มะเร็งปากมดลูกเป็นมะเร็งที่พบบ่อยเป็นอันดับสองในผู้หญิงไทยรองจากมะเร็งเต้านม เกิดจากการติดเชื้อเอชพีวี (HPV) ซึ่งเป็นเชื้อไวรัสที่ติดต่อทางเพศสัมพันธ์ มะเร็งปากมดลูกในระยะแรกมักไม่มีอาการ แต่หากอาการเริ่มแสดงออกแล้ว ลักษณะมะเร็งปากมดลูกที่หากพบอาการเหล่านี้บ่อย ก็ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยและรับการรักษาต่อไป ได้แก่
- เลือดออกผิดปกติทางช่องคลอด เช่น เลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์ เลือดออกระหว่างมีประจำเดือน หรือเลือดออกหลังหมดประจำเดือน
- ตกขาวผิดปกติ เช่น ตกขาวมีเลือดปน ตกขาวมีกลิ่นเหม็น
- ปวดท้องน้อย
- เจ็บขณะมีเพศสัมพันธ์
- ประจำเดือนมาไม่ปกติ
การป้องกันมะเร็งปากมดลูก
มะเร็งปากมดลูกเป็นมะเร็งที่เกิดจากเชื้อไวรัส Human Papillomavirus (HPV) ซึ่งติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ซึ่งมีการป้องกันไม่ให้เกิดลักษณะมะเร็งปากมดลูกได้หลายวิธี ดังนี้
- ฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อ HPV วัคซีน HPV สามารถป้องกันการติดเชื้อ HPV ได้ถึง 90% วัคซีน HPV แนะนำให้ฉีดตั้งแต่อายุ 9-45 ปี โดยฉีด 2-3 เข็ม ห่างกัน 2-6 เดือน
- ใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ ถุงยางอนามัยสามารถช่วยป้องกันการติดเชื้อ HPV ได้บางส่วน แต่ไม่สามารถป้องกันได้อย่างสมบูรณ์
- ตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกเป็นประจำทุกปี การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกสามารถช่วยตรวจหาเซลล์ผิดปกติที่อาจกลายเป็นมะเร็งได้ หากตรวจพบเซลล์ผิดปกติแต่เนิ่นๆ ก็สามารถรักษาให้หายขาดได้
ผู้หญิงทุกคนควรฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อ HPV และตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกเป็นประจำทุกปี เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งปากมดลูก
คำแนะนำในการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก
- ผู้หญิงอายุ 21-65 ปี ควรตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกทุก 3 ปี
- ผู้หญิงอายุ 30 ปีขึ้นไปที่ผ่านการตรวจคัดกรองผลปกติ 3 ครั้งติดต่อกัน อาจเปลี่ยนเป็นการตรวจคัดกรองทุก 5 ปี
- ผู้หญิงที่เคยติดเชื้อเอชพีวี ควรตรวจคัดกรองทุกปี
การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกเป็นการตรวจลักษณะมะเร็งปากมดลูกเพื่อหาเซลล์ผิดปกติที่อาจกลายเป็นมะเร็งได้ หากตรวจพบเซลล์ผิดปกติแต่เนิ่น ๆ ก็สามารถรักษาให้หายขาดได้
การรักษามะเร็งปากมดลูก
การรักษาตามลักษณะมะเร็งปากมดลูกจะขึ้นอยู่กับระยะของโรค ซึ่งโดยทั่วไปมะเร็งปากมดลูก สามารถรักษาได้ด้วยวิธี ดังนี้
- ระยะก่อนมะเร็ง การรักษาจะขึ้นอยู่กับความรุนแรงของเซลล์ผิดปกติ โดยทั่วไปจะใช้วิธีการจี้ทำลายเซลล์ผิดปกติด้วยกระแสไฟฟ้าหรือเลเซอร์ หรือใช้วิธีตัดชิ้นเนื้อออกเพื่อส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ หากเซลล์ผิดปกติมีความรุนแรงมาก อาจจำเป็นต้องทำการผ่าตัดเพื่อเอาปากมดลูกออกบางส่วนหรือทั้งหมด
- ระยะเริ่มต้น การรักษาหลักคือการผ่าตัดเพื่อเอาปากมดลูกออกบางส่วนหรือทั้งหมด ร่วมกับการฉายรังสีหรือเคมีบำบัด
- ระยะลุกลาม การรักษาจะขึ้นอยู่กับตำแหน่งและขนาดของก้อนมะเร็ง โดยทั่วไปจะใช้วิธีการผ่าตัดเพื่อเอาปากมดลูกและมดลูกออกทั้งหมด ร่วมกับการฉายรังสีหรือเคมีบำบัด
นอกจากนี้การรักษามะเร็งปากมดลูกอาจรวมถึงการให้ยาแก้ปวดและยาต้านการอักเสบ เพื่อบรรเทาลักษณะมะเร็งปากมดลูก ลดอาการปวด บวม และอักเสบจากการรักษา