ราชบุรี มิตรผล เอฟซี ทำการเปิดตัว มาร์โก้ ซิโมเน่ อดีตดาวยิงอิตาลีนั่งแท่นหัวหน้าผู้ฝึกสอนคนใหม่ เพื่อลุยศึกโตโยต้า ไทยลีก 2019 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ราชันมังกร ลงแข่งขันฤดูกาลใหม่ไปแล้ว 4 นัด แต่ทำผลงานได้ไม่ดีนัก จึงได้มีการขยับเปลี่ยนในตำแหน่งหัวหน้าผู้ฝึกสอนเพื่อปรับเปลี่ยนไปในทิศทางที่ดีขึ้น กระทั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 25 มีนาคม ที่ผ่านมา พวกเขาได้แถลงข่าวเปิดตัว มาร์โก้ ซิโมเน่ เข้ามารับตำแหน่งหัวหน้าผู้ฝึกสอนคนใหม่ โดยมี “เสี่ยฟลุ๊ค” ธนวัชร นิติกาญจนา รองประธานสโมสร ร่วมแถลงข่าวเปิดตัวในครั้งนี้
โดยทาง มาร์โก้ ซิโมเน่ ได้เปิดใจการเขามาคุม ราชบุรี มิตรผล ว่า “รู้สึกเป็นเกียรติและดีใจที่ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของราชบุรี ถึงแม้ที่นี่ไม่ใช่สโมสรเก่าแก่ ด้วยมองเห็นว่า เป็นสโมสร ที่มีโครงสร้าง มีศักยภาพ ที่ดี และมีทุกอย่างที่เพียบพร้อม ทั้งเรื่องของสนามแข่ง การจัดการ และอะไรที่พร้อมทุกๆด้าน รวมถึงจากที่ได้ศึกษามาว่าที่นี่มีแฟนบอลที่คอยให้การสนับสนุนเป็นอย่างดี เห็นถึงความตั้งใจของสโมสรทีมงานบริหาร ซึ่งแน่นอนว่าการเข้ามาทำหน้าที่โค้ชใหม่ มันย่อมมีความท้าทาย แต่เมื่อทุกอย่างที่นี่ต่างพร้อมจึงได้ตัดสินใจรับงานในตำแหน่งเฮดโค้ชที่นี่”
นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวได้ตั้งประเด็นถึงการเปลี่ยนแปลงโค้ช ที่ค่อนข้างบ่อย และการเอาชื่อมาทิ้งของอดีตดาวดังระดับโลกในไทยลีกมาแล้วหลายราย ไม่ว่าจะเป็น ไบรอัน ร็อบสัน, ร็อบบี้ ฟาวเลอร์, สเวนโกรัน อิริคสัน หรือจะเป็น คริสเตียน ซีเก้ ซึ่งกุนซือใหญ่รายใหม่ของราชบุรีฯได้เผยว่า
“การเปลี่ยนโค้ชไม่ใช่เฉพาะไทยลีก เมื่อผู้บริหารเห็นปัญหาและต้องแก้ไข แน่นอนต้องมีการเปลี่ยนทุกลีกเหมือนกัน การเปลี่ยนแปลงผมไม่หวั่นใจหรือกังวลอะไรมันเป็นเรื่องปกติ ลีกไทยเป็นลีกที่แข็งแกร่ง ผมรู้ว่าในทีมมีผู้เล่นดีอยู่แล้ว ผมทำการบ้านมาหลายเกม ผมรู้ว่าต้องแก้ไขทำให้ทีมดีขึ้นอย่างไร ตอนนี้ไทยลีกดีขึ้นมากกว่าตอนที่ผมเคยมาอย่างมาก”
