ศูนย์บริหารสถานการณ์ COVID-19 หรือ ศบค. ได้มีการแถลงข่าวเกี่ยวกับสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ในประเทศไทยในวันนี้ โดยในวันนี้ พบผู้ป่วยโควิด-19 จำนวน 14 คน แบ่งเป็น
- ผู้ป่วยโควิด-19 ที่ติดเชื้อในประเทศ (กทม. ) 2 ราย
- ผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ (เมียนมา) 2 คน
- ผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ และเข้า State Quarantine 10 คน
รวมในขณะนี้ ในประเทศไทย มีผู้ป่วยยืนยันสะสม จำนวน 4,086 คน หายป่วยแล้วสะสม จำนวน 3,853 คน ยังคงรักษาตัวอยู่ รพ. 173 คน และเสียชีวิตสะสม 60 คน
สำหรับผู้ป่วยที่พบในกรุงเทพมหานครนั้น รายแรกเป็นหญิงอายุ 26 ปี ซึ่งมีประวัติไปยังพื้นที่เสี่ยง และมีประวัติเดินทางไปฝั่งท่าขี้เหล็กประเทศเมียนมา ร่วมกับเคสผู้ป่วยชาย (สาวประเภทสอง) ในกรุงเทพมหานครอีกรายหนึ่งด้วย โดยมีประวัติการเดินทางไปยังสถานบันเทิงในท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมาร์ เมื่อช่วง พ.ย. ที่ผ่านมา
ก่อนลักลอบเข้าประเทศไทย เมื่อวันที่ 27 พ.ย. และเข้าพักใน โรงแรมในพืนที่อ.แม่สาย ก่อนที่จะมีการเดินทางท่องเที่ยวในพท. อ.แม่สาย และแยกกันเดินทางกลับกรุงเทพในคืนวันที่ 29 และ 30 พ.ย. และในเวลาต่อมา ชายอายุ 30 ปี จะมีอาการป่วยและตรวจพบเชื้อเมื่อวันที่ 4 ธ.ค. ที่ผ่านมา และในวันถัดมาก็ตรวจพบเชื้อในหญิงอายุ 26 ปี
ส่วนผู้ป่วยหญิงอีกรายหนึ่งในกรุงเทพฯ นั้นเป็นบุคลากรทางการแพทย์ อายุ 26 ปี ซึ่งทำงานอยู่ใน Alternative State Quarantine ซึ่งหลังจากตรวจพบการติดเชื้อ ก็ได้มีการกักตัว และดำเนินการมาตรการสอบสวนโรคต่อไป
กลุ่มเสี่ยงของผู้ป่วยในเคสนี้ เบื้องต้นพบผู้สัมผัส 15 ราย – เสี่ยงสูง 5 ราย – เสี่ยงต่ำ 10 ราย
สธ. แจง ยังไม่ถือเป็นระลอก 2
สำหรับกลุ่มการพบผู้ป่วยในระยะนี้ ยังคงเป็นสถานการณ์ที่ทางสาธารณสุขคาดการณ์ไว้แล้วว่า อย่างไรก็จะต้องมีเคสเกิดขึ้น ซึ่งสิ่งสำคัญคือการควบคุมการแพร่ระบาด และจากที่พบในขณะนี้ ก็จะเห็นว่า ยังคงเป็นการนำเชื้อจากต่างประเทศเข้ามาเป็นส่วนใหญ่ แม้ว่า จะมีการติดเชื้อในประเทศบางส่วน แต่ยังคงเป็นการระบาดในวงแคบมาก
ส่วนสถานการณ์ในจังหวัดเชียงราย ก็ยังถือว่า ควบคุมได้ กลุ่มที่ลักลอบเข้ามานั้น ยังไม่พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม-เฝ้าระวังต่อเนื่อง ส่วนระยะหลังนี้ในเชียงราย เป็นการพบใน State Qurantine ซึ่งถือเป็นเรื่องดี ในขณะที่ พิจิตร, พะเยา, ราชบุรี เป็นการพบการนำเชื้อเข้ามา แห่งละ 1 ราย และยังไม่พบการติดเชื้อเพิ่ม เก็บผู้สัมผัสใกล้ชิดได้หมด ไม่พบเชื้อ ดังนั้นถือว่าสบายใจได้ รอผลตรวจครั้งที่ 2
ดังนั้นสถานการณ์ในภาพรวมขณะนี้ ควบคุมได้ จัดการได้ หากพ้นช่วงกลางเดือนนี้ ไม่มีเคสเพิ่มก็สบายใจได้
ซึ่งในขณะนี้ ประเทศไทยยังไม่ได้เข้าสู่การระบาดในระลอก 2 แต่อย่างใด เนื่องจากผู้ป่วยส่วนใหญ่รับเชื้อจากต่างประเทศ มีแพร่กับผู้ใกล้ชิดในประเทศเพียง 2 ราย ดังนั้น ถือเป็นการติดเชื้อในวงที่แคบ ไม่ได้กว้างมา ถือว่า ยังไม่เข้าสู่ระลอก 2
สำหรับ 2 เคสใหม่ในวันนี้ ประเมินว่าจะได้รับเชื้อจากทางท่าขี้เหล็ก, ระหว่างเดินทางไป รพ. ก็ใช้รถยนต์ส่วนตัว ดังนั้นในส่วนของความเสี่ยงจึงอยู่กับผู้ใกล้ชิดของทั้งสองรายนี้เป็นหลัก ฝากผู้ใกล้ชิดทั้ง 2 ราย เฝ้าระวังติดตามอาการ และสามารถขอคำปรึกษา/รับการตรวจ ได้ที่ รพ.ใกล้บ้าน