สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย เรียกหารือโค้ช “ช้างศึก” เพื่อเตรียมนักเตะส่งทีมบู๊ ไชน่า คัพ 2019 และศึกชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี
วันที่ 1 มีนาคม 2562 เวลา 10.00 น. ณ ห้องประชุม ชั้น 1 ภายในที่ทำการสมาคมฯ ได้มีการจัดประชุมหัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมฟุตบอลชายทีมชาติไทย ทุกชุด เพื่อวางแผน และ มอบหมายนโยบาย ประจำเดือนมีนาคม
การประชุมในครั้งนี้นำโดย พล.ต.อ. ดร. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมฯ พร้อมด้วย วิทยา เลาหกุล อุปนายกฝ่ายพัฒนาเทคนิค, ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย ชุดใหญ่, โชคทวี พรหมรัตน์ ผู้ช่วยผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย ชุดใหญ่ และทีมงานสตาฟฟ์โค้ชอย่าง เนบอยซา สตาเมนโควิช ฟิตเนสเทรนเนอร์ และซาซ่า โทดิช โค้ชผู้รักษาประตู
นอกจากนี้ยังมี อเล็กซานเดร กามา หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี, อิสสระ ศรีทะโร หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี และ ทีมงานสตาฟฟ์โค้ช จากบริษัท เอคโคโน เมธอด ซอคเกอร์ เซอร์วิส ประกอบด้วย มร. ฆูเลียน มาริน บาซาโล, มร. มาร์ค อลาเบรดา ปาลาซิโอส และ มร. โอริโอล อัลกาซาร์ กอนซูเอโล
หลังการประชุม พล.ต.อ. ดร. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมฯ กล่าวว่า “วันนี้ได้เชิญผู้ฝึกสอน พร้อมทีมงาน ฟุตบอลชายทีมชาติไทยทุกชุด มาประชุมร่วมกัน เพราะในช่วงกลางเดือนมีนาคม จะมีรายการแข่งขันชนกันแทบทุกชุด ทั้งทีมชาติไทย ชุดใหญ่, ทีมชาติไทย U23 และทีมชาติไทย U19 ที่ประเทศจีน และเวียดนาม”
“สิ่งที่เราต้องคุยกันคือเรื่องของผู้เล่นที่ทับซ้อนกัน เนื่องผู้เล่นบางคนอายุยังน้อย แต่สามารถก้าวไปเล่นให้ชุดใหญ่ได้ ดังนั้น เราต้องคุยกันด้วยเหตุผลว่า การแข่งขันอุ่นเครื่องที่ประเทศจีนเป็นเกมกระชับมิตร แต่การแข่งขันชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี รอบคัดเลือก มีผลถึงการเตรียมทีมต่อเนื่องก่อนการแข่งขันปรีโอลิมปิก ซึ่งมีความสำคัญต่อทีมชาติไทย ในการที่จะต้องเลือกนักเตะที่มีความพร้อมให้มากที่สุด”
“นักเตะรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี หลายคนสามารถก้าวขึ้นไปเล่นชุดใหญ่แล้วสร้างผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ขณะที่อีกหลายคนก็พัฒนาฝีเท้าและอยู่ในความสนใจของโค้ชชุดใหญ่ เช่น ศุภชัย ใจเด็ด, วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ, สุภโชค สารชาติ หรือ รัตนากร ใหม่คามิ และอีกหลายๆ คน”
