พร้อมสร้าง “เพลย์ฟูล ฮาร์ทแลนด์ (Playful Heartland)” สำหรับทุกช่วงวัย ด้วยสินค้า และประสบการณ์อันเป็นเอกลักษณ์ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้เกิดความคิดสร้างสรรค์และการสร้างความสัมพันธ์ เชื่อมั่นศักยภาพตลาดในประเทศไทยแข็งแกร่ง
กรุงเทพมหานคร, 13 ธันวาคม 2567 – ทอยส์”อาร์”อัส เอเชีย (Toys“R”Us Asia) ร้านจำหน่ายของเล่นชั้นนำในภูมิภาค เอเชีย ประกาศลุยเปิดตัว คอนเซ็ปต์ สโตร์ (Concept Store) แห่งแรกในประเทศไทย ที่ วัน แบงค็อก โครงการมิกส์ยูสสุดหรู สัญลักษณ์แห่งไลฟ์สไตล์และความโดดเด่นของเมืองไทย โดยได้เนรมิต คอนเซ็ปต์ สโตร์ แห่งแรกด้วยแนวคิด “Playful Heartland” หรือสถานที่แห่งการเล่นสนุกสำหรับทุกคนทุกช่วงวัย เพื่อสร้างประสบการณ์การช้อปปิ้งสุดประทับใจให้แก่ลูกค้า ผ่านการออกแบบและตกแต่งโดยผสานนวัตกรรม ดีไซน์ล้ำสมัย การมีส่วนร่วมกับชุมชน และสินค้าอันหลากหลายได้อย่างลงตัว เพื่อตอบโจทย์เด็ก ครอบครัว และกลุ่ม คิดดัลท์ (Kidult) หรือผู้ใหญ่ที่รักการเล่นของเล่น ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีอัตราเติบโตต่อเนื่อง
โดย Toys“R”Us เพิ่งปรับเปลี่ยนวิสัยทัศน์ใหม่ตามแนวทาง “ลีฟ ทอยฟูล (Live Toyful)” ซึ่งเป็นการมุ่งสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้คนมีไลฟ์สไตล์ที่เต็มไปด้วยความสนุกสนานผ่านของเล่นและกิจกรรมต่างๆ แนวทางใหม่นี้ช่วยให้ผู้คน โดยเฉพาะกลุ่ม คิดดัลท์ (Kidult) หรือกลุ่มผ้ใหญ่ที่รักการเล่นของเล่น ได้ค้นพบแบรนด์ รวมทั้งค้นหาหนทางใหม่ๆ ในการเล่นอีกครั้ง ซึ่งร้าน Toys”R”Us แห่งใหม่ที่ One Bangkok นี้สะท้อนถึงวิสัยทัศน์นี้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ผ่านการนำเสนอของเล่นที่หลากหลาย อาทิของเล่นแบบดั้งเดิม ของสะสม และสินค้าไลฟ์สไตล์ ในบรรยากาศที่สดใสและมีเอกลักษณ์แบบไทย
“ร้านแห่งใหม่ของเราในประเทศไทย ไม่ได้เป็นเพียงจุดหมายปลายทางสำหรับการช้อปปิ้ง แต่ยังเป็นพื้นที่แห่งจินตนาการ ความคิดสร้างสรรค์ และการเชื่อมต่อ” คุณอดีลีน เตียว ผู้จัดการทั่วไปของ Toys“R”Us ประจำสิงคโปร์ ประเทศไทย และบรูไน กล่าว “ร้านคอนเซ็ปต์ สโตร์ แห่งใหม่นี้ของเราสอดคล้องกับแนวคิดของ One Bangkok ซึ่งถือเป็นจุดหมายปลายทางแห่งนวัตกรรมและการมีส่วนร่วม ที่นี่คือพื้นที่ที่ครอบครัวและบุคคลทั่วไปจะได้ค้นพบความสุขจากการเล่น สร้างประสบการณ์ที่น่าจดจำ และเปิดรับโลกแห่งจินตนาการที่สดใสยิ่งขึ้น”
โดยลูกค้าสามารถเพลิดเพลินกับสินค้าภายในร้านที่คัดสรรมาอย่างดี พร้อมไฮไลท์ต่างๆ อาทิ:
- การออกแบบ “Portal to City Play”: ดีไซน์ทันสมัย เน้นความเรียบง่าย พร้อมสีสันที่กลมกลืนกับชีวิตในเมือง เหมาะสำหรับครอบครัวและกลุ่มคนทำงาน
