วันนี้ หรอยจัง ขอเอาใจสายบุญ พาไหว้พระพุทธรูปที่ใหญ่ที่สุด ในจังหวัดกาญจนบุรี กันค่ะ ที่ “วัดถ้ำเสือ” วัดสุด Unseen ของเมืองกาญ ที่นี่มีไฮไลท์ คือ เจดีย์ทรงแปดเหลี่ยม สูงใหญ่โดดเด่นอลังการ มีสถาปัตยกรรมที่สวยงามตระการตาแวดล้อมไปด้วยทิวทัศน์ที่สวยงาม ใครขับรถผ่านไปมาก็จะสามารถมองเห็นได้จากระยะไกลๆ กันเลยทีเดียวค้า.. นอกจากที่นี่จะเลื่องลือในเรื่องของความสวยงามมากๆ แล้ว ที่ วัดถ้ำเสือ ยังมีเรื่องราวที่น่าสนใจอีกเพียบเลย!! เรียกได้ว่า มาเที่ยวที่ วัดถ้ำเสือ แห่งนี้ นอกจากจะได้มาทำบุญไหว้พระสักการะแล้ว ยังได้ชมวิวสวยๆ ของ เมืองกาญ ไปอีกด้วย ใครสายบุญ สายเที่ยว งานนี้ห้ามพลาดเลยนะคะ
มาเริ่มกันเลยค่ะ หรอยจัง ก็จะขอเล่าถึง ประวัติคร่าวๆ ของ วัดถ้ำเสือ ให้ทุกคนได้รู้จักกันก่อนค่ะ วัดถ้ำเสือ เป็นวัดสวยและเป็นสถาน ที่เที่ยวกาญจนบุรี เป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองชาวท่าม่วง ที่มีประวัติยาวนานมาตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2516 เป็นวัดประเภทวัดราษฎร์ ที่มีพื้นที่ใหญ่ไม่เป็นรองใคร และเป็นที่ประดิษฐานของหนึ่งในพระพุทธรูปที่สูงที่สุดในประเทศไทย นั่นก็คือ หลวงพ่อชินประทานพร นั่นเองค่ะ ซึ่งหลวงพ่อชินประทานพร เป็นพระพุทธรูปที่มีอิริยาบถนั่งขัดสมาธิ แบบปางพระทานความสูง 9 วา 9 นิ้ว หน้ากว้างกว้ากว่า 3 วา 9 ศอก รอบองค์พระมีเรือนแก้วครอบรอบองค์ ทั้งสองข้างตกแต่งด้วยลวดลวดพญานาค เลื้อยทอดยาวลงมาจากด้านบน สวยงามมาก และมีการประดับกระเบื้องทองทั่วองค์ และนอกจากนี้ภายในวัดยังประกอบไปด้วยอาคารและเจดีย์ ที่มีสถาปัตยกรรมไทย, จีน, ญี่ปุ่น และผสมผสาน เดิมเป็นสำนักสงฆ์ขนาดเล็กในบริเวณถ้ำเสือด้านล่างริมเนินเขา ต่อมาชาวบ้าน ร่วมกันสร้างและบูรณะ จนกลายเป็นวัดที่ใหญ่โต และมีความวิจิตรงดงามตระการตา แถมยังมีบรรยากาศที่ดีรอบด้านอีกด้วย ด้านหน้าวัดเป็นแม่น้ำแม่กลอง ล้อมรอบไปด้วยท้องทุ่งนาอันเขียวขจี ไม่ว่าจะมองไปมุมไหนก็ให้สัมผัสที่สดชื่นสบายตาสุดๆ เลยค่ะ
ไฮไลท์ ของ วัดถ้ำเสือ เป็นวัดที่มีความสวยงาม วิจิตร ยิ่งใหญ่และตระการตามากๆ ค่ะ ตัววัดนั้นตั้งอยู่บนยอดเขา ในอำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี ติดกับวัดถ้ำเขาน้อยซึ่งเป็นวัดจีนตั้งอยู่ด้านหลัง อีกทั้งยังอยู่ใกล้สถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดี อาทิเช่น แพกาญจนบุรี นอกจากจะได้มาทำบุญถ่ายรูปสวยๆ พร้อมชมวิวทิวทัศน์ที่ล้อมรอบไปด้วยทุ่งนาแล้ว บรรยากาศที่นี่ยังร่มรื่น เงียบสงบ เหมาะกับการมาทำบุญไหว้พระ หรือ จะมาปฏิบัติธรรมก็ตอบโจทย์สุดๆ เลยค่ะ นอกจากทิวทัศน์โดยรอบจะสวยสะกดใจนักท่องเที่ยวแล้ว ภายในวัดยังโดดเด่นด้วย พระพุทธรูปปางประทานพรขนาดใหญ่ ตัวองค์พระจะประดับด้วยโมเสคสีทอง ประดิษฐานอยู่บนเนินเขา พร้อมพระอุโบสถอัฏฐมุขทรงไทยประดับลวดลายสวยงามและเจดีย์เกษแก้วมหาปราสาทสูง 69 เมตร กว้าง 29 เมตร นักท่องเที่ยวสามารถเดินขึ้นหรือจะนั่งกระเช้าขึ้นไปบนวัดได้ โดยเมื่อขึ้นไปเราจะสามารถมองเห็นทิวทัศน์ที่สวยงามของทะเลสาบและเขื่อนวชิราลงกรณ์ ได้ในมุมแบบกว้างๆ ไปอีกด้วย ซึ่งถือเป็นเสน่ห์ของ วัดถ้ำเสือ แห่งนี้ เลยล่ะค่ะ ถ้าใครผ่านมาจังหวัดกาญจนบุรี อย่าลืมแวะมาไหว้พระ ทำบุญกันได้นะคะ ส่วนใครที่อยากจะไปเที่ยวต่อกาญจนบุรี เขาก็มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายหลายแนวให้ตามเช็คอินกันแบบจุใจไปเลย ไม่ว่าคุณจะอยากมาเที่ยวพักผ่อนหรือเดินสายทำบุญ ที่พักกาญจนบุรี ก็มีให้ได้เลือกหลากหลายสไตล์เลยล่ะค่ะ รับรองว่าใครได้มาเที่ยวที่นี่ ได้อิ่มเอมทั้งการทำบุญและได้ชมวิวสวยๆ ของ เมืองกาญ ไปอีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นวัดที่สามารถชมวิวได้แบบ 360 องศา กันเลยทีเดียว
ความน่าสนใจของ วัดถ้ำเสือ ที่มาแล้วจะต้องไปให้เห็นกับตาของตัวเอง นั่นก็คือ วิวทิวทัศน์สุดอลังการของที่นี่ เมื่อขึ้นไปแล้วมองลงมาจากเนินเขาของตัววัด ด้านหลังจะเป็นวิวทุ่งนาสุดลูกหูลูกตา ส่วนด้านหน้าวัดจะเป็นวิวบ้านเรือนของชาวบ้านและแม่น้ำแม่กลอง ขอบอกว่าวิวสวยจึ้งมาก ห้ามพลาดที่จะพบกล้องไปถ่ายรูปกันนะคะ วัดแห่งนี้เปิดให้เข้าไปสักการะ กันได้ทุกวันตั้งแต่เวลา 08.00 -18.00 น. สายบุญอย่าพลาดตามไปไหว้พระกันน๊า!
หากใครที่อยากจะมาไหว้พระขอพรที่ วัดถ้ำเสือ สามารถเดินทางมาที่นี่ไม่ยากเลยค่ะ วัดถ้ำเสือ จะอยู่ห่างจาก เขื่อนแม่กลองแค่ 5 กิโลเมตร เท่านั้น โดยทางเข้า วัดถ้ำเสือ ต้องผ่านตัวเขื่อนแม่กลองเข้าไปค่ะ เมื่อเข้าไปแล้วจะมีป้ายบอกให้เลี้ยวขวาประมาณ 200 เมตร แล้วจึงเลี้ยวซ้ายประมาณ 200 เมตร ก็ถึงจุดหมายปลายทางแล้วค่ะ เดินทางง่ายสะดวกแถมยังอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพอีกด้วย ใครที่อยู่กรุงเทพก็ลองหาวันหยุด ออกมาเที่ยวเพิ่มพลังชีวิต เก็บเกี่ยวพลังงานความสุข ที่กาญจนบุรีกันนะคร้า!!