“เดอะเซนต์” อรรณพ สิงห์โตทอง รองประธานสโมสรชลบุรี เอฟซี เจอคำถามแรง แต่ตอบอย่างตรงไปตรงมา หลังสื่อบุกถึงสนามถามว่า ฉลามชล ถังแตกแล้วจริงหรือ… ?
ฉลามชล ห่างเหินจากความสำเร็จแชมป์ลีกสูงสุดไปนานเข้าสู่ปีที่ 11 ซึ่งครั้งสุดท้ายที่พวกเขาคว้าแชมป์ไทยลีกได้คือปี 2550 นอกจากนี้ที่ผ่านมา ชลบุรี ก็ได้ขายผู้เล่นตัวหลักออกจากทีมอย่างต่อเนื่อง จนไม่เข้าใกล้ความสำเร็จอีกเลย โดยล่าสุดทาง “เดอะเซนต์” อรรณพ สิงห์โตทอง รองประธานสโมสรฯ ได้ออกมาเปิดใจกับทีมข่าว MThai Sports ว่า
“ชลบุรีก็เป็นทีมๆหนึ่งที่ต้องหาเงินและใช้ชีวิตอยู่ในวงการฟุตบอลให้ได้ เราก็มีงบประมาณจำนวนหนึ่ง งบประมาณนั้นมาจากไหน… เดี๋ยวนี้รัฐให้ไม่ได้แล้ว งบประมาณก้อนแรกมาจากสมาคมกีฬาฟุตบอล ไทยลีก ให้ 20 ล้านและงบพัฒนาอีก 5 ล้าน” “เดอะเซนต์” เริ่มกล่าว
“สองก็คือ เราได้จากสปอนเซอร์ต่างๆ ซึ่งเราก็ต้องแลกกับผลงานที่ดี โอเค สปอนเซอร์เขาหวังให้เราได้แชมป์ไหม เขาก็หวัง แต่เขาก็รู้ศักยภาพว่า ณ เวลานี้เมื่อเงินสปอนเซอร์มารวมกันแล้ว เรามีเงินอยู่ 100 ล้าน แล้วเงินจำนวนนี้เราทำอะไรได้บ้าง 10 เปอร์เซ็นต์ต้องไปสนับสนุนอะคาเดมี่ อาจจะมีประหยัดบ้าง แต่มันก็ต้องมีทุกรุ่นเพื่อส่งแข่งและพัฒนาเด็กๆ ส่วนในทีมใหญ่อาจจะเหลือสัก 70-80 ล้านบาท แต่ก็ต้องแบ่งไปส่วนอื่นๆด้วย เช่นตรงนี้ 5 ล้าน, 3 ล้าน หรือ 10 ล้านก็ว่ากันไป”
“ฉะนั้นงบประมาณพวกนี้ เรามีและเรารู้ว่าเรามีอยู่ 100 ล้านบาท ถ้าปีไหนมันเกินและบัญชีมันแดง เราจะทำยังไงได้ ก็ต้องขายนักฟุตบอลเพื่อให้สมดุลทีมมันอยู่ได้ ปีหนึ่งเราต้องขายนักฟุตบอลถามว่าเราอยากขายไหม เราไม่อยากขายหรอก แต่ในเมื่อเรามีงบประมาณอยู่เท่าเนี้ย ก็ต้องทำตัวของเราเพื่ออยู่ให้ได้หาคนใหม่ แต่เด็กที่ออกจากเราไปเขาก็ได้ดีกว่าเราเยอะ อยู่กับเราได้แค่เนี้ย แต่ไปอยู่ที่อื่นโอ้โหได้เยอะขึ้น มันก็วินๆทั้งสองฝ่าย”
“ทีมที่จะซื้อเขาโอเคไหม เขาโอเคเราอยากขาย เขาอยากจะซื้อ แต่ถ้านักฟุตบอลไม่อยากไปมันก็มี ยกตัวอย่าง เกริกฤทธิ์ มีทีมอยากจะซื้อ ผมก็อยากจะขายเพราะได้เงิน แต่ว่าเขาไม่อยากไป ยอมอยู่ชลบุรีเพื่อได้เงินแค่นี้ ฉะนั้นก็ต้องรู้ก่อนเรามีพื้นฐานอยู่เท่านี้ แต่ปัจจุบัน หลายๆทีมมีเงินกัน 300-400 ร้อยล้าน มันจะไปสู้อะไรเขาได้ละ มันก็เหมือนกับอังกฤษ ก็มีทีมรวย เชลซี, แมนซิตี้, แมนยู หรือทีมอะไรต่างๆ แล้วก็มี วัตฟอร์ด มีทีมเล็กๆ คาร์ดิฟ อะไรต่างๆ ผมว่ามันเป็นวัตถจักรปกติของการแข่งขัน ทีมจะรวยก็รวยไป แต่ของเราไม่มีเงิน แต่สิ่งสำคัญคือเราอยู่ได้ไหม ผลประกอบการเป็นกำไรไหม ขาดทุนไหม”
“เดอะเซนต์” กล่าวต่อว่า “ผมเห็นปีๆหนึ่ง ถามว่าเงินมันตอบโจทย์เรื่องการเป็นแชมป์ได้ไหม มันก็ไม่ตอบโจทย์ สุดท้ายใครพัง ครอบครัวพัง ฉะนั้นเรารักบอลเราต้องรักอย่างมีสติ แต่สิ่งหนึ่งที่เราจะได้ดีมากกว่าที่อื่น คือเราได้ให้โอกาสเด็กๆเยอะแยะที่เจริญเติบโตไปเป็นทีมชาติ แม้บางคนไปไม่ถึงจุดสูงสุด แต่เราก็ได้ให้โอกาสเขาจนเรียนจบ ม.6 เพราะฉะนั้นเรามีความสุขตรงนี้”
“ถามว่าเราอยากได้ถ้วยไหม อยากได้แชมป์ไหม เราอยากได้ การได้แชมป์ก็คือสปอนเซอร์มันจะเข้าไง มันก็สบายขึ้น แต่ไม่ได้แชมป์มันก็เหนื่อยหน่อย มันก็ต้องทำ แต่ผมว่าสปอนเซอร์เขารู้ความเป็นตัวตนของชลบุรี ว่าชลบุรีเป็นยังไง เพราะว่าฟุตบอลมันก็มีขึ้นมีลง
ฉะนั้นทำความดีกับวงการฟุตบอลเถอะ เป็นคนดี ผมว่ามันจะตอบแทนคุณเอง แม้ตอบแทนไม่ได้ด้วยแชมป์ แต่ก็ตอบแทนด้วยความสุขกับความรักที่คุณทุ่มเทมันลงไป”
รองนายใหญ่ฉลามชล กล่าวทิ้งท้าย