ในแวดวงมอเตอร์สปอร์ตของไทยรวมทั้งในระดับนานาชาติ ต้องรู้จัก คุณอาร์โต้-สุทธิพงศ์ สมิตชาติผู้บริหารหนุ่มใหญ่วัย 65 ปี ที่มีความหลงใหลในเครื่องยนต์ และชื่นชอบความเร็วมากว่า 3 ทศวรรษ และอีกบทบาทหนึ่งคือ ประธานบริษัท ทีอาร์ดี (ไทยแลนด์) จำกัด ผู้อำนวยการทีมและนักแข่ง “โตโยต้า กาซู เรซซิ่ง ทีมไทยแลนด์” กับผลงานโดดเด่นในปี 2564 สามารถสร้างประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ให้กับวงการมอเตอร์สปอร์ตของประเทศไทย
ด้วยการนำทีมแข่งรถสัญชาติไทยไปคว้าแชมป์อันดับที่ 1 และ 3 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ในการแข่งขันมาราธอนทางเรียบ 24 ชม. สุดโหดระดับตำนาน “49th ADAC Total 24h-Race Nürburgring 2021” ได้สำเร็จ และยังนับเป็นคนไทยคนแรกในประวัติศาสตร์ที่ได้รับมอบรางวัลเกียรติยศ ‘Ambassador of the Year’ จาก ADAC 24h Nürburgring Series ในฐานะบุคคลที่มีความมุ่งมั่นทุ่มเท และมีส่วนร่วมในการผลักดันให้การแข่งขัน 24 ชม. นูร์เบอร์กริง ณ เมืองนูร์เบอร์ก ประเทศเยอรมนี ได้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายในประเทศไทย และช่วยยกระดับวงการกีฬามอเตอร์สปอร์ตไทยให้เป็นที่รู้จักในรายการระดับโลก
จุดเริ่มต้นในวงการมอเตอร์สปอร์ต ของคุณสุทธิพงศ์ สมิตชาติ
ย้อนกลับไปเมื่อครั้ง คุณสุทธิพงศ์เดินทางไปศึกษาต่อในระดับปริญญาตรี สาขาสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัย Nihon University ที่ประเทศญี่ปุ่น จนได้เข้าร่วมชมรมแข่งรถของมหาวิทยาลัย ก่อนที่เจ้าของอู่ประจำจะชวนเข้าร่วมเป็นนักแข่งในทีม จนเรียนจบ ได้เข้าทำงานเป็นสถาปนิกที่บริษัทแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น ควบคู่ไปกับการแข่งรถ จนในที่สุดตัดสินใจลาออกจากงานไปอยู่ทีมแข่งรถอย่างเต็มตัว และนับเป็นการ “เปิดโอกาส” ให้ได้ใกล้ชิดกับทีมทีอาร์ดี (TRD) ญี่ปุ่น ได้คลุกคลีกับทีมงาน อุปกรณ์ อะไหล่ และได้รู้จักมักคุ้นกับผู้ใหญ่มากขึ้นเรื่อย ๆ
จนกระทั่งปี 2529 คุณอาร์โต้ได้รับโอกาสจากผู้ใหญ่ใน TRD ให้กลับมาสร้างทีมแข่งรถที่เมืองไทย ก่อตั้ง ทีอาร์ดี ไทยแลนด์ และร่วมมือกับบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ก่อตั้งทีมและเซ็นสัญญาภายใต้ชื่อ โตโยต้า ทีมไทยแลนด์ (Toyota Team Thailand) ยาวนานกว่า 30 ปี ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นชื่อ โตโยต้า กาซู เรซซิ่ง ทีมไทยแลนด์ (Toyota Gazoo Racing Team Thailand) ตามนโยบายของโตโยต้า คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น ในปี พ.ศ. 2560 เป็นต้นมา
เกียรติประวัติและผลงาน
