ONE Championship

รสชาติของชีวิตแชมป์โลก “แสตมป์” กับการปรับตัวในนาทีที่ไร้บัลลังก์

“แสตมป์ แฟร์เท็กซ์” เปิดใจถึงชีวิตอดีตแชมป์โลกที่ไม่ได้สวยหรูอย่างที่คิด เคยเผชิญเจอวิกฤติหนักหนาที่สุด ทั้งเรื่องงานและความรัก แต่ก็ทำให้เธอมองเห็น “เพื่อนแท้” และเรียนรู้ที่จะเดินหน้าต่ออย่างแข็งแกร่งยิ่งกว่าเดิม  ย้อนกลับไปในเดือนตุลาคมปี 2561 แสตมป์ ประกาศศักดาความยิ่งใหญ่บนสังเวียน วัน แชมเปียนชิพ ด้วยการกำราบ “ไค่ ถิง ฉวง” แชมป์โลกสาวชาวจีน-ไทเป…

Home / SPORT / รสชาติของชีวิตแชมป์โลก “แสตมป์” กับการปรับตัวในนาทีที่ไร้บัลลังก์

“แสตมป์ แฟร์เท็กซ์” เปิดใจถึงชีวิตอดีตแชมป์โลกที่ไม่ได้สวยหรูอย่างที่คิด เคยเผชิญเจอวิกฤติหนักหนาที่สุด ทั้งเรื่องงานและความรัก แต่ก็ทำให้เธอมองเห็น “เพื่อนแท้” และเรียนรู้ที่จะเดินหน้าต่ออย่างแข็งแกร่งยิ่งกว่าเดิม 

ย้อนกลับไปในเดือนตุลาคมปี 2561 แสตมป์ ประกาศศักดาความยิ่งใหญ่บนสังเวียน วัน แชมเปียนชิพ ด้วยการกำราบ “ไค่ ถิง ฉวง” แชมป์โลกสาวชาวจีน-ไทเป กระชากเข็มขัดแชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นอะตอมเวต มาครองได้สำเร็จ ต่อมาไม่นานก็คว้าเข็มขัดเส้นที่สองหลังเอาชนะ “เจเน็ต ทอดด์” คู่ชิงสาวจอมแกร่งลูกครึ่งญี่ปุ่น-อเมริกัน นั่งบัลลังก์แชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นอะตอมเวต ในเดือนกุมภาพันธ์ 2562 ครองตำแหน่งนักกีฬาการต่อสู้หญิงสองประเภทกีฬาคนแรกและคนเดียวของโลก

แน่นอนว่าไม่มีใครอยู่จุดสูงสุดได้ตลอดกาล หนึ่งปีให้หลัง แสตมป์ ต้องเผชิญกับฝันร้ายโดยถูกอริเก่า เจเน็ต ทอดด์ กระชากเข็มขัดคิกบ็อกซิ่ง ในเดือนกุมภาพันธ์ 2563 จากนั้นอีก 6 เดือนต่อมา แสตมป์ ก็ต้องใจสลายเมื่อเข็มขัดแชมป์โลก ONE มวยไทยที่เหลืออยู่เส้นสุดท้ายปลิวไปต่อหน้าต่อตาด้วยฝีมือของนักสู้น้องใหม่ “อัลลิเซีย เฮลเลน รอดริเกส”

ไม่เพียงเท่านั้น แสตมป์ ยังเผชิญกับปัญหาส่วนตัวเรื่องหัวใจที่รุมเร้าเข้ามาพร้อมกัน โดยเธอยอมรับว่าช่วงปีนั้นเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ที่สุดในชีวิตจนเกือบเอาตัวไม่รอด แต่การเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้เธอมองเห็นสัจธรรม พร้อมกับยืนยันว่า มันคือช่วงเวลาที่ดีที่สุดในชีวิต!

“ตอนที่เสียแชมป์ รู้สึกเลยว่าตัวเองได้รับความสนใจน้อยลงค่ะ จากที่ไปไหนมาไหนมีคนพูดถึงว่าเป็นแชมป์โลกสองเข็มขัด ตอนนี้ก็แผ่วลง การเสียเข็มขัดมันเป็นเรื่องงาน เรื่องความรักมันเป็นเรื่องส่วนตัว แต่ทั้งสองเรื่องก็เกือบทำให้ แสตมป์ เอาตัวไม่รอดเหมือนกันค่ะ ยอมรับว่ามันหนัก แต่มันคือช่วงที่ดีที่สุดในชีวิต ตอนที่เรามีชื่อเสียง มีทุกอย่าง มีคนรอบข้างเต็มไปหมด แต่ตอนที่เราไม่เหลืออะไรเลย ทั้งเข็มขัดและความรัก เราได้รู้ว่าใครอยู่ข้างเราบ้าง ใครจริงใจกับเราบ้าง เราได้มองเห็นภาพที่ชัดเจนขึ้น”

ถามว่าไม่มีเข็มขัดแล้วกดดันไหม เราก็ไม่กดดันนะคะ สิ่งที่เราต้องทำคือพัฒนาตัวเอง แก้ไขจุดบกพร่อง ให้กำลังใจตัวเอง ข้างหน้ายังมีอะไรที่เราต้องทำอีกเยอะ และยังมีคนรอบข้างที่คอยพูดให้กำลังใจทุกวัน ทั้งที่ค่าย และครอบครัว ทุกคนบอกว่าเราต้องกลับมา แม้จะต้องใช้เวลา แต่เราก็ต้องก้าวผ่านจุดนั้นให้ได้ค่ะ”