เลเซอร์รักแร้มีข้อดีอย่างไร เรื่องที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจทำเลเซอร์ขน
เวลาอวดใต้วงแขนทีไรเสียความมั่นใจทุกที เนื่องจากผิวที่ขาดความเรียบเนียน แถมยังมีขนรักแร้ขึ้นหนาจนไม่น่ามอง หากคุณเป็นคนที่กำลังประสบปัญหาเหล่านี้ แต่การโกนขนรักแร้เองกลับไม่ตอบโจทย์ การทำเลเซอร์รักแร้อาจเป็นทางออกที่กำจัดขนที่ดีกว่า เพราะทั้งช่วยกำจัดขนและป้องกันการเกิดขนคุด
สำหรับคนที่อยากกำจัดขนด้วยเลเซอร์รักแร้ แต่ยังตัดสินใจไม่ได้ เพราะมีความกังวลว่า การกำจัดขนด้วย Laser รักแร้ นั้นจะออกมาเป็นอย่างไร บทความนี้ได้รวบรวมเรื่องที่ควรรู้ก่อนทำเลเซอร์ขนรักแร้เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจก่อนทำให้กับทุกคนแล้ว
ทำไมถึงควรทำเลเซอร์รักแร้ มีข้อดีอย่างไร?
เลเซอร์รักแร้ เป็นวิธีการกำจัดขนบริเวณใต้วงแขนด้วยเทคโนโลยีคลื่นพลังงานเลเซอร์ (Laser) ที่ช่วยทำลายเซลล์เม็ดสีและรากขนบริเวณรักแร้ พร้อมทั้งช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเส้นขน ทำให้ขนบริเวณรักแร้หลุดร่วงและขนกลับมาขึ้นใหม่ช้าลง
นอกจากนั้นแล้ว Laser ขนรักแร้ยังช่วยกระตุ้นคอลลาเจนและกระชับรูขุมขน ซึ่งส่งผลให้ผิวกลับมาเรียบเนียน รอยดำจางลง และลดกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ อีกทั้งวิธีกำจัดขนด้วยเลเซอร์ยังใช้เวลาไม่นาน ไม่ทำให้เกิดอาการผื่นแดง คัน แตกต่างจากการกําจัดขนรักแร้ด้วยตัวเอง จึงไม่แปลกเลยที่เลเซอร์รักแร้จะได้รับความนิยม
เลเซอร์รักแร้มีกี่แบบ แต่ละแบบเป็นอย่างไร?
ปัจจุบันเลเซอร์รักแร้มีหลายแบบ พร้อมด้วยคุณสมบัติที่แตกต่างกัน โดยเทคโนโลยีกำจัดขนที่ได้รับความนิยมมีดังนี้
- Nd: YAG Laser : เลเซอร์รักแร้ที่ผ่านการยอมรับว่ากำจัดขนได้ดีที่สุด ด้วยเลเซอร์ความยาวคลื่น 1,064 nm. สามารถกำจัดขนได้ลึกถึงรากขน และเหมาะกับทุกสภาพผิว เป็นเลเซอร์รักแร้ที่ได้ผลนาน เว้นระยะได้ ไม่ต้องทำบ่อย
- Diode laser : เลเซอร์ที่ช่วยกำจัดขนรักแร้ด้วยความยาวคลื่น 810 nm. เป็นที่นิยมสำหรับคนที่มีผิวสีอ่อน เส้นขนหนา ไม่เหมาะกับคนที่มีเส้นขนบางเพราะเลเซอร์จับเม็ดสีผิวได้ไม่ดี
- IPL : เทคโนโลยีแสงความเข้มข้นสูง (Intense Pulsed Light) เป็นนวัตกรรมที่สามารถกำจัดขนที่มีประสิทธิภาพ แต่จำเป็นต้องทำหลายครั้งอย่างต่อเนื่อง และไม่ค่อยเหมาะกับคนที่มีผิวสีเข้ม เพราะเสี่ยงต่อการเบิร์นได้ง่าย IPL ทำงานโดยการยิงแสงที่มีความยาวคลื่นหลายขนาดลงสู่ผิว
เปรียบเทียบเลเซอร์รักแร้กับวิธีการกำจัดขนแบบอื่น ๆ
หลังจากอ่านข้อมูลเลเซอร์รักแร้มาพอสมควรแล้ว หัวข้อนี้จะเป็นการเปรียบเทียบเลเซอร์ขนรักแร้กับวิธีการกำจัดขนแบบอื่น ๆ