“ที่ผ่านมามีบิ๊กเนมหลายรายเข้ามาทำงานในไทยลีก ไม่ว่าจะเป็น สเวน โกรัน อิริคสัน, ร็อบบี่ ฟาวเลอร์, คริสเตรียน ซีเก้ ฯลฯ แต่ไม่ประสบผลสำเร็จหรืออยู่ไม่ได้ยาว ผมเองไม่อยากพูดถึงโค้ชคนอื่น อยากโฟกัสที่ตัวเองมากกว่า ทุกอย่างอยู่กับสถานะการณ์ของแต่ละคน ผมเองก็จะทำหน้าที่ของผมให้ดีที่สุด”
“สำหรับเป้าหมายในการคุมทีม ผมยังไม่อยากประเมินว่าจะทำผลงานอย่างไร การเปลี่ยนแปลงช่วงแรกจะยากหน่อยในการปรับตัว แต่หากทุกคนปรับได้ตามที่ผมต้องการได้เร็ว เชื่อว่าเราจะมีทิศทางที่ดีขึ้นแน่นอน ส่วนสำคัญคือผู้เล่น ที่จะต้องมีทัศนะคติที่ดี เพราะจะช่วยให้เราประสบความสำเร็จได้ตามที่ต้องการแน่นอน ซึ่งทางผู้บริหารสโมสรนั้นอาจจะมองว่าต้องการที่จะเป็นแชมป์ในฟุตบอลถ้วยสักรายการ แล้วถ้าไม่เป็นอย่างเป้าหมาย แล้วจะมีการเปลี่ยนแปลงโค้ชอีกครั้งหรือไม่นั้นผมก็ไม่อยากไม่คิดหรือกังวลในจุดนั้น สิ่งแรกที่ต้องทำคือโฟกัสในการแข่งขัน นัดต่อนัด นัดต่อไป ให้ดีขึ้นเรื่อยๆ และปรับทีม ปรับทัศนะคติทีมให้ดีขึ้นมากกว่า และเชื่อว่า หากสามารถที่จะปรับจูนให้นักเตะมีแนวทาง และมีความเข้าใจทีม็จะดีขึ้นเรื่อยๆ”
ขณะที่ ธนวัชร์ นิติกาญจนา รองประธานสโมสรราชบุรี มิตรผล เอฟซี ได้กล่าวถึงการตัดสินใจดึงตัว มาร์โก้ ซิโมเน่ มาคุมทัพในครั้งนี้ว่า
“การดึงเขามาก็เพื่อแก้ไขปัญหา เรื่องที่เราเสียประตูง่ายเกินไป ต้องการให้เขาเข้ามาแก้ปัญหาตรงนี้ แต่หากจะถามว่าจะให้เวลามากน้อยแค่ไหนผมเองก็คงจะต้อบไม่ได้ ก็อยู่ที่การทำงานของเขาเองว่าจะสามารถพิสุจน์ให้กับทีมงานบริหารพอใจกับผลงานได้แค่ไหน และเป็นไปตามที่สโมสรต้องการหรือไม่ แต่อย่างไรก็ต้องให้ระะเวลาเขาทำงานก่อน ซึ่งแน่นอนว่าเราจะติดตามและประเมินอยู่แล้ว”
สำหรับ มาร์โก ซิโมเน่ เฮดโค้ชชาวอิตาเลี่ยนวัย 50 ปี ที่อดีตเคยผ่านการคุมทีมอย่าง อาแอส โมนาโก , โลซาน สปอร์ต , ตูร์ เอฟซี , สต๊าด ลาวัลลัวส์ และล่าสุดในการคุมทีมสโมสร คลับ แอฟริเคน ทีมแกร่งในลีกตูนีเซีย รวมถึงในอดีตเคยผ่านการค้าแข้งให้กับสโมสรยักษ์ใหญ่ ในยุโรป อย่าง เอซี มิลาน ในช่วงปี 1989 – 1997 ลงเล่นไปทั้งสิ้นกว่า 168 นัด ยิงได้ 49 ประตู รวมไปถึง ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ,โมนาโก ,นีซ ฯลฯ