ครั้งเดียวก็เกินพอ! 5นักเตะดังที่งานพังเมื่อเปลี่ยนบทบาทมาเป็นกุนซือ

เมื่อนักเตะดังต้องเปลี่ยนบทบาทมาเป็นกุนซือ ใช่ว่าทุกอย่างจะง่ายดายไปหมด หลายคนก็เปิดตัวในอาชีพใหม่ได้พังพินาศจนไม่หวนกลับไปรับงานอีก และนี่คือห้านักเตะที่แขวนสตั๊ดแล้วเปลี่ยนบทบาทมาคุมทีมแค่ครั้งเดียวก็ปิดจ็อบตัวเองไม่กล้ากลับมาทำทีมอีก แกรี่ เนวิลล์ อดีตกัปตันทีมปีศาจแดงเริ่มงานครั้งแรกก็ได้คุมทีมใหญ่เลย ค่อนข้างเซอร์ไพรซ์พอสมควรเมื่อ บาเลนเซีย เลือกเขาเข้ามากู้วิกฤตในช่วงกลางฤดูกาล 2015-16 ถือว่าสโมสรจาก ลาลีก้า กล้าเสื่ยงมากๆ กับกุนซือไร้ประสบการณ์อย่าง…

Home / SPORT / ครั้งเดียวก็เกินพอ! 5นักเตะดังที่งานพังเมื่อเปลี่ยนบทบาทมาเป็นกุนซือ

เมื่อนักเตะดังต้องเปลี่ยนบทบาทมาเป็นกุนซือ ใช่ว่าทุกอย่างจะง่ายดายไปหมด หลายคนก็เปิดตัวในอาชีพใหม่ได้พังพินาศจนไม่หวนกลับไปรับงานอีก และนี่คือห้านักเตะที่แขวนสตั๊ดแล้วเปลี่ยนบทบาทมาคุมทีมแค่ครั้งเดียวก็ปิดจ็อบตัวเองไม่กล้ากลับมาทำทีมอีก

แกรี่ เนวิลล์

อดีตกัปตันทีมปีศาจแดงเริ่มงานครั้งแรกก็ได้คุมทีมใหญ่เลย ค่อนข้างเซอร์ไพรซ์พอสมควรเมื่อ บาเลนเซีย เลือกเขาเข้ามากู้วิกฤตในช่วงกลางฤดูกาล 2015-16 ถือว่าสโมสรจาก ลาลีก้า กล้าเสื่ยงมากๆ กับกุนซือไร้ประสบการณ์อย่าง เนวิลล์ สถานการณ์ตอนนั้นทีมค้างคาวไฟอยู่ในโซนท้ายตารางแต่ก็ใช่ว่าบอลเปลี่ยนโค้ชแล้วจะดีเสมอไป เนวิลล์ คุมทีมไปทั้งหมด 16 นัด ชนะแค่ 3 เกม นัดสุดท้ายของเขาคือการพา บาเลนเซีย บุกไปโดน บาร์เซโลน่า ถล่ม 7-0 สุดท้ายเจ้าตัวจึงได้กลับมาทำงานเป็นนักวิจารณ์ตามเดิม

เอ็ดการ์ ดาวิดส์

ดาวิดส์ รับบทบาทผู้เล่น-ผู้จัดการทีม บาร์เน็ต ทีมลีกทูของอังกฤษในปี 2012 แม้กองกลางชาวเนเธอร์แลนด์จะผ่านประสบการณ์ค้าแข้งมาอย่างโชกโชนกับสโมสรชั้นนำในยุโรป อย่างเช่น อาแจ๊กส์, ยูเวนตุส, สเปอร์ส แต่ประสบการณ์ก็ไม่ช่วยอะไรมากนัก บาร์เน็ต ตกชั้นไปอยู่นอกลีกตั้งแต่ฤดูกาลแรกที่เขาคุมทีม ฤดูกาลถัดมาในดิวิชั่นนอกลีก ดาวิดส์ ยังคงควบสถานะผู้เล่น-ผู้จัดการทีมเหมือนเดิม เขาโดนไล่ออกจากสนามสามเกมติดต่อกัน ก่อนที่จะตัดสินใจปลดตัวเองออกจากตำแหน่งกุนซือและนักเตะ

พอล แกสคอยน์

ถ้าเป็นคอบอลรุ่นเก่าหน่อยจะรู้จักเขาดี แกสซ่า ได้ชื่อว่าเป็นนักเตะอังกฤษที่มีพรสวรรค์เลอเลิศที่สุดคนหนึ่งแต่ด้วยพฤติกรรมเสพติดแอลกอฮอล์ของเขาทำให้ชีวิตของเขาดิ่งลงเหว แกสซ่า ได้รับโอกาสคุมทีม เคทเทอร์ริ่ง ทาวน์ ในปี 2005 แต่ทำได้แค่ 39 วันก็ถูกไล่ออกจากสโมสร ขณะที่เจ้าของทีมกล่าวหาว่าเขามีอาการเมาสุรามาคุมทีมหลายต่อหลายครั้งทำให้ แกสซ่า ยุติชีวิตการเป็นกุนซือมาตั้งแต่นั้น

อลัน เชียร์เรอร์

ตำนานดาวยิงทีมชาติอังกฤษลองของด้วยงามคุมทีม นิวคาสเซิล ในปี 2009 เพื่อกู้วิกฤตทีมเก่าของเขาที่กำลังดิ้นรนหนีการตกชั้นอย่างหนักขณะที่เหลืออีกแปดเกมสุดท้าย แต่ตอนจบมันไม่ได้สวยหรูอย่างที่คิด เชียร์เรอร์ ทำทีมชนะแค่เกมเดียวจากแปดนัด เก็บได้แค่ห้าคะแนน ส่งทีมสาลิกาดงร่วงตกชั้นเป็นครั้งแรกในรอบ 16 ปี หลังจากนั้น เชียร์เรอร์ ก็ไม่รับงานคุมทีมอีกเลย

เธียร์รี่ อองรี

คนนี้คือรายล่าสุดแต่อาจจะยังไม่เข็ดและกลับมารับงานอีก สถานการณ์ของ อองรี คล้ายๆ กับ เชียร์เรอร์ และ เนวิลล์ เพราะทั้งสามคนมั่นใจเกินเหตุ ตัดสินใจรับงานคุมทีมใหญ่ที่กำลังอยู่ในภาวะวิกฤตแต่สุดท้ายก็ไม่สามารถกู้ทีมให้ทีมกลับมาดีดังเดิมได้ อองรี คุม โมนาโก สโมสรแจ้งเกิดของเขาที่กำลังดำดิ่งอยู่ในโซนท้ายตาราง ลีกเอิง ได้แค่ 20 เกมในระยะเวลาสามเดือนก็ถูกปลดออกจากตำแหน่ง พวกเขาชนะแค่สองเกมในลีกจากทั้งหมด 12 เกมที่ดาวดังชาวฝรั่งเศสคุมทัพ นอกจากจะไม่ดีขึ้นแล้วปัจจุบัน โมนาโก ยังสุ่มเสี่ยงต่อการตกชั้นมากๆ รั้งตำแหน่งรองบ๊วยมีแต้มมากกว่าอันดับสุดท้ายแค่คะแนนเดียว