ม.เกริก รับโอวาท มท.3 วิจัยพัฒนาฮัจย์

นักศึกษา ม.เกริก เข้ารับโอวาท มท.3 ก่อนบินฝึกปฏิบัติงานฮัจย์ ปีนี้ รุ่นที่ 2 พร้อมวิจัยพัฒนาฮัจย์

ศ.ดร.จรัญ มะลูลีม รองอธิการบดีฝ่ายการต่างประเทศ และคณบดีวิททยาลัยนานาชาติอิสลามกรุงเทพ ได้มอบหมายให้ อ.อำพล ขำวิลัย ผู้ช่วยกรรมการบริหารมหาวิทยาลัยเกริกฝ่ายวิเทศสัมพันธ์ และรองคณบดีฝ่ายวิชาการวิทยาลัยนานาชาติอิสลามกรุงเทพ และ อ.สราวุธ และซัน ผู้ช่วยกรรมการบริหารมหาวิทยาลัยเกริกฝ่ายยุทธศาสตร์ และรองคณบดีฝ่ายบริหาร วิทยาลัยนานาชาติอิสลามกรุงเทพ…

Home / Other / นักศึกษา ม.เกริก เข้ารับโอวาท มท.3 ก่อนบินฝึกปฏิบัติงานฮัจย์ ปีนี้ รุ่นที่ 2 พร้อมวิจัยพัฒนาฮัจย์

ศ.ดร.จรัญ มะลูลีม รองอธิการบดีฝ่ายการต่างประเทศ และคณบดีวิททยาลัยนานาชาติอิสลามกรุงเทพ ได้มอบหมายให้ อ.อำพล ขำวิลัย ผู้ช่วยกรรมการบริหารมหาวิทยาลัยเกริกฝ่ายวิเทศสัมพันธ์ และรองคณบดีฝ่ายวิชาการวิทยาลัยนานาชาติอิสลามกรุงเทพ และ อ.สราวุธ และซัน ผู้ช่วยกรรมการบริหารมหาวิทยาลัยเกริกฝ่ายยุทธศาสตร์ และรองคณบดีฝ่ายบริหาร วิทยาลัยนานาชาติอิสลามกรุงเทพ นำคณาจารย์และนักศึกษาเข้าพบ นายชาดา ไทยเศรษฐ์รัฐมนตรีช่วยมหาดไทย เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2567 ที่ผ่านมา ณ กระทรวงมหาดไทย

นายชาดา ไทยเศรษฐ์ ได้กล่าวว่า การบริหารจัดการฮัจญ์เป็นเรื่องที่สำคัญ ประเทศไทยถือเป็นประเทศที่เปิดกว้างให้กับชาวมุสลิมได้ประกอบศาสนกิจอย่างมีเกียรติ กระทรวงมหาดไทยมีหน้าที่รับผิดชอบดูแลกิจการฮัจญ์ของประเทศไทยโดยตรง มีงบประมาณสนับสนุน และมีหน่วยงานที่อำนวยความสะดวกในช่วงพิธีฮัจญ์ ทั้งฝ่ายเจ้าหน้าที่รัฐ หมอ พยาบาล เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบพิธีฮัจญ์ชาวไทยและคำนึงถึงผลประโยชน์สูงสุดของผู้ประกอบพิธีฮัจญ์ที่อยู่ในช่วงของการเตรียมการเดินทางไปพิธีฮัจญ์ ณ ประเทศซาอุดีอาระเบีย จำนวน 7,738 คนในปีนี้

ท่านรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยยังได้เน้นย้ำอีกว่า “เราในฐานะคนรุ่นใหม่ ต้องคิดเป็นทำเป็น คำนึงถึงผลประโยชน์ของคนในชาติและส่วนรวมเป็นหลัก การบริหารจัดการฮัจญ์ต้องมีความยุติธรรม ทุกคนควรได้รับโอกาสเท่าๆกันในการไปประกอบพิธีฮัจญ์ด้วยความเหมาะสมทั้งด้านการบริการ ราคา และคุณภาพ
ผมขอให้ทุกๆ คนทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุด เป็นหน้าเป็นตาให้กับคนไทย สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับบริษัทมาชาริก ที่ทุ่มงบประมาณให้เราทุกคนได้มีโอกาสไปปฎิบัติหน้าที่สำคัญ ณ ประเทศซาอุดีอาระเบีย เพื่อมาปรับใช้กับการเรียน และการพัฒนากิจการฮัจญ์ไทยต่อไป”