ONE Championship ONE: A NEW ERA

พลาดไม่ได้แล้ว! หลายเหตุผลที่คุณต้องชมศึก ONE: A NEW ERA ที่โตเกียว

การแข่งขัน ONE Championship เตรียมเปิดศึก ONE: A NEW ERA ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น วันที่ 31 มีนาคมนี้ และนี่ก็คือหลายเหตุผลที่คุณห้ามพลาดมันอย่างเด็ดขาด วันที่…

Home / SPORT / พลาดไม่ได้แล้ว! หลายเหตุผลที่คุณต้องชมศึก ONE: A NEW ERA ที่โตเกียว

การแข่งขัน ONE Championship เตรียมเปิดศึก ONE: A NEW ERA ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น วันที่ 31 มีนาคมนี้ และนี่ก็คือหลายเหตุผลที่คุณห้ามพลาดมันอย่างเด็ดขาด

วันที่ 31 มีนาคมนี้ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ONE Championship จะได้จัดการแข่งขันครั้งประวัติศาสตร์ ซึ่งเรียกได้ว่าอาจเป็นครั้งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในวงการศิลปะป้องกันตัวแบบผสมผสานของปีนี้เลยก็ว่าได้

โดยศึก ONE: A NEW ERA มีโปรแกรมคู่รองของรายการถึงสามคู่, ชิงแชมป์โลกกันสี่รุ่น และจะมีไฟต์เปิดตัวของสองนักกีฬาระดับตำนานด้วย เท่านั้นยังไม่พอ ในค่ำคืนเดียวกันยังมีการแข่งขันคิกบ็อกซิ่งคู่ที่น่าสนใจ นั่นคือการดวลระหว่าง แอนดี้ เซาเวอร์ กับ ยอดแสนไกล ไอดับบลิวอี แฟร์เท็กซ์ รวมไปถึงการขึ้นเวทีของ เม ยามากูชิ นักกีฬา MMA หญิงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่นอีกต่างหาก

ลองมาดูกันว่าโปรแกรมทั้งหมดของคู่นำรายการนี้มีอะไรบ้าง ซึ่งแน่นอนว่านี่คือเหตุผลที่พวกคุณพลาดชมไม่ได้เด็ดขาด!

ศึก ONE: A NEW ERA
วันอาทิตย์ที่ 31 มีนาคม
ณ เรียวโงกุ โกกุงิกัง กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น

คู่เอกของรายการ
ชิงแชมป์โลก ONE รุ่นไลต์เวต
เอดูอาร์ด โฟลายัง (แชมป์) vs ชินยะ อาโอกิ
Mixed Martial Arts : 77.1 กก.

ไฟต์รีแมตช์สะเทือนวงการกำลังจะอุบัติขึ้น เมื่อ เอดูอาร์ด โฟลายัง แชมป์โลก ONE รุ่นไลต์เวต จะป้องกันเข็มขัดกับ ชินยะ อาโอกิ ตำนานขวัญใจเจ้าถิ่น หลังจากที่เคยพบกันมาแล้วเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2016 ซึ่งครั้งนั้นโฟลายังเป็นฝ่ายชนะ TKO กระชากแชมป์มาจากจอมเก๋าเลือดซามูไรได้สำเร็จ

ย้อนไปเมื่อไฟต์ดังกล่าว ตอนนั้นอาโอกิยังไม่เคยปราชัยให้ใครบนสังเวียน ONE มาก่อน แต่วันนั้นเขากลับเสียท่าในช่วงต้นยกที่สาม หลังถูกพายุหมัดและเข่าของโฟลายังโจมตีเข้าที่ใบหน้าจนหมดทางป้องกัน ทำให้ยอดฝีมือชาวฟิลิปปินส์ครองตำแหน่งแชมป์โลกสมัยแรกได้สำเร็จ

อย่างไรก็ดี ปีถัดมาโฟลายังก็ต้องเสียแชมป์ให้กับ มาร์ติน เหงียน แต่เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาก็กลับมาครองบัลลังก์ได้อีกรอบ หลังชนะคะแนนเอกฉันท์เหนือ อาเมียร์ ข่าน คว้าเข็มขัดที่ว่างอยู่กลับมานอนกอดได้สำเร็จ

ด้านอาโอกิเองก็ค่อยๆรีดฟอร์มเก่งกลับมาอยู่ในระดับแถวหน้าของรุ่นอีกครั้ง จนได้โอกาสท้าชิงแชมป์ในครั้งนี้ ซึ่งถือเป็นวาระพิเศษด้วย เนื่องจากจะได้ขึ้นสังเวียนต่อหน้ากองเชียร์เพื่อนร่วมชาติในฐานะคู่เอกของรายการ

———————–

คู่รองของรายการ
ชิงแชมป์โลก ONE รุ่นสตรอว์เวตหญิง
ซง จิง หนาน (แชมป์) vs แองเจล่า ลี
Mixed Martial Arts : 56.7 กก.