“แต่การให้เขาลงมาเล่นในชุด U23 ของน้องๆ เป็นสิ่งที่หัวหน้าผู้ฝึกสอนของแต่ละชุดพิจารณาร่วมกัน ทุกคนมีความเข้าใจดีถึงเหตุผลนี้ เพราะทุกๆ เดือนเราจะมีการประชุมเพื่อพูดถึงเรื่องของการฝึกซ้อม หรือสิ่งที่ต้องปรับปรุง เพื่อให้หัวหน้าผู้ฝึกสอนทุกชุดมีความเข้าใจตรงกัน ในการยกระดับของทีมชาติไทยเล่นไปในทางเดียวกันให้เหมือนกับชาติที่พัฒนาแล้ว”
“ส่วนเป้าหมาย ไชน่า คัพ เป็นการแข่งขันอุ่นเครื่องทุกทีมที่เข้าร่วมการแข่งขันมีศักยภาพ เป็นสิ่งที่ดี ที่น้องๆ จะได้ไปหาประสบการณ์ เรื่องของผลการแข่งขันผมคาดหวังอย่างเดียวคือการเรียนรู้ของน้องๆ และประสบการณ์ที่โค้ชจะได้รับ ส่วนแนวทางการเลือกตัวผู้เล่น ทีมชาติไทย ชุดใหญ่ มีการหารือกันระหว่างทีมงานโค้ชเรื่องการเรียกตัวผู้เล่น ซึ่งคราวๆ ทีมชาติไทยชุดใหญ่จะไม่เลือกผู้เล่นที่มีอายุต่ำกว่า 23 ปี และนักเตะอายุต่ำกว่า 19 ปี กาม่า จะประสานงานเพื่อไม่ให้ทับซ้อนกับชุด 19 ปี ซึ่งผู้เล่นทีมชาติไทย ชุดใหญ่ 30 คนแรก ที่จะประกาศออกมาอาจจะเป็นผู้เล่นที่อายุเกิน 23 ปี”
“ส่วนทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี เป็นการแข่งขันแบบทางการ ผลออกมาเป็นอย่างไรเราได้เข้ารอบแน่นอน เนื่องจากเราเป็นเจ้าภาพ แต่สิ่งที่สำคัญคือการสร้างผลงาน สร้างความสุข ให้กับแฟนบอลชาวไทย นี่เป็นสิ่งที่ทางสมาคมฯ, ผู้ฝึกสอน และนักเตะ ทุกคนมีความต้องการเดียวกัน ฉะนั้นไทยต้องชนะในแมตซ์สำคัญ ส่วน U19 เป็นการแข่งขันกระชับมิตร เพื่อให้น้องๆ ได้ประสบการณ์ในการเล่นภายใต้ความกดดัน และในต่างแดน ตรงนี้คือสิ่งที่เราคาดหวังไว้”
“ส่วนนักเตะไทยที่ค้าแข้งต่างประเทศเราได้ส่งหนังสือขอตัวไปแล้ว ซึ่งเขาตอบรับว่าจะกลับมาเล่นให้กับทีมชาติไทย ในรายการ ไชน่า คัพ แน่นอน นอกจากพวกเขาจะมีอาการบาดเจ็บ ไม่สามารถเดินทางกลับมาช่วยทีมได้”
สำหรับโปรแกรมการแข่งขันของทีมชาติไทย แต่ละชุด ในช่วงเดือนมีนาคม-เมษายน มีดังนี้
– ทีมชาติไทย ชุดใหญ่ จะเดินทางไปแข่งขันฟุตบอลสี่เส้า ตามปฏิทินฟีฟ่า เดย์ ในรายการไชน่า คัพ ณ มณฑล หนานหนิง ประเทศจีน ระหว่างวันที่ 18-26 มีนาคม 2562
– ทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี จะเดินทางไปแข่งขัน ฟุตบอลชิงแชมป์ เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี 2020 รอบคัดเลือก ณ กรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม ระหว่างวันที่ 18-26 มีนาคม 2562
– ทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี จะเดินทางไปแข่งขัน ฟุตบอลรายการพิเศษ ณ เมือง ญาจาง ประเทศเวียดนามระหว่างวันที่ 21-30 มีนาคม 2562
– ทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 15 ปี เตรียมเดินทางไปเก็บตัวฝึกซ้อมที่ประเทศสเปน ระหว่างวันที่ 1-15 เมษายน 2562
