สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ได้อธิบายถึงระเบียบการแข่งขันของรายการเอเชียน คัพ 2019 ที่เพิ่มเติมขึ้นมาในรอบน็อคเอาท์
ทีมชาติไทย ผ่านเข้าสู่รอบน็อคเอาท์ได้เป็นครั้งแรกในรอบ 47 ปี หลังจากเสมอกับ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เจ้าภาพ 1-1 และเข้าไปรอพบอันดับ 2 ของกลุ่ม ซี ระหว่าง จีน กับ เกาหลีใต้ ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย
ซึ่งในตั้งแต่รอบน็อคเอาท์เป็นต้นไป สมาพันธ์ฟุตบอลเอเชีย (เอเอฟซี) อนุญาตให้มีการเปลี่ยนตัวสำรองคนที่ 4 ได้ในช่วงต่อเวลาพิเศษ ไม่ว่าทีมนั้นจะใช้โควตาเปลี่ยนตัวไปแล้ว 3 คนหรือไม่
สำหรับกฏดังกล่าว ทางคณะกรรมการสมาคมฟุตบอลนานาชาติ (IFAB) ได้ให้การรับรองไปเมื่อต้นปี 2018 และประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีในฟุตบอลโลก 2018 รอบสุดท้ายที่รัสเซีย ซึ่งทัวร์นาเมนต์ดังกล่าวได้มีการใช้โควตาตัวสำรองคนที่ 4 ไป 6 ครั้ง แต่เป็นที่น่าสังเกตคือมีเพียง 2 คนเท่านั้น ที่ถูกส่งลงมาแล้วได้เป็นผู้ยิงจุดโทษ ขณะที่ส่วนใหญ่ถูกส่งลงมาตามแท็คติกเพื่อหวังจะเปลี่ยนเกม หรือหลีกเลี่ยงความพ่ายแพ้ในช่วงต่อเวลาพิเศษ
ขณะเดียวกันในรอบ 8 ทีมสุดท้ายเป็นต้นไป จะมีการนำ VAR (Video Assistant Referee) มาช่วยตัดสินในทุกคู่ และเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1968 ที่จะไม่มีนัดชิงอันดับ 3
สำหรับ ทีมชาติไทย จะลงเล่นในศึกเอเชียนคัพ 2019 รอบ 16 ทีมสุดท้าย ที่สนาม ฮัสซา บิน ซายิด สเตเดียม, อัล ไอน์ ในวันที่ 20 มกราคม 2562 เวลา 21.00 น. ตามเวลาประเทศไทย ถ่ายทอดสดทางช่อง 7 HD และ FOX Sports HD