อเล็กซานเดร กามา หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ขอทำงานหนักกว่าเดิม เพื่อพาทีม “ช้างศึกU23” กลับมาทำผลงานดีอีกครั้ง ในฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี รอบสุดท้าย เพื่อลุ้นตั๋วผ่านเข้าไปเล่นโอลิมปิก เกมส์ ในปี 2020
ช้างศึก U23 ลงสนาม 3 นัด เก็บได้ 6 คะแนน ด้วยการชนะ 2 และ แพ้ 1 โดยนัดสุดท้ายพ่ายให้กับ ทีมชาติเวียดนาม 0-4 ทำให้จบด้วยการเป็นรองแชมป์ กลุ่ม เค
อเล็กซานเดร กามา หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี กล่าวว่า “ก่อนอื่นผมต้องขอโทษแฟนบอลไทยทุกคน หลังจากที่เราลงเล่น 2 เกมแรก ผมมีความเชื่อมั่นกับน้องๆ มาก แต่เกมที่ผ่านมากับเวียดนาม ผลการแข่งขันมันไม่ได้เป็นไปตามที่หวังไว้”
“ตัวผมไม่มีข้ออ้าง การแพ้ครั้งนี้ถือเป็นการแพ้ที่ยิ่งใหญ่ครั้งหนึ่งของการเป็นโค้ช ผมได้มีการคุยกับนักเตะแล้วว่าจะปรับปรุงแก้ไขหรือพัฒนาจุดไหนบ้าง ผมไม่อยากแก้ตัวอะไรมาก แต่อยากโฟกัสให้ทีมกลับมาทำผลงานที่ดี ดังนั้นเราต้องทำงานหนักขึ้น”
“ผมจะไม่อ้างว่าเรามีเวลาฝึกซ้อมน้อยกว่าเวียดนาม เราเล่นได้อย่างยอดเยี่ยมใน 2 เกมแรก พอผ่านเกมนั้นไปแฟนบอลก็กลับมาสงสัยอีกครั้ง ผมชอบทำงานภายใต้ความกดดัน และมีความมั่นใจว่าเราจะกลับมาทำผลงานได้ดีอีกครั้ง
“ในรอบสุดท้าย เราอาจจะเสีย ศุภชัย ไม่ใช่แค่เกมเดียว แต่มันอาจจะเป็น 2 เกม ตัวผมเองก็ผิดหวังกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่เกมระดับนี้เด็กได้เรียนรู้ว่าการเล่นภายใต้ความกดดันและมีแฟนบอลเยอะต้องรับมืออย่างไร การเตรียมทีมหาก ศุภชัย โดนแบน 2 เกมผมต้องทำการบ้านหนักกว่าเดิม แต่ผมยังมั่นใจในตัวนักเตะทุกคนว่าจะทดแทนได้ นอกจากนี้ผมยังต้องการกำลังใจจากแฟนบอลไทยทุกคนครับ”
สำหรับการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี รอบสุดท้าย จะแข่งขันในต้นปี 2020 ซึ่ง ไทย จะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน ซึ่ง 16 ทีมที่ผ่านเข้ารอบสุดท้ายมีดังนี้
ไทย (เจ้าภาพ), อุซเบกิสถาน, เวียดนาม, กาตาร์, เกาหลีเหนือ, เกาหลีใต้, อิรัก, ญี่ปุ่น, จีน, ออสเตรเลีย, ซาอุดิอาระเบีย, จอร์แดน, ซีเรีย, อิหร่าน, ยูเออี และบาห์เรน
……………………………………..
ข้อมูลที่น่าสนใจ
ทีมชาติไทย ทำผลงานในศึกชิงแชมป์เอเชีย U23 ได้ไม่ดีนัก เมื่อไม่สามารถผ่านรอบแรกได้เลย เริ่มจากปี 2016 จบด้วยอันดับสุดท้ายของกลุ่ม ไม่ชนะใครได้เลยและมีเพียง 2 คะแนน รวมถึงปี 2018 ตกรอบแรกด้วยอันดับสุดท้ายของกลุ่มเช่นกัน ซึ่งแพ้รวดทั้งสามนัด
