นางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม ร่วมกล่าวแสดงความยินดีในงานเฉลิมฉลองงิ้วไทย ครบรอบ 42 ปี ซึ่งจัดโดยมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ร่วมกับมูลนิธิส่งเสริมภาษาและวัฒนธรรม สมาคมอุปรากรศิลปะไทย-จีนแห่งประเทศไทย และสถาบันอุปรากรจีนแห่งชาติจีน โดยมี คุณสนั่น อังอุบลกุล นายกสภามหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ประธานกรรมการหอการค้า และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และประธานมูลนิธิส่งเสริมภาษาและวัฒนธรรม เป็นประธานการจัดงาน ร่วมด้วยคุณจรรย์สมร วัธนเวคิน นายกก่อตั้งสมาคมสตรีสัมพันธ์ ผู้บริหาร แขกผู้มีเกียรติ และผู้ที่สนใจเข้าร่วมชมการแสดง ณ หอประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยจำนวนมาก
ภายในงานยังมีพิธีลงนาม MOU ก่อตั้งศูนย์สืบสานอุปรากรจีนแห่งประเทศไทย การแสดงชุด “งิ้วไทย-จีน 12 ฉากสุดพิเศษครบรอบ 42 ปี” ได้แก่ 1. บทเพลงพระราชนิพนธ์ “ส้มตำ” ในสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ ขับร้องเป็นภาษาไทย-ภาษาจีน 2.บทกลอนพระราชนิพนธ์ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ พรปีใหม่ พ.ศ. 2567 ขับร้องเป็นภาษาไทย-จีน 3.งิ้วเปลี่ยนหน้ามณฑลเสฉวน 4.เปาบุ้นจิ้นพบลี้ไทเฮา 5.ต้าอวี่ผู้สยบฮวงโห 6.วีรบุรุษลือลิ้วเข้าสืบหาทางบ้านจวนตระกูลจุ๊ 7.เปลวไฟลามทุ่ง ดินฟ้าสว่างไสว 8.แม่นางไต้อี้ฝังดอกไม้ 9.แม่นางถ่อฮวยข้ามฟาก 10.นายอำเภอหมวกใบจาก 11.พบกันในฝัน 12.เจ้าจอมกุ้ยเฟยเมาสุรา
นางยุพา กล่าวอีกว่า ในนามกระทรวงวัฒนธรรม รู้ยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ที่ได้มาร่วมงานดังกล่าว การแสดงอุปรากรจีนหรือ “งิ้ว” เป็นภาษาไทย ได้จัดแสดงครั้งแรก ในงานสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี โดยเป็นการแสดงในรูปแบบผสมผสานศิลปวัฒนธรรมของไทยและจีนที่ลงตัวและสืบต่อมายาวนานจนปัจจุบัน ทั้งนี้ รู้สึกชื่นชมกับภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน ที่ได้บูรณาการการจัดงานร่วมกันและทำให้เกิดงานวันนี้ เพราะไม่เพียงแต่เป็นการเฉลิมฉลองมรดกทางวัฒนธรรมอันล้ำค่าร่วมกัน แต่ยังเป็นการย้ำเตือนให้เราเห็นถึงความสำคัญของงิ้วไทย ศิลปะการแสดงที่งดงามและทรงคุณค่า ดึงดูดผู้คนจากทั่วทุกมุมโลกให้มาสัมผัส กับมนต์เสน่ห์ของวัฒนธรรมไทย – จีน ที่มิใช่เป็นเพียงแค่การแสดง แต่ยังเป็นทูตวัฒนธรรมที่เชื่อมสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีนอีกด้วย
“หวังเป็นอย่างยิ่งว่าการจัดงานในครั้งนี้จะทำให้ทุกภาคส่วนได้ร่วมกันสืบสาน ส่งเสริม แลกเปลี่ยนวัฒนธรรม และเผยแพร่ศิลปะการแสดงอุปรากรไทย – จีน ให้คงอยู่คู่กับประเทศไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีนสืบไป” นางยุพา กล่าว
