นายวีระพงศ์ มาลัย ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เผยว่า ที่ผ่านมา สสว. ได้มีการลงนามบันทึกความร่วมมือกับภาครัฐ และภาคเอกชนหลายแห่ง เพื่อเป็นการเอื้อต่อธุรกิจให้กับผู้ประกอบการ โดยเป็นไปตามกรอบการดำเนินงานของ สสว. คือ เพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุน ขยายช่องทางการตลาด และเชื่อมโยงแหล่งทุน
ผอ.สสว. กล่าวอีกว่า สำหรับการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมการสนับสนุนผู้ประกอบการให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนในการดำเนินธุรกิจครั้งนี้ เป็นการลงนามความร่วมมือระหว่าง สสว. ธนาคารออมสิน หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานสภาเกษตรกรแห่งชาติ และสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย
สำหรับวัตถุประสงค์ความร่วมมือดังกล่าวคือ เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนในการดำเนินธุรกิจ ซึ่งจะเป็นการเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้มากขึ้น ทำให้ผู้ประกอบการสามารถดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน
“การลงนามในบันทึกความร่วมมือครั้งนี้ คือหนึ่งในรูปธรรมของ สสว. ในการการเชื่อมโยงพัฒนาสิทธิประโยชน์ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจระหว่างหน่วยงานภาครัฐและเอกชนให้กับผู้ประกอบการ ซึ่งเป็นทิศทางการดำเนินการเพื่อผู้ประกอบการ โดย สสว. จะใช้เครื่องมือต่างๆ ของ สสว. ในการประชาสัมพันธ์การบริการของธนาคารออมสิน และหน่วยงานต่างๆ ที่ได้ร่วมลงนามครั้งนี้ เพื่อให้เกิดประโยชน์กับเอสเอ็มอีให้มากที่สุด
นางลภาวรรณ จันทร์กระจ่าง ผู้ช่วยผู้อำนวยการธนาคารออมสิน สายงานลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่และภาครัฐ เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจของประเทศ โดยเฉพาะผู้ประกอบการ SMEs ซึ่งเป็นเส้นเลือดหล่อเลี้ยงเศรษฐกิจไทยที่สำคัญ และธนาคารได้ออกมาตรการช่วยเหลือมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สอดรับกับนโยบายเปิดประเทศ และสนับสนุนให้ผู้ประกอบการ SMEs กลับมาดำเนินธุรกิจอีกครั้ง ธนาคารออมสินจึงพร้อมเป็นแหล่งทุนช่วยเหลือ ภายใต้ความร่วมมือในครั้งนี้ ด้วยสินเชื่อเงื่อนไขผ่อนปรนเป็นพิเศษ คือ สินเชื่อ SMEs มีที่ มีเงิน สำหรับธุรกิจ Small SMEs สำหรับเสริมสภาพคล่อง เพื่อการลงทุนหรือนำไปไถ่ถอนสัญญาขายฝากตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 เป็นต้นมา ให้กู้โดยพิจารณาจากที่ดินซึ่งเป็นหลักประกัน วงเงินกู้สูงสุดร้อยละ 70 ของราคาประเมินราชการไม่รวมสิ่งปลูกสร้าง อัตราดอกเบี้ยคงที่ 5.99% ตลอดสัญญา ระยะเวลาผ่อนชำระไม่เกิน 7 ปี โดยปลอดชำระเงินต้น 2 ปี ยื่นกู้ได้ภายในวันที่ 31 มีนาคม 2565 และ สินเชื่อ GSB Smooth BIZ เงินกู้เพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนหรือลงทุนในสินทรัพย์ถาวร หรือไถ่ถอนจำนองจากสถาบันการเงินอื่น อัตราดอกเบี้ยคงที่ 2 ปีแรก 2.99% ต่อปี ระยะเวลากู้ไม่เกิน 10 ปี วงเงินกู้สูงสุด 20 ล้านบาท รวมถึงสินเชื่ออื่นตามมาตรการช่วยเหลือต่าง ๆ อาทิ สินเชื่อ Soft Loan สำหรับ SMEs ท่องเที่ยวและธุรกิจเกี่ยวเนื่อง สินเชื่อ Soft Loan ธปท. เพื่อฟื้นฟูกิจการ เป็นต้น
นอกจากนี้ ในภาคเช้าของงานยังมีกิจกรรมซึ่งเป็นการประชาสัมพันธ์สิทธิประโยชน์สำหรับผู้ประกอบการ โดยหน่วยงานพันธมิตรที่เคยได้ร่วม MOU กับ สสว. ได้แก่ TikTok บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) Bank of China (Thai) บริษัท เทลสกอร์ จำกัด บริษัท ไทร เบคก้า เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย บริษัท เอก-ชัย ดิสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด (Lotus) สถาบันมูลนิธิสิ่งแวดล้อมไทย และ บริษัท เจนโทเซีย จำกัด มาร่วมประชาสัมพันธ์ให้กับผู้ประกอบการที่สนใจภายในงานดังกล่าวอีกด้วย