ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ไทยลีก

เร้าใจท้ายเกม! ‘เปโดร จูเนียร์’ ซัดพาบุรีรัมย์บุกเชือด ทรู บียู 1-0

เปโดร จูเนียร์ ดาวยิงชาวแซมบ้า กลายเป็นฮีโร่ให้ทัพ ปราสาทสายฟ้า หลังซัดประตูชัยช่วงท้ายเกมให้บุกมาเอาชนะ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด คาบ้าน 1-0 ในศึกโตโยต้า ไทยลีก นัดที่สี่ การแข่งขันฟุตบอลโตโยต้า…

Home / SPORT / เร้าใจท้ายเกม! ‘เปโดร จูเนียร์’ ซัดพาบุรีรัมย์บุกเชือด ทรู บียู 1-0

เปโดร จูเนียร์ ดาวยิงชาวแซมบ้า กลายเป็นฮีโร่ให้ทัพ ปราสาทสายฟ้า หลังซัดประตูชัยช่วงท้ายเกมให้บุกมาเอาชนะ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด คาบ้าน 1-0 ในศึกโตโยต้า ไทยลีก นัดที่สี่

การแข่งขันฟุตบอลโตโยต้า ไทยลีก 2019 เกมที่ 4 ของฤดูกาล เมื่อวันอาทิตย์ที่ 17 มีนาคม 2562 คู่ซูเปอร์บิ๊กแมตช์ ที่สนามทรู สเตเดี้ยม (ม.ธรรมศาสตร์ รังสิต) “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แชมป์ไทยลีก 2018 ยกทัพออกมาเยือน “แข้งเทพ” ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ทีมรองแชมป์ไทยลีก 2018

เจ้าถิ่น แข้งเทพ เกมนี้จัดผู้เล่นชุดใหญ่ลงสนาม นำโดย ไมเคิล ฟาลเคสการ์ด ยืนเฝ้าเสา, สรรวัชญ์ เดชมิตร, ทริสตอง โด และเนลสัน โบนีญา ลงเป็นกำลังหลัก ฝั่งทีมเยือน ปราสาทสายฟ้า กำลังหลักลงครบ ทั้ง พรรษา เหมวิบูลย์, ฮาจิเมะ โฮโซไก, ศุภชัย ใจเด็ด และ เปโดร จูเนียร์ นำทัพ

เริ่มเกมในครึ่งแรกเป็นทางฝั่ง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่ครองเกมบุกได้มากกว่าและมีโอกาสหลายต่อหลายครั้ง แต่แนวรับของเจ้าถิ่นยังช่วยกันได้ดี ทำให้หมดครึ่งแรกทั้งสองทีมยังเสมอกันอยู่ 0-0

เกมในครึ่งหลัง ทรู แบงค็อก แก้เกมมาดีและครองเกมได้มากขึ้น แต่ยังหาจังหวะสุดท้ายจบสกอร์ได้ไม่มากนัก กระทั่งนาทีที่เข้าสู่นาทีที่ 84 แฟนบอล ปราสาทสายฟ้า มาได้เฮสนั่น จากจังหวะที่ ศศลักษณ์ ไหประโคน ได้บอลหน้ากรอบเขตโทษ และวางยาวเข้าเขตโทษให้ เปโดร ดึงบอลลงก่อนจะขยับหลอกสองจังหวะเข้าไปที่กลางประตูแล้วซัดบอลพุ่งผ่าน ไมเคิล ฟาลเคสการ์ด เข้าประตูไปให้ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ทะยานออกนำ 1-0

จากนั้นจบเกม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด บุกมาเอาชนะ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ไปได้ 1-0 ส่งผลให้ ปราสาทสายฟ้า คว้า 3 คะแนนไปครอง พร้อมกับขยับไปมี 8 คะแนน จากการลงสนาม 4 นัด ชนะ 2 เสมอ 2

ส่วนผลการแข่งขันในคู่อื่นๆ การท่าเรือ เอฟซี เสมอ พีทีที ระยอง 1-1 และ สมุทรปราการ ซิตี้ เสมอ สุโขทัย เอฟซี 0-0

รายชื่อ 11 ตัวแรกทั้งสองทีม

ทรู แบงค็อกฯ : ไมเคิล ฟาลเคสการ์ด (GK) – พุทธินันท์ วรรณศรี (ไมค์ ฮาเวนาร์ น.86) , เอเวอร์ตัน กอนซัลเวส , มานูเอล ทอม เบียรห์ – ทริสตอง โด (ใบเหลือง น.85) , สรรวัชญ์ เดชมิตร , ปกเกล้า อนันต์ , ทศวรรษ ลิ้มวรรณเสถียร , พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา – ธีรเทพ วิโนทัย (ใบเหลือง น.60) – (อานนท์ อมรเลิศศักดิ์ น.64) , เนลสัน โบนิญา

บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด : ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน (GK) – พรรษา เหมวิบูลย์ , อันเดรส ตูเญซ , ชิติพัทธ์ แทนกลาง – นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม , ฮาจิเมะ โฮโซไก (สุเชาว์ นุชนุ่ม น.85) , ศุภชัย ใจเด็ด (ฮาเวียร์ ปาติญโญ น.75) , ศศลักษณ์ ไหประโคน (วิศรุต อิ่มอุระ น.85) , สเตฟาน ปัลลา – สุภโชค สารชาติ (ใบเหลือง น.28) – (จักรพันธ์ แก้วพรม น.64) , เปโดร จูเนียร์ (ใบเหลือง น.21)

 

สถิติและข้อมูลน่าสนใจ

– ทั้งคู่พบกัน 18 นัดรวมทุกรายการ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เหนือกว่าชัดเจน เมื่อชนะ 13 เสมอ 3 และแพ้ 2 นัด

– บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด มีสถิติยอดเยี่ยม ยามลงเล่นที่ สนามกีฬามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต เมื่อรวม 17 นัดแล้ว พวกเขา ไม่เคยแพ้แม้แต่ครั้งเดียว

– มาโน โพลกิ้ง คุมทีมในโตโยต้า ไทยลีก นัดที่ 200 ในเกมนี้ นับตั้งแต่ เริ่มทำงานกับทั้ง อาร์มี่ ยูไนเต็ด , สุพรรณบุรี เอฟซี และ ต่อเนื่องมาถึง ทรู แบงค็อกฯ

– มาโน โพลกิ้ง เคยคุมทีมเอาชนะ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เพียงแค่ 1 นัดเท่านั้น คือในเกมที่ ทรู แบงค็อกฯ เปิดบ้านชนะ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 2-0 ในโตโยต้า ไทยลีก 2014