับ”
“ส่วนสำคัญต้องชื่นชม สภาพจิตใจทุกคนด้วย ถ้าเป็นทีมอื่น โดยนำแบบนี้ 2 ครั้ง อาจท้อ แต่ไม่ใช่กับผู้เล่นของเรา ที่สู้ และ กลับมาได้ ดังนั้น ต้องบอกว่าทุกคนยอดเยี่ยมมากครับ”
“พักครึ่งเราคุยกันว่า ถ้าเราเล่นระบบแบบนี้ และเจอ สุพรรณบุรี ที่มาเล่นแบบนี้ เราจะอึดอัด จากนั้น เราจึงพยายามเปลี่ยนมาเล่นเกมรุกมากขึ้น จะเห็นได้ว่าเราส่ง นูรูล ลงมา แล้วดัน ดราแกน ไปยืนคู่หน้ากับ ซัวเรส จากนั้นเมื่อแดนหน้า เราเก็บบอลได้ พักบอลได้ และ ยังมีปีกสองข้างที่คอยฉีก ก็ทำให้เราเจาะได้ ซึ่งแน่นอนว่า จุดเปลี่ยนของเรา คือการเปลี่ยนระบบจาก 4-3-3 มาเป็น 4-4-2”
“จากนี้ เรายังมองเกมต่อเกมครับ อย่างเจอ สุพรรณบุรี นัดนี้ ก็ไม่ง่าย และ อีกอย่างสภาพทีมเราก็ยังไม่สมบูรณ์ แต่ก็คิดว่า ถ้าทุกคนกลับมาได้ ทีมเราจะดีขึ้นกว่านี้ครับ” จเด็จ ปิดท้าย
สำหรับโปรแกรมต่อไป การท่าเรือ เอฟซี จะเปิดบ้านพบกับ ไทยยูเนี่ยน สมุทรสาคร ในศึกช้าง เอฟเอคัพ รอบ 64 ทีมสุดท้าย วันที่ 1 พฤษภาคมนี้
…………………………………….
สถิติและข้อมูลที่น่าสนใจ
– ทั้งคู่พบกันรวม 11 นัด สุพรรณบุรี เอฟซี ยังทำได้ดีกว่า เมื่อชนะ 6 นัด และแพ้ 5 นัด
– การท่าเรือ เอฟซี เคยเปิดบ้านพบกับ สุพรรณบุรี เอฟซี 6 นัด ทำผลงานชนะ 4 นัด และ แพ้ 2 นัด
– การพบกันของทั้งคู่มีประตูเกิดขึ้นทุกนัด และยังไม่เคยจบลงด้วยผลเสมอ
– การท่าเรือ เอฟซี ยังไม่แพ้ใครในบ้านฤดูกาลนี้ ขณะที่ สุพรรณบุรี เอฟซี ยังไม่ชนะใครในเกมเยือนต่อไป