ถือเป็นไฟต์ระดับแชมป์ชนแชมป์ เมื่อ แองเจล่า ลี แชมป์โลก ONE รุ่นอะตอมเวตหญิง ทำน้ำหนักขึ้นมาขอท้าชิงกับ ซง จิง หนาน แชมป์โลก ONE
รุ่นสตรอว์เวตหญิง เพื่อพิสูจน์ให้เห็นว่าใครกันแน่ที่เป็นกำปั้นสาวอันดับ 1 ของ ONE ตัวจริง

สำหรับลี เคยดวลกับ เม ยามากูชิ คู่ต่อกรระดับตำนานของญี่ปุ่นมาแล้วสองครั้ง ซึ่งเธอเป็นฝ่ายเอาชนะคะแนนมาได้ทั้งสองไฟต์ แต่ครั้งนี้จะเป็นศึกครั้งสำคัญที่สุดของเธอ เมื่อต้องพบกับสาวแกร่งแดนมังกรอย่าง ซง จิง หนาน

ด้านซง นับตั้งแต่เธอเข้าร่วมแข่งขันใน ONE ก็เก็บชัยมา 4 ไฟต์รวด แต่บททดสอบอันหนักหน่วงที่สุดของเธอกำลังรออยู่ ซึ่งน่าสนใจว่าเธอจะผ่าน
แองเจล่า ลี ป้องกันเข็มขัดแชมป์ไว้ได้หรือไม่

———————–

คู่รองของรายการ
ชิงแชมป์โลก ONE รุ่นมิดเดิลเวต
อ่อง ลา เอ็น ซาง (แชมป์) vs เคน ฮาเซงาว่า
Mixed Martial Arts : 93.0 กก.

เหมือนที่ได้กล่าวไว้ข้างต้นว่ารายการนี้เต็มไปด้วยโปรแกรมสุดมันส์มากมาย สำหรับคู่นี้ต้องย้อนไปเมื่อเดือนมกราคม 2018 อ่อง ลา เอ็น ซาง กับ เคน ฮาเซงาว่า ถูกยกให้เป็นไฟต์ยอดเยี่ยมประจำปีนั้น

โดย อ่อง ลา สามารถป้องกันแชมป์รุ่นมิดเดิลเวตไว้ได้สำเร็จ ด้วยการชนะ TKO ไปในยกสุดท้าย แต่ผู้แพ้อย่างฮาเซงาว่าก็ทำได้ยอดเยี่ยมในไฟต์นั้นด้วยการแลกอาวุธกันชนิดลืมหายใจ ตอนนี้จอมเก๋าชาวญี่ปุ่นพร้อมแล้วสำหรับไฟต์รีแมตช์ต่อหน้ากองเชียร์เพื่อนร่วมชาติในการดวลกับแชมเปี้ยนเจ้าของฉายา “Burmese Python”

อ่อง ลา จะย้ำแค้นได้สำเร็จอีกครั้ง หรือจะเป็นฝั่งฮาเซงาว่าที่ใช้เสียงเชียร์จากแฟนๆ มาเป็นแรงใจพิเศษช่วยกระชากแชมป์มาครองได้สำเร็จ? ต้องคอยติดตามกันแบบห้ามกะพริบตา

———————–

คู่รองของรายการ
ชิงแชมป์โลก ONE รุ่นแบนตัมเวต
เควิน เบลิงกอน (แชมป์) vs บิเบียโน่ เฟอร์นันเดส
Mixed Martial Arts : 65.8 กก.