การโกนหรือถอนขน
การโกนหรือถอนขนรักแร้ เป็นวิธีที่สะดวกสามารถทำด้วยตัวเองต่างจากการเลเซอร์รักแร้ แต่ขนที่ถอนออกมาจะไม่ค่อยเรียบร้อย เสี่ยงทำให้เกิดขนคุดและการบาดเจ็บจากมีดโกน
แว็กซ์ขน
แว็กซ์ขนเป็นวิธีการกำจัดขนที่รุนแรงและส่งผลเสียต่อผิว เพราะอาจทำให้ผิวอักเสบ เกิดแผลมีเลือดออกและเสี่ยงเป็นขนคุด การทำเลเซอร์ขนรักแร้ได้ผลลัพธ์ที่เรียบเนียนกว่า
เครื่องกำจัดขน
เครื่องกำจัดขนไฟฟ้าเป็นวิธีที่สามารถกำจัดขนรักแร้ด้วยตัวเอง ที่ต้องมีความชำนาญและเลือกเครื่องที่มีคุณภาพดี มิฉะนั้นจะเสี่ยงต่อการเบิร์นและเกิดขนคุดได้
ข้อควรระวังที่ควรรู้ก่อนทำเลเซอร์รักแร้
แม้ว่าเลเซอร์รักแร้จะเป็นวิธีการกำจัดขนที่ได้ผลดี แต่ยังมีข้อควรระวังและควรเตรียมความพร้อมก่อนซื้อคอร์สเลเซอร์ขนรักแร้ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ปลอดภัยที่สุด
โดยคนที่จะเตรียมตัวก่อนทำเลเซอร์ ควรหลีกเลี่ยงการสครับผิว การทาครีมที่มีส่วนผสมของกรด AHA BHA และ เรตินอยด์ เนื่องจากการกระทำเหล่านี้ทำให้ผิวอ่อนแอจากการผลัดเซลล์ผิว เสี่ยงต่อการระคายเคือง นอกจากนี้สำหรับผู้ที่เป็นโรคผิวหนังหรือมีอาการผิวหนังติดเชื้อ รวมถึงผู้ที่ทานยาต้านการแข็งตัวของเลือด ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเลือกทำหัตถการใด ๆ เพื่อความปลอดภัย
หลังเลเซอร์รักแร้มีขั้นตอนการดูแลตัวเองอย่างไร?
หลังเลเซอร์รักแร้เสร็จเรียบร้อยแล้ว จำเป็นต้องดูแลตัวเองตามคำแนะนำของแพทย์ โดยวิธีการดูแลต่าง ๆ มีดังนี้
- งดกิจกรรมที่ทำให้ร่างกายสัมผัสความร้อน เช่น ออกกำลังกาย ซาวน่า
- งดทาครีมหรือสารกำจัดกลิ่นบริเวณรักแร้อย่างน้อย 3 วัน
- หากมีอาการแสบร้อนต้องคอยประคบเย็นเป็นเวลา 15 นาที
- หลีกเลี่ยงการลงสระน้ำ ทะเล
- อย่าเกาบริเวณรักแร้เป็นเวลา 1 สัปดาห์
- ทามอยซ์เจอไรเซอร์เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว
เลเซอร์รักแร้วิธีกำจัดขนที่ได้ผลดี เจ็บน้อย ไม่เสี่ยงเป็นขนคุด
เลเซอร์รักแร้เป็นวิธีกำจัดขนที่ช่วยชะลอให้ขนกลับมาขึ้นช้าลง เหมาะสำหรับคนที่อยากกำจัดขนให้ผิวเรียบเนียน แต่ก่อนทำเลเซอร์ขนรักแร้ควรปรึกษาแพทย์และเตรียมความพร้อมก่อนกำจัดขน
หากลังเลว่าจะทำเลเซอร์รักแร้ที่ไหนดี เราอยากแนะนำให้ลองเลเซอร์ขนรักแร้กับ APEX Beauty ที่เปิดให้บริการเลเซอร์ขนมาแล้วกว่า 28 ปี มีแพทย์เฉพาะทางที่คอยให้คำแนะนำตั้งแต่การเลือกวิธีกำจัดขน ตลอดจนการทำเลเซอร์รักแร้กี่ครั้งถึงจะเห็นผล เลเซอร์รักแร้ราคาเท่าไหร่ โดยคุณหมอจะคอยดูแลทุกขั้นตอน ช่วยให้เรารู้สึกปลอดภัยตลอดการรักษา
