ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย รักษาการหัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย เปิดเผยเบื้องหลังประวัติศาสตร์ทัพช้างศึกที่เข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้าย ว่ามีเวลาฝึกซ้อมแผน 3-5-2 แค่ 1 วันเท่านั้น
ช้างศึก เริ่มต้นทัวร์นาเมนต์ได้ไม่สวยนัก เมื่อพ่าย อินเดีย 1-4 จนเป็นเหตุให้ต้องปลด มิโลวาน ราเยวัช ก่อนที่ “โค้ชโต้ย” ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย ถูกแต่งตั้งให้ขึ้นมาขัดตาทัพ และพาทีมพลิกสถานการณ์ ผ่านเข้าสู่รอบน็อคเอาท์ ได้เป็นครั้งแรก ในรอบ 47 ปี ก่อนยุติเส้นทางไว้ที่รอบ 16 ทีมสุดท้าย ด้วยการพ่ายแพ้ “ทัพมังกรแดง” ทีมชาติจีน 1-2
โดยกุนซือโปรไฟล์บ้านๆ ได้ออกมาเปิดเผยเบื้องหลังประวัติศาสตร์ในครั้งนี้ว่า “ก่อนอื่นต้องขอบคุณนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ก็รู้สึกดีใจครับที่สามารถทำให้แฟนบอลชาวไทยมีความสุขกับการแข่งขันเอเชียนคัพ หลังจากนี้เดี๋ยวท่านนายกฯก็จะเรียกเข้าไปคุยครับ การคุมทีมที่ผ่านมาก็กดดันนิดหน่อยครับ เรามารับงานแบบช่วงสั้นๆ แต่น้องๆก็ช่วยกันก็ถือว่าประสบความสำเร็จครับ”
“ในเรื่องศักยภาพผู้เล่นผมก็ได้คุยกับโค้ชโชค และโค้ชโชคก็ได้เรียกน้องๆมาคุยปรึกษากันว่าถ้าเล่นระบบเนี้ยน้องเข้าใจไหม เพราะว่าเราไประดับเอเชียผู้เล่นเขาค่อนข้างสูงใหญ่ เราก็ต้องใช้ระบบนี้และปรึกษากัน เพราะมันทำให้เกมรับระบบรัดกุมครับผม ซึ่งจริงๆแล้วเราใช้เวลาแค่วันเดียวที่เซทเกมละก็สามารถทำได้ดี”
ขณะที่ด้าน “บิ๊กโทนี่” กิติศักดิ์ จำปาทิพย์พงศ์ ผู้อำนวยการทีมชาติไทย กล่าวถึงเรื่องการอัดฉีดว่า “เรื่องรางวัลอัดฉีดนะครับสุดท้ายเราต้องคุยกันอีกที เพราะว่าเป็นสิ่งที่ต้องให้รางวัลเพราะถือว่าประสบความสำเร็จ เป็นแมตช์ต่อแมตช์อยู่แล้ว ตอนนี้เราก็มีอยู่ 15 ล้านบาท ซึ่งหากนอกเหนือจากนี้อาจจะมีจากภายนอกให้กับ ทีมชาติไทย ชุดนี้ครับ”
“สุดท้ายต้องเรียนอย่างนี้ว่าขอบคุณครับ ขอบคุณแฟนบอลชาวไทย ขอบคุณนักเตะ จนทำให้วันนี้เราสร้างประวัติศาสตร์ ขอบคุณโค้ชโชค, โค้ชโต่ย ที่ทำได้เหนือความคาดหมาย ที่ทำให้มาถึงในรอบนี้ ก็ถือว่าเป็นอะไรที่ประสบความสำเร็จให้แฟนบอลได้ชื่นชม”