เมื่อเร็วๆ นี้ หลายคนคงจะเคยได้ยินเกี่ยวกับ คอร์บิน เมอร์เรย์ เด็กลูกครึ่งไทยในอคาเดมี่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มาบ้างแล้ว แต่สำหรับใครที่ยังไม่คุ้นหูก็ลองมาทำความรู้จักกับหนุ่มน้อยผู้นี้แบบคร่าวๆ กัน
คอร์บิน เมอร์เรย์ คือนักเตะเยาวชนวัย 11 ขวบ ลูกครึ่งไทย-อังกฤษ โดยคุณพ่อของเขาคือชายอังกฤษนามว่า สก็อตต์ เมอร์เรย์ ขณะที่คุณแม่เป็นชาวไทยชื่อ จารุณี เมอร์เรย์ และเขาก็มีพี่สาวด้วยนั่นก็คือ เคียน่า เมอร์เรย์
หากจะย้อนไปในวัยเด็กกว่านี้เมื่อปี 2015 คอร์บิน เป็นที่รู้จักในวงกว้างพอสมควรจากคลิปที่เขาซัดฟรีคิกสุดสวยในสนาม คัมป์ นู ของ บาร์เซโลน่า โดยเป็นการปั่นโค้งเข้าสู่มุมบนเสาไกล ทำเอาสื่อหลายสำนักถึงกับบอกว่านี่มันอย่างกับลูกยิงฟรีคิกของ เดวิด เบ็คแฮม เลยทีเดียว
คอร์บิน นั้นเคยฝึกซ้อมมาแล้วกับหลายสโมสรดังในอังกฤษ ไม่ว่าจะเป็น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, แมนเชสเตอร์ ซิตี้, ลิเวอร์พูล, เอฟเวอร์ตัน, แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส รวมไปถึงทีมในย่านบ้านเกิดของเขาอย่าง บิวรี่ ทาวน์ โดยความตั้งใจของลูกครึ่งไทย-อังกฤษตัวน้อยก็คือการเป็นนักฟุตบอลอาชีพในวันข้างหน้า
สก็อตต์ ผู้เป็นพ่อของเขาเคยกล่าวถึงลูกฟรีคิกลูกนั้นว่า “เขาทำมันได้ดีมากๆ อย่างน่ามหัศจรรย์ มันทำให้เขามีแฟนๆ ติดตามมากมาย เขาถูกนำไปเปรียบเทียบกับใครหลายคน แต่เขาก็ทำให้ผมนึกย้อนไปถึง เดวิด เบ็คแฮม”
“เขาทำได้ดีในจังหวะครอสบอล รวมไปถึงการเล่นลูกเซ็ตพีซ ลูกที่เขายิงได้ที่ บาร์เซโลน่า มันไม่ใช่ลูกฟลุคแน่นอน เพราะว่าเขาเคยทำมาได้ก่อนหน้านี้แล้วหลายต่อหลายครั้ง คราวนี้มันโชคดีที่มีการบันทึกภาพเอาไว้ก็เท่านั้นเอง”
อันที่จริงแล้ว คอร์บิน นั้นเป็นแฟนบอล ลิเวอร์พูล ตัวยงเหมือนกับพ่อของเขา โดยมีไอดอลคือตำนานมิดฟิลด์อย่าง สตีเว่น เจอร์ราร์ด แต่ถึงแม้ว่าหนูน้อยผู้นี้จะมีโอกาสได้ฝึกซ้อมกับทีมหงส์แดงมาก่อน แต่เมื่อถึงคราวต้องเซ็นสัญญากับสโมสรใดสักสโมสร ทุกอย่างมันก็ต้องเป็นไปด้วยเหตุผลหลายอย่าง สุดท้ายก็กลายเป็นคู่อริอย่าง แมนฯ ยูไนเต็ด ที่ได้ตัวเขาเข้าสู่อคาเดมี่
ครอบครัว เมอร์เรย์ มองว่าการตัดสินใจให้ลูกเซ็นสัญญากับทีมปีศาจแดงนั้นเป็นเรื่องที่เหมาะสมที่สุด ด้วยสาเหตุหลายอย่าง ทั้งเรื่องของการเดินทาง, เรื่องของการเรียน และอีกหลายๆ อย่าง ซึ่งก็ถือว่าเป็นเรื่องดีที่ คอร์บิน ยอมรับในเรื่องนี้ได้ และสามารถใส่ชุดแข่งสีแดงตราปีศาจฝึกฝนทักษะลูกหนังได้อย่างไม่เคอะเขิน
ตอนนี้มันยังคงเร็วเกินไปที่จะบอกว่า คอร์บิน มีโอกาสสานฝันเป็นนักฟุตบอลอาชีพได้หรือเปล่า หรือแม้กระทั่งว่าเขาจะได้ติดธงไตรรงค์รับใช้ทีมชาติไทยในอนาคตหรือไม่ มันยังเป็นเรื่องที่ไม่มีใครสามารถตอบได้ เพราะว่าหนทางมันยังอีกยาวไกลนัก
แต่ที่เราพอจะทำได้ก็คือการให้กำลังใจหนุ่มน้อยที่ชื่อว่า คอร์บิน เมอร์เรย์ ได้ก้าวเดินไปเรื่อยๆ ตามเส้นทางของเขาตามที่มันควรจะเป็นสำหรับเด็กวัยนี้ และก็ไม่แน่ว่าเราอาจจะได้เห็นของเขาอีกครั้งบนพาดหัวข่าวใหญ่ในวันข้างหน้า
