ONE Championship

“แสตมป์” เหมือนยกภูเขาจากอก ลบปมคาใจ เอาชนะได้อย่างใสสะอาด

“แสตมป์ แฟร์เท็กซ์” นักสู้สาวแกร่งขวัญใจชาวไทย หลังเฉือนชนะคู่ปรับเก่า “อาลีโอนา ราสโซฮินา” จอมเก๋าจากยูเครนไปได้แบบไม่เอกฉันท์จากการแข่งขัน เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ รุ่นอะตอมเวตหญิง รอบแรกในศึก ONE: EMPOWER เมื่อ 3 ก.ย.64 ก็ออกมาเปิดเผยว่ารู้สึกโล่งใจที่สามารถลบล้างปมในใจจากกรณีดรามาเมื่อครั้งก่อน…

Home / SPORT / “แสตมป์” เหมือนยกภูเขาจากอก ลบปมคาใจ เอาชนะได้อย่างใสสะอาด

“แสตมป์ แฟร์เท็กซ์” นักสู้สาวแกร่งขวัญใจชาวไทย หลังเฉือนชนะคู่ปรับเก่า “อาลีโอนา ราสโซฮินา” จอมเก๋าจากยูเครนไปได้แบบไม่เอกฉันท์จากการแข่งขัน เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ รุ่นอะตอมเวตหญิง รอบแรกในศึก ONE: EMPOWER เมื่อ 3 ก.ย.64 ก็ออกมาเปิดเผยว่ารู้สึกโล่งใจที่สามารถลบล้างปมในใจจากกรณีดรามาเมื่อครั้งก่อน แต่ยอมรับว่ายังไม่พอใจผลงานด้วยเหตุผลด้านสภาพร่างกาย

 แสตมป์ เผยว่ากรณีดรามาเรื่อง “แท็ป-ไม่แท็ป” ในครั้งก่อนยังก่อกวนจิตใจมาตลอด และสร้างความกดดันให้เธออยู่ไม่น้อย ชัยชนะครั้งนี้จึงมีความหมายมาก เนื่องจากเป็นการพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเธอก็มีดีที่จะเอาชนะนักสู้ที่แข็งแกร่งและมากประสบการณ์อย่าง อาลีโอนา อย่างขาวสะอาด

ในการกลับมาล้างตาครั้งนี้ นักสู้สาวชาวระยองตั้งใจฝึกซ้อมเพื่อที่จะพัฒนาและแก้เกมของคู่ต่อสู้มาอย่างละเอียดรอบคอบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแก้ท่าล็อกแขน อาร์มบาร์ ซึ่งเป็นท่าไม้ตายเพชฌฆาตของ อาลีโอนา ที่เคยเผด็จศึกคู่แข่งมานับ 10 ครั้ง โดย แสตมป์ เปิดใจว่า  

“หนูคิดว่าหนูพอใจในทักษะบราซิลเลียนยิวยิตสูที่ฝึกซ้อมมา เพราะสามารถแก้การล็อกแขนและซับมิชชันของ อาลีโอนา ได้ดี  แต่สำหรับเกมยืนที่หนูเตรียมเอามาสู้ หนูคิดว่ายังไม่ดีเลย เพราะเรากังวลในเรื่องการใช้แรง กลัวว่าเราจะหมดก่อนจบเกม การออกอาวุธแต่ละครั้งจึงต้องหวังผล เลยต้องใช้สติอย่างหนัก และต้องชกอย่างรัดกุมมากค่ะ อีกทั้งยังมีอาการบาดเจ็บเล็ก ๆ น้อย ๆ จากการฝึกซ้อม ซึ่งหากเดินเกมแบบผลีผลามไปอาจทำให้เจ็บตัวเพิ่ม และเป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำได้ค่ะ”

“หนูคิดตลอดว่า ไฟต์นี้แพ้ไม่ได้ หนูจึงต้องสู้เต็มที่ไม่ว่าจะยังไง และก็ดีใจที่ชนะ แม้จะชนะแบบสูสีมาก แต่เท่านี้หนูก็ดีใจมากแล้ว เพราะทำให้หนูลบข้อครหาที่เคยมีมาได้หมด”

“การเป็นหนึ่งในการแข่งขัน เวิลด์​ กรังด์ปรีซ์ หนูรู้สึกเป็นเกียรติและภูมิใจที่ได้เป็นตัวแทนของประเทศ ตอนนี้คงยังตอบไม่ได้ว่ามั่นใจที่จะคว้าแชมป์ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่หนูมุ่งมั่นที่จะไปให้ไกลที่สุดและจะทำอย่างเต็มที่ในทุกไฟต์ค่ะ”

“การมาถึงจุดนี้ได้ หนูคิดว่าตัวเองก็เก่งพอสมควร เพราะหนูมาจากมวยไทย และค่อย ๆ พัฒนาตัวเองในสาย MMA การได้ลงแข่งในศึก เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ ซึ่งเป็นที่รวมยอดฝีมือระดับโลก หนูว่าหนูก็เดินมาไกลเกินที่ฝันไว้ แต่ก็จะยังไม่หยุดพัฒนาตัวเองต่อไปค่ะ”