- ความร่วมมือสุดเอ็กคลูซีฟกับแบรนด์ระดับโลก: สินค้าแบรนด์ดังระดับโลกมากมาย อาทิ เลโก้ (LEGO), บาร์บี้ (Barbie), และ ฮอต วีลส์ (Hot Wheels) พร้อมกับสินค้าสะสมและแบรนด์ IP ที่กำลังเป็นกระแส
- สินค้าสุดเอ็กคลูซีฟเพื่อกลุ่ม Kidult: อาทิ ของสะสมจาก คิลเลอร์บอดี้ (Killerbody) มาเวล (Marvel) และ ทรานสฟอร์เมอร์ (Transformers) ซึ่งมีจำหน่ายเฉพาะที่ Toys“R”Us พร้อมด้วย ไบลด์ บ็อกซ์ ไอพี (Blind Box IP) และโมเดลกันดั้ม
- ของเล่นสำหรับเด็ก: ไม่ว่าจะเป็น เรนโบว์คอร์น (Rainbocorns) เซอร์ไพรส์ไข่ยักษ์ ซึ่งเปิดตัวในประเทศไทยเป็นครั้งแรก เหมาะสำหรับเป็นของขวัญช่วงคริสต์มาส
- พื้นที่เล่นแบบอินเทอร์แอคทีฟ: พื้นที่สำหรับครอบครัวได้เล่นและสร้างความทรงจำร่วมกัน
- สัมผัสวัฒนธรรมท้องถิ่น: โซนพิเศษที่รวบรวมสินค้าที่มีแรงบันดาลใจจากวัฒนธรรมไทย เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวและคนท้องถิ่น.
การเปิดคอนเซ็ปต์ สโตร์ แห่งนี้ยังเป็นก้าวสำคัญสู่การเปิดร้าน Toys“R”Us สาขาใหม่อีกหนึ่งแห่งที่ไอคอนสยาม ซึ่งมีกำหนดเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ในวันที่ 9 มกราคม 2568 โดยทั้งสองสาขานี้จะสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ Toys“R”Us ในการสร้างแรงบันดาลใจผ่านไลฟ์สไตล์แห่งการเล่น พร้อมประสบการณ์ที่ออกแบบมาเพื่อตอบสนองกลุ่มครอบครัว เด็ก และวัยรุ่น
“การเปิดตัวร้านเหล่านี้ถือเป็นการเริ่มต้นการผจญภัยครั้งใหม่ที่น่าตื่นเต้นของ Toys“R”Us ในประเทศไทย! จากข้อมูลตลาดของเล่นและเกมที่คาดว่าจะเติบโตอย่างรวดเร็ว ด้วยอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) 7.5% ในอีก 5 ปีข้างหน้า ทำให้ Toys“R”Us เองพร้อมขยายการดำเนินงานควบคู่ไปกับการรักษาวัฒนธรรมการเล่นและความคิดสร้างสรรค์ ด้วยสินค้าและสร้างประสบการณ์ที่ตอบโจทย์ลูกค้าหลากหลายกลุ่ม ตั้งแต่เด็กเล็กไปจนถึงกลุ่ม Kidult” คุณอดีลีน เตียว กล่าวเสริม
ทั้งนี้ Toys“R”Us มีแผนที่จะขยายสาขาให้ครอบคลุมทั่วประเทศ เพื่อตอกย้ำพันธกิจในการสร้างประสบการณ์ที่สนุกสนานและเต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์สำหรับทุกเพศทุกวัย การขยายตัวนี้เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การเติบโตของ ทอยส์”อาร์”อัส เอเชีย (Toys“R”Us Asia) ซึ่งปัจจุบันมีร้านค้ากว่า 450 สาขาทั่วภูมิภาค และยังเปิดสาขาใหม่ในตลาดสำคัญ เช่น สิงคโปร์และฮ่องกง การขยายตลาดในประเทศไทยสะท้อนถึงความมั่นใจในศักยภาพการเติบโตของตลาด ซึ่งไม่ได้มีเพียงความต้องการของเล่นแบบดั้งเดิมเท่านั้น แต่ยังรวมถึงความนิยมที่เพิ่มขึ้นของสินค้าประเภทของสะสมและสินค้าไลฟ์สไตล์ที่ตอบโจทย์กลุ่ม Kidult ซึ่งกำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง