ทีมชาติบาห์เรน ทีมชาติไทย เอเชียนคัพ 2019

เบื้องหลังความสะใจ! 5 สาเหตุสำคัญ ช้างศึก “ทีมชาติไทย” เฉือนชนะ ‘ทีมชาติบาห์เรน’

สิ้นสุดการรอคอยหลัง ช้างศึก ทีมชาติไทย คว้าชัยชนะใน เอเชียนคัพ รอบสุดท้าย ในการเล่นนอกบ้าน เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ หลังเอาชนะ บาห์เรน 1-0 และยังเป็นครั้งแรกในรอบ 39 ปี ที่เอาชนะคู่แข่งรายนี้ได้อีกด้วย…

Home / SPORT / เบื้องหลังความสะใจ! 5 สาเหตุสำคัญ ช้างศึก “ทีมชาติไทย” เฉือนชนะ ‘ทีมชาติบาห์เรน’

สิ้นสุดการรอคอยหลัง ช้างศึก ทีมชาติไทย คว้าชัยชนะใน เอเชียนคัพ รอบสุดท้าย ในการเล่นนอกบ้าน เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ หลังเอาชนะ บาห์เรน 1-0 และยังเป็นครั้งแรกในรอบ 39 ปี ที่เอาชนะคู่แข่งรายนี้ได้อีกด้วย

 

แต่เบื้องหลังความสะใจของคนไทยทั้งชาติ ความดีความชอบคงหนีไม่พ้นโค้ชคู่ คือ ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย และโชคทวี พรหมรัตน์ ที่รู้หัวจิตหัวใจของนักเตะทุกและนี้คือสาเหตุที่ทำให้ ทีมชาติไทย ประเดิมสามแต้มแรกใน เอเชียน คัพ 2019

 

 

โค้ชคู่รู้ใจนักเตะ 3-4-3

สาเหตุหลักๆอย่างแรกคือโค้ชศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย และโชคทวี พรหมรัตน์ ปรึกษากันมาแล้วว่านักเตะ ทีมชาติไทย ชุดนี้ชอบเล่นในสไตล์แบบไหน ควรจับใครไปยืนในตำแหน่งไหน ข้อดีของเด็กชุดนี้คือเล่นด้วยกันมานาน จึงเป็นที่มาของแผน 3-4-3 ที่มาได้ถูกที่ถูกเวลา

เมื่อยามต้องตั้งรับกลับมาช่วยยืนกันครบ 5 คน และส่วนกลับด้วยความรวดเร็ว โดยได้วิงแบ็กทั้งสองข้างคอยเติมเกมรุก จนเป็นที่มาของประตูชัย

 

 

กล้าใช้งานผู้เล่นใหม่

ก่อนหน้านี้คู่เซ็นเตอร์ของไทยทั้ง เฉลิมพงษ์ และพรรษา ต่างทำหน้าที่ของตนเองได้ดี แต่ระยะหลังกลับเสียประตูง่าย ในเรื่องนี้โค้ชโต่ยมองเห็นและออกมาให้สัมภาษณ์ว่าแนวรับขาดวินัยและสมาธิ จึงตัดสินใจเลือกใช้บริการของ สุพรรณ ทองสงค์ ที่มีความสดใหม่ร่างกายแข็งแรงบวกมีความกระหายในการลงสนาม

เช่นเดียวกับ อดิศร พรหมรักษ์, ธนบูรณ์ เกษารัตน์ และศิวรักษ์ เทศสูงเนิน เมื่อได้รับโอกาสลงสนามก็ไม่ปล่อยให้หลุดลอยไป ทุกคนที่ถูกหยิบมาใช้งานต่างทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม

 

 

เทพเจจุติ

เกมนัดแรกจะเห็นได้ว่า ชนาธิป สรงกระสินธ์ ได้บอลน้อยเพราะถูกจับไปยืนค่อนข้างสูงในตำแหน่งหน้าต่ำ และก็เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ ทีมชาติไทย ทำผลงานได้ไม่ดี แต่เกมนัดล่าสุด ชนาธิป ถูกจับไปยืนในตำแหน่งกองกลางตัวรุก และบางครั้งก็วิ่งฉีกออกไปเล่นริมเส้น ทำให้ดาวเตะจาก คอนซาโดเล ซัปโปโร ได้บอลมากขึ้น ช่วยเรียกความมั่นใจและพา ช้างศึก ทำผลงานยอดเยี่ยมในครึ่งหลังเหนือ บาห์เรน อย่างชัดเจน ก่อนเจ้าตัวจะมายิงวอลเลย์ด้วยซ้าย ซึ่งไม่ใช่ใครจะสามารถทำได้ทุกคนกับประตูสุดสวยลูกนี้

 

 

วินัย-สมาธิเป็นหนึ่งเดียว

ข้อนี้คือคุณสมบัติของเกมระดับทวีปเอเชีย ใครมีน้อยกว่ากันก็ไม่แปลกใจที่จะต้องพ่ายแพ้ แต่เกมล่าสุดผู้เล่นทีมชาติไทย ทำกันได้ดี ต้องชื่นชมตั้งแต่เกมรับเล่นอย่างรัดกุม 3 เซ็นเตอร์แบ็คยืนกันต่ำตามคำสั่ง และมีวิงแบ็กลงมาช่วยปิดเกมด้านข้าง จะเห็นว่าแนวรับ 5 คนยืนช่วยกันเต็มไปหมด

นอกจากนี้ยังได้กองกลางตัวรับอย่าง ธนบูรณ์, ฐิติพันฐ์ คอยวิ่งไล่สกัดทำลายจังหวะคู่ต่อสู้ และหาจังหวะดีรีบป้อนบอลให้ 3 ตัวรุก ที่รอสวนกลับอย่างใจจดใจจ่อ ไม่ว่าจะเป็น ชนาธิป, อดิศักดิ์ และธีรศิลป์ ซึ่งถือเป็นแท็คติคที่มาได้ถูกที่ถูกเวลาจริงๆ

 

 

สมาคมฯกล้าตัดสินใจ

ต้องยอมรับว่าไม่บ่อยนักที่ ทีมชาติไทย จะประกาศปลดโค้ชกลางคันในระหว่างทัวร์นาเม้นท์อย่างนี้ แต่สมาคมกีฬาฟุตบอลฯชุดนี้ ที่นำโดย พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง กล้าตัดสินใจ เพราะทราบดีว่ารายการเอเชียนคัพ เป็นทัวร์นาเม้นท์ที่สำคัญและมีแฟนบอลชาวไทยคาดหวังที่สุด

ว่าแล้วก็สั่งปลด มิโลวาน ราเยวัช กุนซือหน้าง่วงชนิดที่เรียกว่า ‘ฟ้าผ่า’ พร้อมวางแผนล่วงหน้าไว้แล้วคือการดึง โชคทวี พรหมรัตน์ มาเชื่อมใจนักเตะและเป็นที่มาของการได้ผนึกงานโค้ชคู่กับ ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย มันคือการตัดสินใจที่ถูกต้อง หากยังปล่อยให้กุนซือชาวเซิร์บคุมทัพอยู่ ช้างศึก อาจหมดลุ้นเข้ารอบไปแล้วก็ได้