การท่าเรือแห่งประเทศไทย ลงนามต่อสัญญาการบริหารจัดการทีมการท่าเรือ เอฟซี กับบริษัท การท่าเรือ เอฟซี จำกัด โดย “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ ประธานสโมสรฯ พร้อมตั้งเป้าสานต่อตำนานแห่งทีมไทยลีกต่อไป
ร้อยตำรวจตรี มนตรี ฤกษ์จำเนียร ผู้อำนวยการท่าเรือแหลมฉบัง รักษาการแทนผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย กล่าวถึงการลงนามบันทึกข้อตกลงการบริหารทีมฟุตบอล ระหว่าง การท่าเรือแห่งประเทศไทย กับ บริษัท การท่าเรือ เอฟซี จำกัด ว่า
“การท่าเรือแห่งประเทศไทย ให้การส่งเสริมกิจกรรมด้านกีฬามาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น ตระกร้อ ฟุตซอล และฟุตบอล ซึ่งสโมสรฟุตบอล นับเป็นสโมสรฟุตบอลระดับตำนาน ที่อยู่คู่กับการแข่งขันฟุตบอลลีกอาชีพของประเทศไทยมายาวนาน และได้ปั้นนักฟุตบอลอาชีพ สู่ทีมชาติไทยมาแล้วหลายต่อหลายรุ่น”
“การได้ร่วมงานกับบริษัท การท่าเรือ เอฟซี จำกัด ในช่วงที่ผ่านมา นับว่า ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี สโมสรการท่าเรือ เอฟซี ได้สร้างผลงานในการแข่งขันไว้มากมาย และเป็นความภาคภูมิใจของชาวการท่าเรือแห่งประเทศไทย”
ด้าน “มาดามแป้ง” นางนวลพรรณ ล่ำซำ ประธานสโมสรการท่าเรือ เอฟซี กล่าวว่า “นับตั้งแต่บริษัท การท่าเรือ เอฟซี จำกัด ได้รับช่วงต่อการบริหารจัดการสโมสรการท่าเรือ เอฟซี ตั้งแต่ปี 2558 เป็นต้นมา คณะผู้บริหาร ทีมงาน และผู้เล่นในสังกัดสโมสรการท่าเรือ เอฟซี ทุกคน ต่างมุ่งมั่นที่จะสร้างผลงาน ในนามของสโมสรฯ ให้ดีที่สุด ให้สมกับที่สโมสรฯ แห่งนี้ เป็นสโมสรระดับตำนานของประเทศไทย ที่ได้สร้างชื่อเสียง ตลอดจนสร้างนักฟุตบอลสู่ทีมชาติไทยหลายคน การทำทีมการท่าเรือ เอฟซี ในปีแรก แม้จะมีอุปสรรคด้านการบริหารจัดการ จนทีมตกลงไปเล่นในดิวิชั่น 1 อย่างไรก็ตาม คณะผู้บริหารและทีมงานทุกคน ใช้ระยะเวลาเพียงแค่ 1 ปี บวกกับความพยายามและความตั้งใจจริง กระทั่งการท่าเรือ เอฟซี กลับขึ้นมาสู่เวทีการแข่งขันไทยลีก ได้อีกครั้งในปี 2560”
“สำหรับการแข่งขันไทยลีกในปี 2561 ที่ผ่านมา สโมสรการท่าเรือ เอฟซี สามารถจบการแข่งขัน ในอันดับที่ 3 พร้อมสร้างสถิติการทำแต้มสูงสุดในการแข่งขันไทยลีกต่อหนึ่งฤดูกาลของสโมสรฯ คือ 61 คะแนน นอกจากนี้นักกีฬาของสโมสรฯ หลายคน ได้แก่ บดินทร์ ผาลา, นิติพงษ์ เสลานนท์, วรวุฒิ ศรีสุภา, วรวุฒิ นามเวช, เควิน ดีรมรัมย์, นูรูล ศรียานเก็ม และ ปกรณ์ เปรมภักดิ์ ได้รับการคัดเลือกให้เข้าร่วมการแข่งขันในนามทีมชาติไทยมาแล้วหลายรายการ”
“การได้ร่วมสานต่อภารกิจของตำนานแห่งวงการลูกหนังไทยในครั้งนี้ ในฐานะประธานสโมสรการท่าเรือ เอฟซี และในฐานะคนทำฟุตบอลที่มีใจรักกีฬาอย่างแท้จริง การทำทีมกว่า 4 ปีที่ผ่านมา รู้สึกผูกพันกับสโมสรแห่งนี้ และต้องการร่วมเป็นหนึ่งในผู้สร้างความสำเร็จอันยิ่งใหญ่มาสู่สโมสรฯ เราจะไม่หยุดที่จะพัฒนาทีมแต่เพียงเท่านี้ เราจะร่วมมือกับทุกฝ่าย เพื่อรักษาชื่อเสียงแห่งตำนาน เพื่อสานต่อ และเพื่อสร้างความสำเร็จ ให้แก่สโมสรฯ ตลอดจนเพื่อมอบความสุขให้แก่ชาวการท่าเรือแห่งประเทศไทย และแฟนบอลการท่าเรือ เอฟซี ทุกคน”