เริ่มต้นในปี พ.ศ.2529 คุณสุทธิพงศ์ ได้รับการสนับสนุนให้ตั้งทีมเพื่อลงแข่งขันในนาม “โตโยต้า ทีมไทยแลนด์” ในการแข่งขันไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ เป็นครั้งแรกที่สนามพีระเซอร์กิตฯ สามารถคว้าชัยชนะเป็นแชมป์คนแรกของประเทศได้อีกด้วย จนในปี พ.ศ. 2541 คุณสุทธิพงศ์ ยังได้รับโอกาสเป็นผู้จัดการแข่งขัน Toyota One Make Race รายการ “โตโยต้า กาซู เรซซิ่ง มอเตอร์สปอร์ต” การแข่งขันรถยนต์ทางเรียบแบบ One Make Race ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยอีกด้วย
และในฐานะ ผอ.ทีม โตโยต้า กาซู เรซซิ่ง ทีมไทยแลนด์ คุณสุทธิพงศ์ และนักแข่งทีมได้ร่วมลงแข่งขันในทุกรายการใหญ่ของประเทศ ทั้ง Thailand Super Series, RAAT Thailand Endurance Championship, Super Endurance จนถึงวันนี้ รวมเวลากว่า 35 ปีแล้ว ที่ทำงานอย่างหนักด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจ จนสามารถสร้างชื่อเสียงไปไกลถึงระดับนานาชาติ พิสูจน์ได้จากรางวัลที่ได้รับจากในประเทศและต่างประเทศ อย่าง ADAC 24-Hour Race Nürburgring ซึ่งในปี พ.ศ. 2563 โตโยต้า กาซู เรซซิ่ง ทีมไทยแลนด์ สามารถคว้าแชมป์ในทุกรายการที่ลงแข่งขัน
ความภาคภูมิใจนำทีมเข้าสู่การแข่งขันระดับอินเตอร์เนชั่นแนล
คุณสุทธิพงศ์ ได้ผลักดันให้ทีมร่วมการแข่งขันในระดับนานาชาติตั้งแต่ในภูมิภาค และในปี พ.ศ. 2557 กับก้าวแรกที่ผลักดันให้ทีมแข่งรถสัญชาติไทย ทีมแรกและทีมเดียว เข้าร่วมแข่งขันในรายการระดับเวิลด์กรังด์ปรีซ์ในตำนานของวงการมอเตอร์สปอร์ตอย่าง ADAC 24-Hour Race Nürburgring ซึ่งเป็นรายการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบแบบ 24 ชั่วโมง ที่ผู้ผลิตรถยนต์จากทั่วโลกใช้ในการพัฒนาและทดสอบรถยนต์ก่อนจะวางขายในตลาด
โดย โตโยต้า กาซู เรซซิ่ง ทีมไทยแลนด์ สามารถสร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์ 2 สมัย ในปี 2563-2564 ที่สำคัญทางรายการแข่งขันฯ ยังได้มอบรางวัลพิเศษ ‘Ambassador of the Year’ ให้กับคุณสุทธิพงศ์ นับเป็นคนไทยคนแรกที่ได้รับรางวัลทรงเกียรติจากสนามการแข่งขันระดับโลกแห่งนี้ สมกับที่ได้รับการยกย่องเป็น “The Legend of Thai Motorsport”
เป้าหมายต่อไปในวงการมอเตอร์สปอร์ต ของคุณสุทธิพงศ์ สมิตชาติ
คุณสุทธิพงศ์ วางเป้าหมายจะเดินหน้าพัฒนาวงการมอเตอร์สปอร์ตของไทยต่อไป และพร้อมจะผลักดันให้นักแข่งรุ่นใหม่ได้มีโอกาสลงแข่งขันในระดับนานาชาติมากขึ้น โดยเรามี โตโยต้า กาซู เรซซิ่ง อคาเดมี่ เป็นสถาบันฝึกอบรมนักแข่ง ถ้าผ่านการคัดเลือกก็จะได้ลงแข่งขันในรายการโตโยต้า กาซู เรซซิ่ง มอเตอร์สปอร์ต ซึ่งมีระดับในการแข่งขัน เป็นการฝึกฝีมือ เช่น แข่งรุ่น วีออส วันเมคเรซ ถ้าได้แชมป์ก็สามารถไปแข่งรุ่น โคโรลล่า อัลติส จีอาร์ สปอร์ต วันเมคเรซ ต่อไปได้ คือ ถ้านักแข่งสามารถทำผลงานดี ก็อาจได้รับเลือกให้พัฒนาฝีมือต่อไปในทีมได้
เราอยากให้นักแข่งรุ่นใหม่มีประสบการณ์ และให้เข้าใจว่าการแข่งรถเป็นอย่างไร ให้เรียนรู้กติกาของการแข่ง การแข่งขันกับคนหมู่มาก ทุกอย่างต้องเรียนรู้ เพราะหากผ่านรายการแข่งขันนี้แล้ว จะไปแข่งต่อในรายการอินเตอร์สนามไหนก็ไม่ยากแล้ว