ศึกไตรภาคของจอมดีเดือดในรุ่นแบนตัมเวต ระหว่างเจ้าของแชมป์คนปัจจุบัน เควิน เบลิงกอน พบกับ บิเบียโน่ เฟอร์นันเดส ผู้ท้าชิงชาวบราซิล

ย้อนกลับไปเมื่อปีที่แล้ว เบลิงกอนล้มบัลลังก์ราชาแห่งรุ่นนี้พร้อมล้างแค้นได้สำเร็จในเวลาเดียวกัน หลังจากเคยแพ้ซับมิสชั่นเฟอร์นันเดสมาก่อนเมื่อปี 2016 ซึ่งในโตเกียวนี้จะเป็นการบู๊กันครั้งที่สามของทั้งคู่

แม้ประสบการณ์ของเบลิงกอนในการเป็นแชมป์จะน้อยกว่าเฟอร์นันเดส แต่ยอดฝีมือชาวฟิลิปปินส์ก็ต้องการพิสูจน์ตัวเองเช่นกัน ส่วนเฟอร์นันเดสเองก็ต้องการเข็มขัดแชมป์คืนมา และนี่คือโปรแกรมคู่รองของรายการคู่แรกที่จะระเบิดความมันส์ในวันที่ 31 มีนาคมนี้

———————–

ONE Flyweight World Grand Prix (รอบ 8 คนสุดท้าย)
เดเมทริอุส จอห์นสัน vs ยูยะ วากามัตสึ
Mixed Martial Arts : 61.2 กก.

ถือเป็นไฟต์ประวัติศาสตร์ของวงการศิลปะป้องกันตัวแบบผสมผสาน เมื่อนี่คือการขึ้นสังเวียนครั้งแรกใน ONE Championship ของ เดเมทริอุส “Mighty Mouse” จอห์นสัน ตำนานดีกรีแชมป์โลก MMA 12 สมัย ซึ่งจะพบกับ ยูยะ วากามัตสึ ดาวรุ่งขวัญใจเจ้าถิ่น

ปัจจุบัน จอห์นสันยังคงได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในนักกีฬา MMA ที่ดีที่สุดของโลกเมื่อเทียบกันปอนด์ต่อปอนด์ และแน่นอนว่าในไฟต์ที่จะเจอกับวากามัตสึนี้ เขาจะได้โอกาสแสดงให้โลกเห็นอีกครั้งว่าเขายังเป็นของจริงแห่งวงการนี้

———————–

ONE Lightweight World Grand Prix (รอบ 8 คนสุดท้าย)
เอ็ดดี้ อัลบาเรซ vs ทิโมฟีย์ นาสติวกิ้น
Mixed Martial Arts : 77.1 กก.

“The Underground King” เอ็ดดี้ อัลบาเรซ ก็ไม่ต่างอะไรกับจอห์นสัน เขาพกดีกรีแชมป์โลกหลายสมัยและเตรียมขึ้นสังเวียนเปิดตัวใน ONE Chmapionship นี้เป็นครั้งแรก

โดยอัลบาเรซจะได้ดวลกับ ทิโมฟีย์ นาสติวกิ้น คู่ต่อกรชาวรัสเซียในรอบแรกของทัวร์นาเมนต์ ONE Lightweight World Grand Prix ซึ่งเขาหมายมั่นปั้นมือกับรายการนี้อย่างมาก รวมถึงต้องการเป็นคนแรกของวงการที่คว้าแชมป์โลกได้ครบสามสถาบันหลักขององค์กรศิลปะป้องกันตัวแบบผสมผสานระดับนานาชาติ

ด้านนาสติวกิ้น จะเป็นบันไดขั้นแรกของอัลบาเรซ เขาต้องการประลองฝีมือกับคู่แข่งระดับแนวหน้าอยู่เสมอ และไฟต์นี้จะเป็นการแข่งขันที่สมน้ำสมเนื้อกันสุดๆแน่นอน

แฟนๆ สามารถติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหวของ ONE Championship ได้ที่ www.onefc.com รวมทั้งทวิตเตอร์, อินสตาแกรม @ONEChampionship และ เฟซบุ๊ก www.facebook.com/ONEChampionship และรับชมการถ่ายทอดสดได้ทาง ไทยรัฐทีวี ช่อง 32 วันอาทิตย์ที่ 31 มี.ค.นี้ ตั้งแต่เวลา 16.30 น. และอีกช่วงเวลาตั้งแต่ 22.15 น. เป็นต้นไป